More

    BYD ลดอีก! BYD SEAL ลดสูงสุดแสนกว่าเริ่ม 1.199 ล้านบาท

    BYD SEAL จัดโปรตามมาติดๆหลังจาก BYD ATTO 3 ลดฉ่ำสูงสุด 3 แสนกว่าบาท ทาง RÊVER หั่นราคาสุดเร้าใจฉลองเปิดโรงงานประกอบในไทยสูงสุด 126,000 บาท
    BYD SEAL

    พิเศษ!! สำหรับลูกค้าที่ซื้อรถยนต์ไฟฟ้า BYD SEAL รุ่น Performance สีขาว สีดำ สีเทา และสีฟ้า และออกใบกำกับภาษี จนถึงวันที่ 31 กรกฎาคม จะได้รับสิทธิพิเศษ Charging credit มูลค่า 50,000 บาท สำหรับใช้บริการชาร์จไฟที่ RêverSharger และราคาจำหน่ายมีดังนี้

    • รุ่น Dynamic RWD เดิม 1,325,000 บาท พิเศษเพียง 1,199,000 บาท (ลดจากเดิม 126,000 บาท)
    • รุ่น Premium RWD เดิม 1,449,000 บาท พิเศษเพียง 1,399,000 บาท (ลดจากเดิม 50,000 บาท)
    • รุ่น AWD Performance เดิม 1,599,000 บาท พิเศษเพียง 1,499,000 บาท (ลดจากเดิม 100,000 บาท)

    ทุกรุ่นรับสิทธิพิเศษ RÊVER Care มากมาย อาทิ รับฟรีประกันภัยชั้น 1 พร้อม พรบ.(ประเภทรถยนต์ส่วนบุคคล) เป็นระยะเวลา 1 ปี รับฟรีโฮมชาร์จเจอร์ ยี่ห้อ ABB พร้อมการติดตั้ง ดอกเบี้ยพิเศษ 1.98% สำหรับเงินดาวน์ 25% ผ่อนนาน 48 เดือน บริการบำรุงรักษา ค่าแรง ค่าอะไหล่ 8 ปี หรือ 160,000 กิโลเมตร แล้วแต่ระยะใดจะถึงก่อน รับประกันตัวรถ (Warranty) 8 ปี หรือ 160,000 กิโลเมตร แล้วแต่ระยะใดจะถึงก่อน รับประกันแบตเตอรี่แรงดันสูง (High Voltage Battery) 8 ปี หรือ 160,000 กิโลเมตร แล้วแต่ระยะใดจะถึงก่อน บริการช่วยเหลือฉุกเฉิน ตลอด 24 ชั่วโมง 8 ปี ฟรีสายต่อพ่วงอุปกรณ์ไฟฟ้า (V-to-L) ฟรีสายชาร์จเคลื่อนที่ AC Portable Charger ฟรีค่าจดทะเบียนรถ รับฟรี พรมผ้ายาง กรอบป้ายทะเบียน ฟิล์มกันรอยหน้าจอกลาง และ รับฟรีฟิล์มกรองแสง XUV-MAX CERAMIC พร้อมการติดตั้ง มูลค่า 30,000 บาท

    สำหรับแคมเปญดังกล่าวที่ให้่ส่วนลดตั้งแต่ 50,000-126,000 บาท เคยใช้มาแล้วตอนช่วงแคมเปญ Motor Show ที่หมดเขตไปเมื่อวันที่ 31 พฤษภาคมที่ผ่านมาและเป็นการใช้แคมเปญนี้เป็นครั้งที่ 2

    ดีไซน์ภายนอก  Exterior

    BYD SEAL มาด้วยดีไซน์หล่อล้ำอนาคต ตั้งแต่ไฟหน้า LED ชุดกันชนหน้าขึ้นรูปชิ้นเดียวมีกระจังหน้าปิดทึบอยู่ในชุดเดียวกัน กระจกแบบโอเปร่า ดีไซน์หรูหราดุจรถยุโรป เส้นสายของตัวถังที่ดูลื่นไหลนับตั้งแต่จมูกหน้ารถ แนวตัวถังด้านข้าง ต่อเนื่องไปจนถึงโคมไฟท้าย LED ที่วางแบบเต็มความกว้างท้ายรถติดตั้งดิฟฟิวเซอร์มาให้พร้อมสรรพจุดสังเกตของรุ่นท็อปสุดด้านท้ายจะมีตัวอักษรว่า AWD และ 3.8 S ติดที่ฝากระโปรงท้าย พื้นที่วางของที่ฝากระโปรงหน้า 53 ลิตร ล้อสีทูโทนดีไซน์เอกลักษณ์ ให้เลือกทั้งขนาด 18 นิ้วพร้อมยาง 225/50R18 และขนาดใหญ่ 19 นิ้ว พร้อมยาง 235/45R19

    สร้างบนพื้นฐาน e-platform 3.0 ความยาว 4,800 มิลลิเมตร ความกว้าง 1,875 มิลลิเมตร ความสูง 1,460 มิลลิเมตร ฐานล้อ 2,920 มิลลิเมตร ความสูงใต้ท้องรถ 120 มิลลิเมตร น้ำหนัก 1,922-2,185 กิโลกรัม และรัศมีวงเลี้ยว 5.7 เมตร

    BYD SEAL

    ดีไซน์ภายใน Interior

    ห้องโดยสารเด่นทั้งเรื่องดีไซน์ตั้งแต่พวงมาลัยมัลติฟังก์ชันแบบ 3 ก้าน ทรงท้ายตัดพร้อมสันเพิ่มความกระชับให้กับอุ้งมือ มองลอดพวงมาลัยเป็นจอ Driver Display แสดงผลในรูปแบบดิจิตอล LCD 10.25 นิ้ว ถัดไปอีกเล็กน้อย คือ Head-up Display แสดงข้อมูลที่จำเป็นโดยที่ผู้ขับไม่ต้องละสายตาจากถนนเบื้องหน้าส่วนจอแสดงผล ระบบ Infotainment ขนาดใหญ่เต็มตาถึง 15.6 นิ้ว เชื่อมต่อ Apple Car Play Android Auto รองรับ 5G มีระบบเชื่อมต่ออัจฉริยะ DiLink และลำโพง Dynaudio 12 จุด ที่ชาร์จมือถือไร้สายให้มาถึง 2 จุด หัวเกียร์คริสตัลรอบๆคันเกียร์รายล้อมด้วยปุ่มควบคุมการทำงานของจอสัมผัส เบาะนั่งทรงสปอร์ต หุ้มหนังอย่างประณีต มีช่องเก็บของหลายจุดสามารถวางแก้วน้ำ พื้นที่สัมภาระท้ายมีความจุ 400 ลิตรระบบการเข้าารถ และ สตาร์ทแบบ Keyless ทำงานร่วมกับกุญแจแบบบัตรอิเล็กทรอนิกส์ NFC

    BYD SEAL

    สมรรถนะเครื่องยนต์ Performance

    ขุมพลังอีวีมีให้เลือกหลากหลาย 3 ทางเลือกตั้งแต่ รุ่นขับเคลื่อนล้อหลังสองรุ่นเริ่มที่รุ่นเริ่มต้น Dynamic RWD ด้วยแบตเตอรี่ที่มีความจุ 61.44 kWh วิ่งได้ 510 กิโลเมตรต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง ตามมาตรฐาน NEDC กำลังสูงสุด 204 แรงม้า กับแรงบิดสูงสุด 310 นิวตันเมตร อัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ภายใน 7.5 วินาที ขยับมาที่รุ่น Premium RWD พร้อมความจุแบตเตอรี่ 82.56 kWh กำลังสูงสุด 313 แรงม้า กับแรงบิดสูงสุด 360 นิวตันเมตร สามารถวิ่งได้ 650 กิโลเมตรต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง ตามมาตรฐาน NEDC สามารถทำอัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ภายใน 5.9 วินาที

    รุ่นท็อปสุด AWD Performance มาพร้อมมอเตอร์ไฟฟ้าคู่พร้อมระบบขับเคลื่อนสี่ล้อมีความจุแบตเตอรี่ขนาด 82.56 kWh กำลังรวมสูงสุด 530 แรงม้า กับ แรงบิดสูงสุดระดับ 670 นิวตันเมตร โดยมอเตอร์ไฟฟ้าคู่หน้ากำลัง 218 แรงม้า แรงบิด 310 นิวตันเมตร และมอเตอร์ไฟฟ้าคู่หลัง 313 แรงม้า แรงบิด 360 นิวตันเมตร สามารถวิ่งได้ 580 กิโลเมตรต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง ตามมาตรฐาน NEDC แถมให้อัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงทำได้ 3.8 วินาที

    BYD

    ทั้งสามรุ่นรองรับการชาร์จเร็ว (DC fast charging แบบ CCS2) 30-80% ภายในเวลา 30 นาทีรองรับกำลังไฟในการชาร์จสูงสุด 110 kW ในรุ่น Dynamic RWD ส่วนรุ่น Premium RWD และ AWD Performance  รองรับการชาร์จเร็ว 30-80% ภายในเวลา 26 นาที รองรับกำลังไฟในการชาร์จสูงสุด 150 kW และชาร์จช้า AC แบบ Type 2 รองรับกำลังไฟสูงสุด 7 kW ทุกรุ่น ยังมีเทคโนโลยี Vehicle to Load (V2L) สามารถจ่ายกระแสไฟได้ทำให้รถสามารถถ่ายโอนพลังงานไฟฟ้าไปยังเครื่องใช้ไฟฟ้าอื่นๆได้ นุ่มนวลถึงใจด้วยช่วงล่างอิสระสี่ล้อและระบบการดึงพลังงานจากระบบเบรกกลับมาใช้ใหม่ (Regenerative Braking)

    เทคโนโลยีและความปลอดภัย Safety

    พร้อมความปลอดภัยขับเคลื่อนโดยระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ขั้นสูงอัจฉริยะ (ADAS) ที่มาอย่างครบครันออกแบบมาเพื่อป้องกันอุบัติเหตุและลดความเสี่ยง ได้แก่

    • ช่วยควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน (ACC) Stop and Go
    • ช่วยเตือนวัตถุเคลื่อนผ่านขณะเปิดประตู (DOW)
    • ช่วยเบรกอัตโนมัติ (AEB)
    • ช่วยเตือนเมื่อรถออกนอกเลน (LDW)
    • ช่วยควบคุมรถให้อยู่ในช่องทางเดินรถ (LKS)
    • ช่วยเตือนการชนด้านหน้าและหลัง (PCW with RCW)
    • ช่วยเตือนจุดอับสายตา (BSD)
    • ช่วยเตือนและเบรกเมื่อมีรถเคลื่อนผ่านจุดอับสายตาขณะถอยหลัง (RCTA, RCTB)
    • ช่วยควบคุมรถไม่ให้ออกนอกช่องทางเดินรถ (LDP)
    • ช่วยควบคุมฉุกเฉินให้รถอยู่ในช่องทางเดินรถ (ELKA)
    • ช่วยเตือนการชนเมื่อเปลี่ยนช่องทางเดินรถ (LCW)
    • ไฟส่องนำทางหลังจากดับเครื่อง (Follow Me Home)

    BYDความปลอดภัยพื้นฐานทั้ง

    • ถุงลมนิรภัย 9 จุดรอบคัน
    • ตรวจวัดแรงดันลมยาง (TPMS)
    • จุดยึดเบาะนั่งเด็กแบบ ISOFIX
    • เสริมแรงเบรกอัจฉริยะ เบรกป้องกันล้อล็อก (ABS)
    • ควบคุมเสถียรภาพการทรงตัวของรถ (ESC)
    • ป้องกันการลื่นไถล (TCS)
    • ควบคุมการกระจายแรงเบรก (EBD)
    • ควบคุมการทรงตัวบนทางลาดชัน (HHC)
    • กล้องมองภาพรอบทิศทาง 360 องศา

    มีทั้งหมด 4 สี

    • สีฟ้า Velocity Blue
    • สีขาว Horizon White
    • สีดำ Quantum Black
    • สีเทา Space Gray

    โดยสีทั้งสี่สีนี้มีความแตกต่างตามแต่ละรุ่นดังนี้รุ่น Dynamic RWD (ขาว, ดำ) รุ่น Premium RWD (ขาว, ดำ, เทา) และรุ่นท็อปสุด AWD Performance (ขาว, ดำ, เทา, ฟ้า) โดยโปรโมชัน BYD Thailand Factory Celebration หมดเขต 31 กรกฎาคมนี้

     

    ABOUT THE AUTHOR

    Latest Posts