หลังจากเปิดตัวครั้งแรกในโลกที่เมืองไทยและได้รับการตอบรับอย่างดีทั้งไทยและต่างประเทศสำหรับ ISUZU D-MAX EV ปิกอัพไฟฟ้าล้วนรุ่นแรกของค่ายอีซูซุ
ล่าสุด ISUZU พร้อมแล้วที่จะเริ่มส่งออก ISUZU D-MAX EV ปิกอัพพลังไฟฟ้าล้วนในประเทศไทยไปยังกลุ่มประเทศยุโรป
เริ่มจากรุ่นพวงมาลัยซ้ายส่งไปยังประเทศหลักๆในยุโรปเพื่อจำหน่ายในไตรมาสที่ 3 ของปี 2025 ประเดิมด้วยประเทศนอร์เวย์ ส่วนรุ่นพวงมาลัยขวากำหนดจะมีขึ้นช่วงปลายปีนี้คาดว่าจะเริ่มจำหน่ายในสหราชอาณาจักรในปี 2026 และจะขยายไปยังประเทศและเขตอื่นๆเช่น ออสเตรเลีย ไทย ขึ้นอยู่กับ ความต้องการของตลาดและความพร้อมของสาธารณูปโภคด้านสถานีชาร์จรถไฟฟ้าเนื่องจากวิธีการใช้งานของลูกค้าแตกต่างกัน ด้วยพื้นฐานรุ่น 4 ประตูมีขนาดดังนี้
- ความยาว 5,280 มิลลิเมตร
- ความกว้าง 1,870 มิลลิเมตร
- ความสูง 1,810 มิลลิเมตร
- ฐานล้อ 3,125 มิลลิเมตร
- น้ำหนักรถ 2,350 กิโลกรัม
รูปร่างหน้าตานั้นไม่ต่างจาก ISUZU V-Cross 4×4 ตั้งแต่ กระจังหน้าแนวนอนแบบเขี้ยว 2 ชั้นซ่อนรูป ดีไซน์เอกลักษณ์พร้อมตรา ISUZU ขนาดใหญ่แบบ 3-Dimension สี Dark Grey ขลิบสีน้ำเงิน สอดรับกับไฟหน้า ISUZU Vision Bi-LED พร้อม Multifunctional Daylight ทำหน้าที่ทั้ง Daylight ไฟหรี่ และไฟเลี้ยวที่ย้ายมาอยู่ในโคมเดียวกัน
ลงตัวกับชุดกันชนหน้าดีไซน์ใหม่ผสมผสานดีไซน์ช่องระบายอากาศทรงหกเหลี่ยมพร้อม Air Curtain นวัตกรรม Aerodynamic ลดแรงต้านอากาศ แบบฉบับ รถสปอร์ตหรู ไฟตัดหมอกหน้า LED ฝาท้ายใหม่ดีไซน์รูปตัว H พร้อมสปอยเลอร์ในตัวกระบะท้าย ไฟท้ายแบบ Triple-Armour LED กระจกมองข้างพร้อมไฟเลี้ยว LED ล้ออัลลอยลายเดียวกับรุ่น V-Cross 4×4 ขนาด 18 นิ้ว ตกแต่งทูโทนปัดเงา พร้อมยาง 265/60 R18 และราวหลังคาทรงบิ๊วอินน์
ภายในแม้ยังไม่มีการเผยแต่เชื่อได้เลยว่ายกมาจากเวอร์ชันดีเซลทั้งชุดมาตรวัดเรืองแสงพร้อมจอขนาดใหญ่ 7 นิ้ว Multitasking System เชื่อมต่อข้อมูลกับหน้าจอ Integrated MID แสดงผลได้หลายมาพร้อมไฟแสดงการชาร์จแบตเตอรี่ แสดงข้อมูลได้หลากหลายรูปแบบปรับเปลี่ยนดีไซน์หน้าจอได้ 2 สไตล์ และเชื่อมต่อข้อมูลกับ Infotainment Display สะดวกยิ่งขึ้น
ชุดแผงคอนโซลหน้า Sharp Horizontal Layers เพื่อการใช้งานที่สะดวกสบาย โทนสีดำเงิน พวงมาลัยมัลติฟังก์ชันปรับระดับได้ 4 ทิศทาง เบาะนั่งคนขับปรับไฟฟ้า 8 ทิศทาง
หน้าจอระบบสัมผัส Infotainment Display ขนาด 9 นิ้ว รองรับการใช้งานทั้งระบบ Wireless Android Auto และ Wireless Apple CarPlay ระบบแสดงองศามุมปีนไต่ ลาดเอียง และทิศทางการเลี้ยวของล้อ ที่หน้าจอ Integrated MID และ Infotainment Display ลุยได้อย่างมั่นใจยิ่งขึ้น และ Charging Socket แบบ USB-C ชาร์จได้รวดเร็วทั้งที่นั่งด้านหน้าและด้านหลัง
ระบบเสียงรอบทิศทาง 8 ลำโพง Dynamic Surround Sound แผงควบคุมระบบปรับอากาศแบบ Dual Zone ควบคุมอุณหภูมิอิสระซ้าย-ขวา สามารถกรองฝุ่นขนาดเล็กได้ถึงระดับ PM 2.5 ปุ่ม Push Start พร้อมกุญแจแบบ Keyless Entry พร้อมฟังก์ชัน Remote Engine Start สตาร์ทเครื่องยนต์ด้วยกุญแจรีโมทในระยะ 20 เมตร
ขุมพลังไฟฟ้าล้วนด้วยชุดมอเตอร์คู่ขับเคลื่อนสี่ล้อ Full Time และเฟืองท้ายภายใต้ “eAxle” พัฒนาขึ้นใหม่ ทำงานร่วมกันทั้งด้านหน้าและด้านหลัง ช่วยให้มั่นใจในสมรรถนะอันยอดเยี่ยมบนพื้นที่ทุรกันดาร ระบบนี้ยังให้พลังเร่งแซงสูงแบบคงที่ตามแบบฉบับของรถยนต์ไฟฟ้า ขณะเดียวกันก็ลดเสียงรบกวนและการสั่นสะเทือน
เริ่มที่ มอเตอร์ไฟฟ้ากำลังสูง 2 ตัวโดยมอเตอร์ไฟฟ้าคู่หน้า กำลังสูงสุด 54 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 108 นิวตันเมตรและมอเตอร์ไฟฟ้าด้านหลัง กำลังสูงสุด 122 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 217 นิวตันเมตร แรงม้ารวมสูงสุด 190 แรงม้า แรงบิดรวม 325 นิวตันเมตร วิ่งไกลต่อการชาร์จหนึ่งครั้งประมาณ 361 กิโลเมตร (WLTP) หรือ 425 กิโลเมตร (NEDC)
ให้ความเร็วสูงสุดมากกว่า 130 กิโลเมตรต่อชั่วโมงจากความจุแบตเตอรี่ลิเธียมไอออน 66.9 kWhด้านการชาร์จทั้งกระแสตรง DC รองรับกำลังสูงสุด 50 kW 20-80% ภายใน 1 ชั่วโมง และกระแสสลับ AC รองรับกำลังสูงสุด 11 kW 0-100% ภายใน 10 ชั่วโมง
นอกจากนี้ ความสามารถในการลากจูงและน้ำหนักบรรทุกที่สูง จากมอเตอร์ไฟฟ้าที่ทรงพลังรวมถึงโครงสร้างและตัวถังที่แข็งแรงมีความสามารถในการลากจูงสูงถึง 3.5 ตัน (3,500 กิโลกรัม) น้ำหนักบรรทุกสูงสุด 1 ตัน (1,010 กิโลกรัม) ผสานกับช่วงล่างด้านหลังใหม่หมดแบบ De-Dion มั่นใจบนทุกสภาพถนน
โดยมอเตอร์ไฟฟ้าคู่กำลังสูงและการออกแบบโครงและตัวถังที่แข็งแกร่งช่วยเพิ่ม ความสามารถในการลากจูงได้ ทำให้ ISUZU D-MAX EV สามารถเทียบเคียงกับสมรรถนะของรุ่นดีเซลที่มีอยู่ปัจจุบันได้ และระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ ADAS ครบครัน โดยผลิตที่โรงงาน ISUZU Motors สำโรง สมุทรปราการ
