Toyota AQUA เจเนอเรชันที่ 2 เดินหน้าขายต่อไปแม้หลายประเทศในชื่อ Prius C จะยุติไปล่าสุดเปิดตัวรุ่นไมเนอร์เชนจ์ปรับครั้งแรกในรอบ 4 ปี
Toyota AQUA ไมเนอร์เชนจ์ครั้งนี้ดูดีขึ้นสปอร์ตขึ้นในร่างเจเนอเรชันที่ 2 รหัส XP210 หล่อขึ้นทันตาด้วยการดีไซน์ยกมรดกจากรุ่นอื่นๆในค่ายด้วย กระจังหน้าแบบ Hammerhead กริตเตอร์ขอบใหญ่ มีปีกซ้ายขวาดีไซน์เอกลักษณ์สีเดียวกับตัวรถพร้อมตราโลโก้สามห่วง กันชนหน้าดีไซน์ใหม่แปลกตากว่าเดิมช่องระบายอากาศออกแบบใหม่ทรงหกเหลี่ยมในชุดกันชนหน้า
ไฟหน้า Bi-Beam LED โคมใหม่พร้อมเส้นไฟเหนือไฟหน้ารูปตัว C ที่เป็นทั้งไฟส่องสว่างเวลากลางวัน LED พาดยาว เป็นไฟเลี้ยว LED และไฟ LED แบบ clearance lamp ในโคมเดียวกัน กระจกมองข้างทรงสปูน สปอยเลอร์ท้ายพร้อมไฟเบรก เข้มด้วยไฟท้าย LED แนวยาวมีแถบสีดำที่ฝาท้ายเสริมสปอร์ต
ล้ออัลลอยลายหลายขนาดตั้งแต่ ล้ออัลลอยและกระทะล้อติดฝาครอบขนาด 15 นิ้ว พร้อมยาง 185/65R15 และลายทูโทนปัดเงาใหม่ขนาด 16 นิ้วพร้อมยาง 195/55R16 จากแพลตฟอร์ม TNGA-B แพลตฟอร์มแบบเดียวกับ Yaris ด้วยมิติตัวรถดังนี้
- ความยาว 4,080 มิลลิเมตร
- ความกว้าง 1,695 มิลลิเมตร
- ความสูง 1,485-1,505 มิลลิเมตร
- ฐานล้อ 2,600 มิลลิเมตร
- ระยะต่ำสุดจากพื้น 140-155 มิลลิเมตร
- น้ำหนักรถ 1,120-1,240 กิโลกรัม
- ความจุถังน้ำมัน 36 ลิตร
ภายในจัดวางฟังก์ชันต่างๆให้ใช้งานง่ายและสะดวก ไม่ว่าจะเป็น มาตรวัดแบบดิจิทัลพร้อมจอ MID แบบสี TFT ขนาด 7 นิ้ว จอสัมผัสขนาดใหญ่ 8 และ 10.5 นิ้ว รองรับ T-Connect Navigation Apple CarPlay Android Auto ช่องชาร์จไฟ 1,500 W เบาะนั่งปรับแบบ turn-tilt สามารถหมุนเข้าออกได้ และ easy return เด่นด้วยพวงมาลัยมัลติฟังก์ชันสามก้านหุ้มหนัง เบาะนั่งหุ้มหนังสังเคราะห์และผ้าลายสก็อต กระจกมองข้างปรับลดแสงอัตโนมัติ พร้อมบันทึกการขับขี่ช่องเก็บของมากถึง 13 จุด
พร้อมจอแสดงข้อมูลการขับขี่เหนือแผงคอนโซลหน้า HUD กุญแจรถแบบ Smart entry เบรกมือไฟฟ้าพร้อม Auto Hold ย้ายไปอยู่ข้างคอนโซลเกียร์จิ๋ว และระบบอุ่นที่เบาะนั่งและพวงมาลัย เครื่องปรับอากาศอัตโนมัติมาพร้อมฟอกอากาศในรถยนต์ Nanoe X ดักจับฝุ่น PM 2.5 ช่วยให้อากาศบริสุทธิ์
ขุมพลังเป็นเบนซิน Dynamic Force Hybrid รหัส M15A-FXE 1.5 ลิตร 91 แรงม้าที่ 5,500 รอบต่อนาที แรงบิด 120 นิวตันเมตรที่ 3,800-4,800 รอบต่อนาที จับคู่กับมอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัว Toyota Hybrid System II (THS II) คู่หน้าแบบ 1NM 80 แรงม้า แรงบิด 141 นิวตันเมตร และ 1MM 5.3 แรงม้า แรงบิด 52 นิวตันเมตร
แบตเตอรี่ nickel–metal hydride ความจุไฟฟ้า 5.0 Ah ให้กำลังรวมถึง 116 แรงม้า จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ E-CVT ขับเคลื่อน 2 ล้อและขับเคลื่อน 4 ล้อ E-Four พร้อมโหมดการขับขี่ทั้ง Normal/POWER+/Eco Drive และ EV พร้อมระบบความปลอดภัย Toyota Safety Sense มีกล้อง ADAS ที่มาพร้อม
- ควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบเรดาร์ Full-speed Range Radar Cruise Control,
- แจ้งเตือนเมื่อรถเบี่ยงออกนอกเลน Lane Tracing Assist
- ช่วยจอดอัจฉริยะ Teammate Advanced Park systems
- ใหม่!! Smooth Stop Control ควบคุมการหยุดรถอย่างนุ่มนวล ซึ่งเป็นเทคโนโลยีเดียวกับรุ่น Century SUV Alphard และ VELLFIRE PHEV เป็นออปชันมาตรฐานครั้งแรกในกลุ่มรถเล็กของค่าย โดยทำหน้าที่ควบคุมระบบเบรกหน้าและหลังควบคู่กัน เพื่อป้องกันอาการเบรกหน้าทิ่ม ช่วยลดความเสี่ยงจากการเบรกกะทันหัน
ราคาจำหน่ายของ Toyota AQUA มี 3 เกรดทั้งรุ่น X,G และรุ่นท็อป Z อยู่ที่ 2,486,000-3,022,800 YEN หรือราว 543,000-665,000 บาท แต่ถ้านำเข้ามาขายในไทยราคาขายรวมภาษีนำเข้าจะอยู่ที่ 1,019,000-1,249,000 บาท
ที่มา Carwatch