เกือบ 70 ปี ที่ Mercedes-Benz SL รับหน้าที่เป็นโรสเตอร์เปิดประทุน 2 ประตู ที่สร้างตำนานจนกลายรถยนต์อีกหนึ่งรุ่นของค่ายดาวสามแฉก
ที่ได้รับการตอบรับที่ดีมายาวนานถึงหน้าตาและเทคโนโลยีจะเปลี่ยนไปตามยุคตามสมัยก็ตามและเมื่อ Mercedes-Benz S-Class เปิดตัวในเวอร์ชั่นซีดานเปิดตัวไปแล้วมีหรือรถคู่บุญอย่าง Mercedes-Benz SL จะไม่เปิด ตัวล่าสุดเปิดตัวเป็นที่เรียบร้อยแล้วในเจเนอเรชั่นที่ 8 ในรหัส R232 มาในชื่อใหม่กับ Mercedes-AMG SL ที่ขอพ่วงความโหดความจากโรงงาน AMG มาเต็มคัน หน้าตาคล้ายละม้ายกับรถแรงทุกรุ่นของ AMG ตั้งแต่กระจังหน้าแบบแนวตั้ง AMG-specific radiator trim 15 ซี่ ประกบกับไฟหน้าแบบ MULTIBEAM LED รับกับกันชนหน้าทรงสปอร์ต ฝากระโปรงแนวยาวคล้ายกับรุ่น GT C Roadster ล้ออัลลอยขนาดใหญ่ 20 นิ้ว มีให้เลือกหลายลายจับคู่กับยาง 265/40 ZR 20 สำหรับล้อหน้าและขนาด 295/35 ZR 20 สำหรับล้อหลัง และขนาด 19 นิ้วพร้อมยาง 255/45 ZR 19 สำหรับล้อหน้า และ 285/40 ZR 19 สำหรับล้อหลัง ช่องระบายอากาศขนาดเล็กโดดเด่นข้างๆบังโคลนซ้าย-ขวา กับกระจกมองข้างทรงสปูนและไฟเลี้ยว
เสา A ตกแต่งด้วยสีดำกลมกลืนกับหลังคาผ้าใบวัสดุคุณภาพสูง 3 ชั้นที่มีผิวสัมผัสนุ่ม มีโครงสร้างเป็นโลหะผสมแมกนีเซียมและอะลูมิเนียมที่มีน้ำหนักเบาถึง 21 กก. และเปิด-ปิดอัตโนมัติในเวลา 15 วินาที และใช้งานได้แม้ขณะรถวิ่ง ที่ความเร็วสูงสุดที่ 60 กิโลเมตรต่อชั่วโมงและยังออกแบบให้หลังคาผ้าใบเก็บอย่างแนบเนียนไม่บดบังพื้นที่ในการขนของ ไฟท้าย LED สวยงามและสปอยเลอร์หลังซ่อนรูปเปิด-ปิดได้ถึง 5 ตำแหน่ง ตัวรถใหญ่ขึ้นด้วยความยาว 4,705 มม. ความกว้าง 1,915 มม. ความสูง 1,359 มม. ฐานล้อ 2,700 มม. น้ำหนักรถ 1,950 กก.
ภายในมาพร้อมเอกลักษณ์ที่โดดเด่นตามสไตล์ รุ่น SL กับชุดจอ MBUX Hyperscreen มาตรวัดดิจิทัล 3D digital แบบ 12.3 นิ้ว, หน้าจอกลาง MBUX Infotainment ขนาดใหญ่แบบเดียวกับ S-Class 11.9 นิ้ว พร้อมเครื่องเสียงจาก Burmester รวมถึงเบาะนั่งหนังแท้คุณภาพสูง และยังเป็นรถที่สามารถนั่งได้ 4 ที่นั่งแม้ที่นั่งหลังอาจนั่งได้นิดนึงก็ตาม
ขุมพลังมีขนาดเดียวคือเครื่องยนต์เบนซินเทอร์โบคู่ V8 4.0 ลิตรในรหัส M177 ที่งานนี้มีความแรงให้เลือกถึง 2 ระดับ เริ่มตั้งแต่ 350 แรงม้าที่ 5,500-6,500 รอบ/นาที แรงบิด 700 นิวตันเมตรที่ 2,250-4,500 รอบ/นาที ในรุ่น Mercedes-AMG SL 55 4MATIC+ และ 585 แรงม้าที่ 5,500-6,500 รอบ/นาที แรงบิด 800 นิวตันเมตรที่ 2,500-5,000 รอบ/นาที ในรุ่น Mercedes-AMG SL 63 4MATIC+ ทั้งสองขนาดจับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 9 สปีด AMG SPEEDSHIFT MCT 9G และระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ Fully variable AMG Performance 4MATIC+ all-wheel drive และระบบ AMG DYNAMIC SELECT ที่สามารถปรับได้ 5 โหมด ตั้งแต่ โหมด Classic, Sport, SuperSport, Track Pace และ Discreet
พร้อมช่วงล่างแบบ AMG Active CONTROL Suspension ของทั้ง 4 ล้อมีทั้งอิสระปีกนก แกนบังคับเลี้ยว และโครงฐานคุมล้อ (hub carrier) ที่หล่อจากอะลูมิเนียมเพื่อลดน้ำหนักที่ไม่จำเป็น โดยล้อทั้ง 4 จะถูกควบคุมโดยกลไกปีกนกแบบ 2 ชั้น เพื่อเพิ่มความแม่นยำในการหมุนของล้อและการเข้าโค้งด้วยความเร็วสูงสำหรับ Mercedes-AMG SL ทั้ง 2 รุ่น พร้อมจำหน่ายจริงทั่วโลกเร็วๆนี้ซึ่งอาจรวมถึงเมืองไทยด้วย
ที่มา Carscoops และ Damlier
