Tesla ยังคงเดินหน้าผลักดันระบบขับขี่อัตโนมัติอย่างจริงจัง ด้วยจุดเด่นด้านซอฟต์แวร์และเทคโนโลยีที่อัปเดตได้ผ่าน OTA ทำให้รถฉลาดขึ้นเรื่อย ๆ ล่าสุดบริษัทเตรียมยกระดับความสามารถของ Full Self-Driving (FSD) ไปอีกขั้น ด้วยฮาร์ดแวร์รุ่นใหม่ “AI5” ที่ Elon Musk เผยว่าจะเข้ามาแทน HW4 และเป็นก้าวสำคัญสู่ยุค Robotaxi ในอนาคตอันใกล้
AI5 คือการก้าวกระโดดจาก HW4 สู่ยุค Robotaxi
ชิป AI5 ถูกพัฒนาขึ้นเพื่อเป็นชิปคอมพิวเตอร์รุ่นถัดไปสำหรับระบบขับเคลื่อนอัตโนมัติของ Tesla ก่อนหน้านี้ Tesla ใช้ Hardware 4 (HW4) เป็นสมองหลักของระบบFull Self-Driving (FSD) ในรถรุ่นใหม่มากว่า 1 ปี โดย HW4 เน้นความแม่นยำด้านการประมวลผลภาพและรองรับโมเดล AI ที่ซับซ้อนกว่า HW3 อย่างมาก แต่ Elon Musk ซีอีโอของ Tesla มองว่าความสามารถระดับ Robotaxi และการขับขี่ไร้คนขับอย่างสมบูรณ์ ยังต้องใช้พลังในการประมวลผลสูงกว่าเดิมอีกหลายเท่า
ซึ่ง Elon Musk เปิดเผยข้อมูลใหม่เกี่ยวกับคอมพิวเตอร์รุ่นถัดไปที่คาดว่าจะมีการใช้ชื่อ Hardware 5 (HW5) ต่อจาก HW4 แบบเดิม แต่มีการยืนยันว่าชื่อใหม่จะเปลี่ยนเป็น AI5 แทน เพื่อสะท้อนบทบาทด้าน AI ที่ชัดเจนรุ่นก่อนหน้า โดย AI5 จะเริ่มถูกติดตั้งในรถ Tesla รุ่นใหม่แทนที่ชิปแบบเก่า
ระบบอัจฉริยะที่อาจปฏิวัติรถยนต์และหุ่นยนต์ Optimus
AI5 ถูกออกแบบมาเป็นพิเศษสำหรับการใช้งานของ Tesla โดยมันไม่เพียงแต่เป็นฮาร์ดแวร์ยุคถัดไปสำหรับระบบขับเคลื่อนอัตโนมัติเท่านั้น แต่จะถูกนำมาใช้กับโปรแกรมหุ่นยนต์ Optimus และฟีเจอร์ AI อื่น ๆ ทั้งในรถยนต์และโครงการอื่น ๆ ด้วย
Elon Musk กล่าวว่า AI5 คือ การออกแบบที่น่าทึ่งและเป็นการก้าวกระโดดครั้งใหญ่ จากชิป HW4 โดยตัวเลขที่น่าสนใจคือ:
- ความเร็วในการประมวลผล มากกว่าเดิมประมาณ 40 เท่า
- พลังการคำนวณดิบ สูงขึ้น 8 เท่า
- ความจุหน่วยความจำ เพิ่มขึ้น 9 เท่า
นอกจากนี้ คาดว่าจะสามารถ ประหยัดพลังงานต่อวัตต์ได้ดีกว่า AI4 แบบเก่าถึง 3 เท่า ซึ่งมีความจำเป็นสำหรับการประมวลผลแบบเรียลไทม์ (Real-time inference) ที่มีผลต่อการตัดสินใจในการขับขี่ที่ปลอดภัย
การผลิตที่มีท้าทายด้านสถาปัตยกรรมใหม่
Sedaily สำนักข่าวเศรษฐกิจและธุรกิจชั้นนำของเกาหลีใต้รายงานว่า โครงการ AI5 ของ Tesla กำลังเดินหน้าอย่างรวดเร็ว โดย Samsung หนึ่งในซัพพลายเออร์หลักกำลังเตรียมไลน์ผลิตชิป AI5 ในสหรัฐอเมริกา ซึ่งจะใช้กระบวนการผลิตแบบ 2 นาโนเมตร (2nm) เทคโนโลยีผลิตชิป ระดับสูงที่ทำให้ทรานซิสเตอร์มีขนาดเล็กลง ใช้พลังงานน้อยลง แต่ให้ประสิทธิภาพสูงขึ้น ถือเป็นความท้าทายสำคัญของสายการผลิตขั้นสูงนี้
ขณะเดียวกัน TSMC ผู้ผลิตอีกรายที่ได้รับสัญญา จะมีการใช้กระบวนการผลิตแบบ 3 นาโนเมตร (3nm) ซึ่งเป็นเทคโนโลยีล้ำสมัย ให้ความแรงในการประมวลผลมากขึ้น พร้อมช่วยลดการใช้พลังงานลงเมื่อเทียบกับรุ่นก่อนหน้า
แม้ชิปจะถูกผลิตจากผู้ผลิตที่ต่างกัน แต่เป้าหมายคือการทำให้ทั้งสองเวอร์ชันทำงานได้เหมือนกันทุกประการ ซึ่งเป็นความท้าทายทางเทคนิคที่ใหญ่และซับซ้อนมากสำหรับ Tesla
Elon Musk ระบุว่า AI5 จะเริ่มถูกนำมาใช้ในปีหน้า 2026 แค่ส่วนน้อย และจะยังไม่มีการผลิตแบบเต็มรูปแบบ (High-volume production) จนกว่าจะถึงปี 2027
อย่างไรก็ตาม ชิป AI5 อาจเป็นการก้าวกระโดดครั้งใหญ่ของระบบขับเคลื่อนอัตโนมัติตามที่ Elon Musk กล่าว แต่ยังไม่ถือว่าเป็นจุดสิ้นสุด เพราะมีการยืนยันว่า Tesla จะเดินหน้าต่อกับการสร้าง AI6 ซึ่งคาดว่าจะเริ่มเข้าสู่กระบวนการผลิตในช่วง กลางปี 2028
ข้อมูลจาก: ev.iphonemod.net, teslarati.com
ติดตามข่าวสารยานยนต์ได้ที่: car2day.com
