อีกหนึ่งรุ่นที่เปิดตัวพร้อมกับอีกสองรุ่นจากค่าย LDV หรือ MAXUS นั่นคือ LDV eDeliver 9 รถตู้ไซซ์ใหญ่ที่มาพร้อมพลังขับไฟฟ้าล้วน
ด้วยหน้าตาไม่ต่างจาก LDV Deliver 9 แต่มีการปรับเปลี่ยนเพื่อเข้ากับตัวตนตั้งแต่กระจังหน้าโครเมียมที่ไส้ในกลายเป็นทรงทึบ พร้อมที่เปิดหัวชาร์จในบริเวณกระจังหน้า ไฟหน้า Projector พร้อมไฟ DRL แบบ LED ในโคมเดียวกัน กันชนหน้า พร้อมชุดไฟแนวตั้ง กระจกมองข้างแนวตั้งพร้อมไฟเลี้ยว ล้ออัลลอยและกระทะล้อขนาด 16 นิ้ว พร้อมยาง 215/75R16C ไฟท้ายสีขาวแดงแนวตั้ง พร้อมประตูสไลด์เปิดด้านข้างซ้ายมือ ฝาท้ายเปิดได้สองด้านแบบประตูตู้กับข้าวเปิดได้กว้างสุด 236 องศา
ภายในให้ข้าวของตามความเป็นจริงตั้งแต่ มาตรวัดเรืองแสงพร้อมจอ LCD ขนาด 4.2 นิ้ว พวงมาลัยมัลติฟังก์ชันสามก้าน จอสัมผัสขนาดใหญ่ 10.1 นิ้ว รองรับ Apple CarPlay พร้อมช่องเสียบ USB 2 จุด พร้อมกล้องมองหลัง เบาะคนขับปรับสูงต่ำได้ 8 ทิศทางและเบาะนั่งตอนหน้าอีกสองที่นั่งและด้านหลังมีพื้นที่โล่งในการบรรทุกของมากขึ้น
ยกขุมพลังไฟฟ้ามาจาก LDV eT60 ด้วยความจุแบตเตอรี่ Lithium Iron Phosphate (LFP) 88.55 kWh มอเตอร์ไฟฟ้าเดี่ยวลงสู่ล้อหลังให้พลังมากสุด 204 แรงม้า แรงบิด 310 นิวตันเมตร ความเร็วสูงสุด 90 กม./ชม. วิ่งไกลสุด 275 และ 280 กม./การชาร์จหนึ่งครั้ง (WLTP) และอีกรุ่นที่ความจุแบตลดลงเหลือ 65 kW แต่ให้แรงม้าแรงบิดเท่ากันแต่วิ่งไกลสุด 150 กม./ชาร์จหนึ่งครั้ง มีโหมดการขับขี่สามโหมดทั้ง Power, Normal & Eco ด้านการชาร์จโดยชาร์จช้า AC กระแสสลับ รองรับกำลังการชาร์จสูงสุด 11 kW โดยชาร์จตั้งแต่ 5-100% แบบเฝสเดียว 11-12 ชม. และสามเฝด 6.5 และ 8 ชม. ส่วนชาร์จเร็ว DC กระแสตรง รองรับกำลังการชาร์จสูงสุด 80 kW ภายในเวลา 36 และ45 นาที
LDV eDeliver 9 ขายทั้งรุ่นหลังคาสูง รุ่นหลังคามาตรฐานและรุ่นหัวกระสือ หรือ Cab Chassis ฐานล้อยาวจำน่ายในราคา $99,990-$118,836 หรือราว 2,409,000- 2,865,000 บาท เป็นราคาไม่รวมภาษีนำเข้าของไทยและค่า on-road costs ของออสเตรเลีย
ที่มา Carexpert
