หลังจากที่คู่แข่งพีพีวีรายสำคัญเปิดตัวรุ่นเริ่มต้นใหม่ในราคา 1.2 ล้านกลางๆทำให้ Ford ตัดสินใจปรับลดราคาสู้สักตั้งกับ Ford Everest Trend
Ford Everest Trend มาพร้อมความคุ้มค่าด้วยออปชันที่จัดเต็ม ความสบายแบบ 7 ที่นั่ง สำหรับครอบครัวที่ชอบความพอเพียง
กระจังหน้าทั้งชิ้นดีไซน์รังผึ้งสีดำติดตราโลโก้ Ford กรอบไฟตัดหมอกหน้า LED สีดำ คิ้วใต้กันชนหน้าก็สีเดียวกับตัวรถเช่นกัน ไฟหน้า LED พร้อมไฟ Daytime รูปตัว C ในโคมเดียวกัน
ด้านข้างตกแต่งสีดำตั้งแต่ราวหลังคารถแบบ Built-In สีดำ เสาอากาศแบบเสาสั้น กระจกมองข้างพร้อมไฟเลี้ยว LED แต่ไม่มีไฟส่องสว่างใต้กระจกมองข้างกับที่เปิดประตูจะตกแต่งด้วยเดียวกับตัวรถช่องระบายอากาศตรงบังโคลนสองข้างเข้มด้วยสีดำผสมโครเมียม บันไดข้างสีดำ
ไฟท้าย LED ดีไซน์ใหม่ตัว U คว่ำ สัญญาณะกะระยะการจอดด้านหลัง 4 จุด ประตูท้ายเปิด-ปิดในชุดกันชนหลังแบบสีเดียวกับตัวรถพร้อมคิ้วสีเดียวกับตัวรถใต้กันชนหลังและล้ออัลลอยขนาดขนาด 18 นิ้ว พร้อมยาง 255/65 R18 พร้อมมิติตัวรถตั้งแต่
- ความยาว 4,914 มิลลิเมตร
- ความกว้าง 1,923 มิลลิเมตร
- ความสูง 1,842 มิลลิเมตร
- ฐานล้อ 2,900 มิลลิเมตร
- ความสูงใต้ท้องรถ 227 มิลลิเมตร
- น้ำหนักรถ 1,780-2,280 มิลลิเมตร
- ความจุถังน้ำมัน 80 ลิตร
ภายในมาพร้อมความสะดวกสบายเริ่มที่หน้าจอสัมผัสในรุ่นปกติมาแบบ 10.1 นิ้วแนวตั้ง มาพร้อมระบบเชื่อมต่อการสื่อสาร SYNC® 4A พร้อมรองรับการสั่งงานด้วยเสียงเพื่อการสื่อสาร ควบคุมอุปกรณ์เพื่อความบันเทิงและเข้าถึงข้อมูลต่างๆ รองรับ Apple CarPlay แบบไร้สาย และ Android Auto พร้อมลำโพง 8 จุด
พร้อมแอปพลิเคชัน FordPass™ ช่วยให้ลูกค้านัดเข้ารับบริการผ่านช่องทางออนไลน์สั่ง สตาร์ทรถผ่านทางแอปฯ ได้ สามารถในการสตาร์ทรถจากระยะไกล การตรวจเช็คสถานะต่างๆ ของรถ รวมไปถึงการล็อก และปลดล็อกผ่านโทรศัพท์มือถือ
แผงคอนโซลหน้าสีดำพร้อมด้วยมาตรวัดดิจิทัลขนาด 8 นิ้ว พวงมาลัยมัลติฟังก์ชัน 3 ก้าน คอนโซลกลางพร้อมที่วางแก้วน้ำ 2 ตำแหน่งที่วางแก้วน้ำแบบพับเก็บได้สำหรับเบาะคู่หน้า ระบบการชาร์จแบบไร้สาย เกียร์อัตโนมัติหุ้มด้วยหนังดีไซน์คุ้นเคย พร้อมเบรกมือไฟฟ้า กับ Auto Hold ไปอยู่ในจอสัมผัส ช่องต่อไฟ 12V (12V Power Sockets) หลังกล่องคอนโซลกลาง มีสวิตช์ควบคุมการทำงานของแอร์หลังได้ กระจกมองหลังธรรมดา
เบาะนั่ง 7 ที่นั่งหุ้มหนังแท้กับหนังสังเคราะห์สีดำโดยฝั่งคนขับปรับด้วยมือ 8 ทิศทาง เบาะนั่งแถวที่ 2 พับได้แบบแบ่ง 60:40 เลื่อนเบาะคล้ายเบาะแคปในรถกระบะเบาะนั่งแถวที่ 3 ซึ่งทำให้รถจุผู้โดยสารได้ 7 คน แบ่งที่นั่งในอัตราส่วน 50:50 และพับได้แบบธรรมดาที่สำคัญเบาะแถวที่ 2 และ 3 ยังพับได้แบบแบนราบเพื่อการบรรทุกสัมภาระยาวๆ
ดีเซลเทอร์โบเดี่ยว 2.0 ลิตร 4 สูบแถวเรียงรหัส P0WS ให้กำลังสูงสุด 170 แรงม้าที่ 3,500 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 405 นิวตันเมตรที่ 1,750-2,500 รอบต่อนาที ผ่านมาตรฐาน EURO5 สามารถเติมน้ำยาบำบัดไอเสียดีเซลหรือ AdBlue® เพื่อลดการปล่อยไอเสียที่เป็นมลพิษต่อสิ่งแวดล้อมในขณะที่ขับขี่ จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด 6R80 ตอบโจทย์ความต้องการในการทำงานอย่างตรงจุด ปล่อยไอเสีย CO2 เพียง 182 กรัมต่อกิโลเมตร
พร้อมโหมดการขับขี่ให้เลือกถึง 4 โหมด ได้แก่ โหมดปกติ Normal, โหมดประหยัด ECO, โหมดถนนลื่น Slippery, โหมดลากจูงและบรรทุก Tow/Haul ลุยน้ำได้สูงสุดถึง 800 มิลลิเมตร
ช่วงล่างด้านหน้าแบบอิสระปีกนกคู่คอยล์สปริงและเหล็กกันโคลง ส่วนด้านหลังเป็นแบบคอยล์สปริงพร้อมวัตต์ลิงค์และเหล็กกันโคลงโช้คอัพแก๊ส 4 ต้นเน้นการนุ่มนวลหนึบไม่กระด้างเกาะถนนดี พวงมาลัยพาวเวอร์เป็นแบบไฟฟ้า EPS (Electronic Steering Program) น้ำหนักเบาคล่องตัวดีและความปลอดภัยรอบคันทั้ง
ถุงลมนิรภัย 7 จุด คู่หน้า/ด้านข้าง/ม่านถุงลมนิรภัยและถุงลมบริเวณหัวเข่า ระบบช่วยโทรฉุกเฉิน สัญญาณเตือนระยะจอดด้านหน้าและด้านหลัง กล้องมองหลังขณะถอยจอด ระบบป้องกันล้อล็อก ABS กระจายแรงเบรก EBD ดิสก์เบรก 4 ล้อ ควบคุมเสถียรภาพการทรงตัว ESP ป้องกันล้อหมุนฟรี TCS
ช่วยการออกตัวขณะจอดบนทางลาดชัน HLA ลดความเสี่ยงจากการพลิกคว่ำ ROM และควบคุมความเร็วอัตโนมัติ Cruise Control ธรรมดา
Ford Everest Trend ลดราคาโหดจาก 1,392,000 บาท พิเศษเพียง 1,249,000 บาท (ลดลงจากเดิม 143,000 บาท) มาพร้อมโปรแกรม Ford Care การรับประกันเครื่องยนต์และระบบส่งกำลังนาน 5 ปี หรือ 150,000 กิโลเมตร แล้วแต่ระยะใดถึงก่อน และฟรีค่าแรงเช็กระยะ พร้อมบริการช่วยเหลือฉุกเฉิน 24 ชั่วโมง นาน 5 ปี ถึงสิ้นปีนี้ พร้อมสีภายนอกดังนี้
- สีเงิน Aluminium Metallic
- สีขาวมุก Snowflake White Pearl (เพิ่มเงิน 12,000 บาท)
- สีเทา Meteor Grey
- สีดำ Absolute Black