นับเป็นหนึ่งในสามรุ่นของ BYD ที่เตรียมเจาะตลาดทั่วโลกต่อจาก BYD ATTO 3 และ BYD Dolphin นั่นก็คือ BYD SEAL เก๋งซีดานว่าที่ TESLA Killer
ล่าสุดเว็บรถยนต์ Carsales เผยภาพรถ BYD SEAL คู่แข่ง TESLA Model 3 แบบไร้พรางตัวเห็นจะๆที่จุดแวะพักมอเตอร์เวย์ Pacific ช่วงระหว่างเมืองซิดนีย์และนิวคาสเซิลโดยรุ่นที่เห็นนั้นว่ากันเป็นรุ่นท็อปสุด Extended Range AWD Performance มาพร้อมมอเตอร์ไฟฟ้าคู่พร้อมระบบขับเคลื่อนสี่ล้อมีความจุแบตเตอรี่ขนาด 82.5 kWh กำลังสูงสุด 530 แรงม้า กับ แรงบิดสูงสุดระดับ 670 นิวตันเมตร สามารถวิ่งได้ 650 กม./ชาร์จหนึ่งครั้ง (CLTC) แถมให้อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ทำได้ 3.8 วินาที โดยจุดสังเกตของรุ่นท็อปสุดด้านท้ายจะมีตัวอักษรว่า AWD และ 3.8 S ติดที่ฝากระโปรงท้าย
สำหรับสเปกที่จะขายในออสเตรเลียนั้นมีทั้งรุ่นเริ่มต้น Standard Range ขับเคลื่อนล้อหลังด้วยแบตเตอรี่ที่มีความจุ 61.4 kWh วิ่งได้ 550 กม./การชาร์จหนึ่งครั้ง ตามมาตรฐาน CLTC (China Light-Duty Vehicle Test Cycle) กำลังสูงสุด 204 แรงม้า กับแรงบิดสูงสุด 310 นิวตันเมตร อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ภายใน 7.5 วินาที รองรับการชาร์จเร็ว (DC fast charging) : 30-80% ภายในเวลา 30 นาที รองรับกำลังไฟในการชาร์จสูงสุด 110 kW
รุ่น Extended Range ขับเคลื่อนล้อหลัง (RWD) พร้อมความจุแบตเตอรี่ 82.5 kWh กำลังสูงสุด 313 แรงม้า กับแรงบิดสูงสุด 360 นิวตันเมตร สามารถวิ่งได้ 700 กม./การชาร์จหนึ่งครั้ง ตามมาตรฐาน CLTC สามารถทำอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ภายใน 5.9 วินาที รองรับการชาร์จเร็ว (DC fast charging) : 30-80% ภายในเวลา 30 นาที รองรับกำลังไฟในการชาร์จสูงสุด 150 kW
พร้อมดีไซน์หล่อล้ำอนาคต ตั้งแต่ไฟหน้า LED ชุดกันชนหน้าขึ้นรูปชิ้นเดียวมีกระจังหน้าปิดทึบอยู่ในชุดเดียวกัน กระจกแบบโอเปร่า ดีไซน์หรูหราดุจรถยุโรป เส้นสายของตัวถังที่ดูลื่นไหลนับตั้งแต่จมูกหน้ารถ แนวตัวถังด้านข้าง ต่อเนื่องไปจนถึงโคมไฟท้าย LED ที่วางแบบเต็มความกว้างท้ายรถติดตั้งดิฟฟิวเซอร์มาให้พร้อมสรรพล้อสีทูโทนดีไซน์เอกลักษณ์ ให้เลือกทั้งขนาด 18 กับ 19 นิ้ว พร้อมยาง 235/45R19 จาก Continental SportContact บนพื้นฐาน e-platform 3.0 ความยาว 4,800 มม. ความกว้าง 1,875 มม. ความสูง 1,460 มม. ฐานล้อ 2,920 มม. และน้ำหนัก 1,885-2,150 กก.
ห้องโดยสารเด่นทั้งเรื่องดีไซน์ตั้งแต่พวงมาลัยมัลติฟังก์ชันแบบ 3 ก้าน ทรงท้ายตัดพร้อมสันเพิ่มความกระชับให้กับอุ้งมือ มองลอดพวงมาลัยเป็นจอ Driver Display แสดงผลในรูปแบบดิจิตอล ถัดไปอีกเล็กน้อย คือ Head-up Display แสดงข้อมูลที่จำเป็นโดยที่ผู้ขับไม่ต้องละสายตาจากถนนเบื้องหน้าส่วนจอแสดงผล ระบบ Infotainment ขนาดใหญ่เต็มตาถึง 15.6 นิ้ว เชื่อมต่อ Apple Car Play Android Auto รองรับ 5G มีระบบเชื่อมต่ออัจฉริยะ DiLink ที่ชาร์จมือถือไร้สายรวมถึงหัวเกียร์คริสตัลรอบๆคันเกียร์รายล้อมด้วยปุ่มควบคุมการทำงานของจอสัมผัส เบาะนั่งทรงสปอร์ต หุ้มหนังอย่างประณีต และมีช่องเก็บของหลายจุดสามารถวางแก้วน้ำ
ด้านการเปิดตัวทางประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ BYD Australia ยืนยันว่าการเปิดตัว BYD SEAL จะเปิดตัวช่วงเดือนสิงหาคมนี้ซึ่งเท่ากับเมืองไทยอาจเปิดตัวไล่เลี่ยกับออสเตรเลีย หรือ ญี่ปุ่น จากเดิมที่จะเปิดตัวช่วงครึ่งปีหลังนี้ จับตากำหนดการเปิดตัวอย่างเป็นทางการจะเปิดช่วงไหนต้องติดตาม
ที่มา Carsales
