อาวดี้ ประเทศไทย เปิดตัวรถยนต์พลังงานไฟฟ้า Audi e-Tron Sportback 55 quattro S line ซึ่งเป็นรถในตระกูล e-tron รุ่นที่ 2 ที่มาในรูปแบบท้ายลาดสไตล์ Coupe-like ในราคา 5.299 ล้านบาท ซึ่งเป็นรถไฟฟ้ารุ่นที่ 2 ที่เปิดตัวในบ้านเราซึ่งความพิเศษจะมีอะไรบ้างมาติดตามกัน
ภายในผสานความล้ำสมัยเข้ากับดีไซน์สปอร์ตได้อย่างลงตัว
ห้องโดยสารภายในของ Audi e-tron Sportback 55 quattro S line มากับแพคเกจตกแต่ง Interior S line เบาะหนัง Valcona, เบาะคู่หน้าแบบ S Sports ตกแต่งด้วยลาย diamond cut พร้อมสัญลักษณ์ S line, พวงมาลัยมัลติฟังก์ชันท้ายตัด หุ้มหนังแบบสปอร์ต พร้อมสัญลักษณ์ S line และ Paddle shift, มาตรวัดฟูลดิจิทัล Virtual cockpit plus แสดงผลด้วยจอขนาด 12.3 นิ้ว, จอทัชสกรีนพร้อมฟังก์ชั่นสั่น (haptic feedback) ขนาด 8.6 นิ้ว รองรับการสั่งงานด้วยการเขียนด้วยนิ้ว, ระบบเชื่อมต่อสมาร์ทโฟน Audi smartphone interface และชุดเครื่องเสียงพรีเมียม Bang & Olufsen พร้อมระบบเสียง 3 มิติ
นอกจากนี้ยังมีออปชั่นพิเศษเป็นกระจกมองข้างแบบดิจิทัล ใช้กล้องด้านข้างหรือ Virtual exterior mirrors แทนที่กระจกมองข้าง แสดงผลในห้องโดยสารด้วยจอ OLED ความละเอียดสูงขนาด 7 นิ้ว ติดตั้งเอาไว้ที่แผงประตูด้านในรถทั้งซ้าย-ขวา พร้อมฟังก์ชันควบคุมแบบสัมผัส ช่วยให้ผู้ขับสามารถมองเห็นภาพด้านข้างตัวรถที่ชัดเจนยิ่งขึ้นแม้ใช้งานในสภาวะที่ไม่เอื้ออำนวย
ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ Electric Quattro สั่งการผ่านเกียร์อัตโนมัติซิงเกิลสปีด
ชุดระบบขับเคลื่อนประกอบด้วย มอเตอร์ไฟฟ้าคู่ ทำงานร่วมกับระบบขับเคลื่อน 4 ล้อไฟฟ้า Electric Quattro ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติซิงเกิล สปีด แบบฟิกซ์อัตราทด เอาท์พุท 300 กิโลวัทท์ หรือเทียบเท่า 408 แรงม้า (HP) เก็บประจุไฟฟ้าด้วยแบตเตอรี่แพค 95 กิโลวัทท์-ชม. ชาร์จ 1 ครั้งวิ่งทำระยะทางได้สูงสุด 463 กม. (ตามมาตรฐาน NEDC เดิมของยุโรป ไม่ใช่มาตรฐานใหม่ WLTP)
นอกจากนี้ Audi e-tron Sportback 55 quattro S line ยังมาพร้อมกับชุดแต่งภายนอกแบบสปอร์ต S line, สปอยเลอร์หลังและขอบประตูอะลูมิเนียม, หลังคาไฟฟ้าแบบพาโนรามิค สีภายนอกเลือกได้ 6 สีระหว่าง ขาว Glacier white metallic, เงิน Floret silver metallic, ดำ Mythos black metallic, เทา Daytona grey pearl effect, เบจ Siam beige metallic หรือน้ำเงิน Antigua blue metallic
พลังงานชาร์จกลับช่วยเพิ่มระยะการขับได้อีก 30%
เทคโนโลยีเก็บพลังงานไฟฟ้าที่สูญเปล่าหรือ Recuperation ใน e-tron Sportback จะมี 2 รูปแบบ คือ การใช้งานในแบบ Coasting ที่ใช้ความเร็วคงที่ ผู้ขับสามารถเลือกตั้งค่าจาก paddle shift ได้ 3 ระดับ และสามารถเลือกตั้งระดับการนำพลังงานกลับมาใช้ใหม่โดยอัตโนมัติผ่านฟังก์ชัน Predictive efficiency assist (PEA) ผ่านระบบ MMI ได้ ยังผลให้ผู้ขับสามารถควบคุมความเร็วของรถได้ด้วยการถอนเท้าออกจากแป้นคันเร่งโดยไม่ต้องแตะเบรก
ส่วนรูปแบบที่ 2 ก็คือฟังก์ชั่นชาร์จไฟกลับในขณะเบรกนั่นเอง หากผู้ขับหยียบเบรกที่ความเร็ว 100 กม./ชม. จะสามารถชาร์จไฟกลับได้ราว 220 Kw หรือคิดเป็นอัตราส่วนมากกว่า 70% ของกำลังที่มอเตอร์ไฟฟ้าผลิตได้ โดยระบบชาร์จไฟกลับใน และการนำ e-tronSportback นี้ สามารถเพิ่มระยะทางการขับได้สูงสุดราว 30% ของระยะทางทั้งหมด
สำหรับราคาจำหน่าย Audi e-tron Sportback 55 quattro S line เริ่มต้นที่ 5,299,000 บาท ตัวรถจะพร้อมส่งมอบตั้งแต่เดือนธันวาคม 2563 เป็นต้นไป พร้อมรับ Audi Protection รับประกันรถใหม่ 5 ปี หรือระยะทาง 150,000 กิโลเมตร แล้วแต่ระยะใดถึงก่อน รับประกันแบตเตอรี่ 8 ปี หรือ 160,000 กิโลเมตร แล้วแต่ระยะใดถึงก่อน และบริการช่วยเหลือฉุกเฉิน Roadside Assistance ทั่วประเทศ 24 ชั่วโมง 5 ปี
