BYD ใช้เวทีงาน Guangzhou Auto Show เปิดตัวอย่างเป็นทางการกับ BYD XIA เอ็มพีวีหรูจากตระกูล Dynasty หลังเผยภาพในโลกออนไลน์มาสักระยะ
การเปิดตัว BYD XIA ครั้งนี้เป็นการเปิดดีไซน์ภายในอย่างหรูเป็นครั้งแรกหลังเปิดตัวภายนอกไปช่วงกลางปีที่งาน Chengdu Auto Show
ภายนอกมีสไตล์ที่โดดเด่นเป็นตัวของตัวเองตามสไตล์ Dragon Face ด้วยกระจังหน้าทรงสี่เหลี่ยมคางหมูขนาดใหญ่ ชุบโครเมียม พร้อมไฟหน้า LED กับไฟ DRL แบบ LED ในโคมเดียวกันทรงยาว คุณลักษณะอีกอย่างหนึ่งของ Xia MPV ก็คือโลโก้ BYD ปักบนกระจังหน้า
ด้านข้างดูคล้ายๆ DENZA D9 ทั้งชุดตกแต่งสีเงินโครเมียมที่ขอบกระจก คิ้วชายล่างประตู คิ้วกันชนหลัง ไฟท้ายดีไซน์แนวยาว LED และไฟเลี้ยววิ่ง Sequential หลังคา Dual Panoramic Sunroof ประตูสไลด์ด้านข้างเปิด-ปิดด้วยระบบไฟฟ้า พร้อมฝากระโปรงท้ายระบบไฟฟ้าและล้ออัลลอยลายสุดล้ำขนาด 18 นิ้ว พร้อมยาง 235/60R18
สัดส่วนของตัวรถเมื่อเทียบกับ DENZA D9 พบว่าตัวรถสั้นกว่า 105 มิลลิเมตร กว้างกว่า 10 มิลลิเมตร ความสูงเตี้ยกว่า 115 มิลลิเมตร และฐานล้อสั้นกว่า 65 มิลลิเมตร มีดังนี้
- ความยาว 5,145 มิลลิเมตร
- ความกว้าง 1,970 มิลลิเมตร
- ความสูง 1,805 มิลลิเมตร
- ฐานล้อ 3,045 มิลลิเมตร
- น้ำหนักรถ 2,650 กิโลกรัม
ภายในมาในสไตล์ยห้องโดนยสารอัจฉริยะ DiLink 150 Cockpit ครบครันไม่ว่าจะเป็นช่องแอร์แผงคอนโซลหน้าเป็นศูนย์นรวมของชุดมาตรวัดความเร็วแนวนอนขนาด 8.8 นิ้ว จอกลางแบบสัมผัสขนาด 15.6 นิ้วสามารถหมุนจอได้ จอแสดงข้อมูลเหนือคอนโซลหน้า HUD 26 นิ้ว
ระบบเชื่อมต่อเครือข่าย DiLink รองรับการอัปเดตในรูปแบบ OTA เช่นเดียวกับสมาร์ทโฟน พร้อมลำโพง ระบบกุญแจ NFC เครื่องปรับอากาศอัตโนมัติแยกอุณหภูมิซ้าย-ขวาพร้อมช่องแอร์สำหรับผู้โดยสารตอนหลัง ไฟสร้างบรรยากาศ ambient lights
พวงมาลัยมัลติฟังก์ชัน 3 ก้านทรงท้ายตัด ที่ชาร์จมือถือไร้สายคู่กำลังการชาร์จ 50W รายล้อมด้วยปุ่มควบคุมการทำงานของจอสัมผัส ช่องเก็บของหลายจุด มาพร้อมที่วางแก้วขนาดใหญ่ 2 จุด พอร์ตชาร์จ USB Type C 2 จุด และ Type A 2 จุด
ภายในปรับโทนสีภายในเป็นสีดำผสมสีน้ำตาลเน้นความล้ำสมัยหุ้มหนัง NAPPA เบาะนั่งคู่หน้าปรับด้วยไฟฟ้า มาแบบ 7 ที่นั่งแบบ 2+2+3 แถวที่ 2 เบาะนั่งมาแบบ Captain Seat VIP ปรับด้วยไฟฟ้าพร้อมถาดสารพัดประโยชน์พับเก็บได้ในตัวเบาะจะมีปุ่มควบคุมบางอย่างอยู่ที่ด้านหลังของคอนโซลกลาง
มีช่องสำหรับผู้โดยสารด้านหลังใช้งานระหว่างเบาะนั่งแถวที่ 2 ทั้งสองตัวมีทางเดินเล็กๆ สำหรับเข้าสู่แถวที่ 3 ผู้โดยสารแต่ละคนในแถวที่ 3 ดูเหมือนว่าจะมีที่รองศีรษะที่ปรับได้และมีตู้เย็นบริเวณตอนที่ 2 มีไฟสร้างบรรยากาศภายใน ambient lightกระจกมองหลังปรับแสงอัตโนมัติ ระบบปรับอากาศแบบอัตโนมัติ 3 โซน แยกบริเวณด้านหน้าและหลังอิสระพร้อมระบบกรองอากาศ PM 2.5 กุญแจนิรภัยแบบอัจฉริยะ พร้อมระบบ Push Start
สมรรถนะของคันนี้มาในแบบ Plug In Hybrid DM-i เจนที่ 5 แบบเบนซินเทอร์โบขนาด 1.5 ลิตร รหัส BYD472ZQB กำลังสูงสุด 156 แรงม้า แรงบิด 225 นิวตันเมตร จับคู่กับมอเตอร์ไฟฟ้าพร้อมแบตเตอรี่ lithium iron phosphate (LFP) จาก BYD ให้ความจุแบต 20.4 kWh
พร้อมมอเตอร์ไฟฟ้ารุ่น TZ210XYD ให้กำลัง 272 แรงม้า แรงบิด 315 นิวตันเมตร ให้ความเร็วสูงสุด 200 กิโลเมตรต่อชั่วโมงโดยวิ่งไกลในโหมดไฟฟ้าล้วน 80 กิโลเมตร มาตรฐาน CLTC ประหยัด 15.38 กิโลเมตรต่อลิตรสามารถชาร์จกระแสตรง DC สูงสุด 38 kW ภายใน 8 นาที และกระแสสลับ AC รองรับกำลังสูงสุด 6.6 kW มีเทคโนโลยี ยังมีเทคโนโลยี Vehicle to Load (V2L) สามารถจ่ายกระแสไฟได้ทำให้รถสามารถถ่ายโอนพลังงานไฟฟ้าไปยังเครื่องใช้ไฟฟ้าอื่นๆได้
นุ่มนวลถึงใจด้วยช่วงล่างอิสระสี่ล้อและระบบการดึงพลังงานจากระบบเบรกกลับมาใช้ใหม่ (Regenerative Braking) โดยเป็นรถขับเคลื่อนล้อหน้าและอาจเสริมรุ่นขับเคลื่อน 4 ล้อตามมาด้วย กับช่วงล่าง DiSus-C ปรับความหนืดได้เหมาะสมตามสภาพพื้นผิวการจราจร พร้อมปรับปรุงชิ้นส่วนช่วงล่างด้านหลัง
ขับเคลื่อนโดยระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ขั้นสูงอัจฉริยะ DiPilot ADAS ที่มาอย่างครบครันออกแบบมาเพื่อป้องกันอุบัติเหตุและลดความเสี่ยงได้แก่
- ช่วยควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน (ACC) Stop and Go
- ช่วยควบคุมความเร็วอัจฉริยะ Intelligent Cruise Control (ICC)
- ช่วยเตือนวัตถุเคลื่อนผ่านขณะเปิดประตู (DOW)
- ช่วยเบรกอัตโนมัติ (AEB)
- ช่วยเตือนเมื่อรถออกนอกเลน (LDW)
- ช่วยควบคุมรถให้อยู่ในช่องทางเดินรถ (LKS)
- ช่วยเตือนการชนด้านหน้าและหลัง (PCW with RCW)
- ช่วยเตือนจุดอับสายตา (BSD)
- ช่วยเตือนและเบรกเมื่อมีรถเคลื่อนผ่านจุดอับสายตาขณะถอยหลัง (RCTA, RCTB)
- ช่วยควบคุมรถไม่ให้ออกนอกช่องทางเดินรถ (LDP)
- ช่วยควบคุมฉุกเฉินให้รถอยู่ในช่องทางเดินรถ (ELKA)
- ช่วยเตือนการชนเมื่อเปลี่ยนช่องทางเดินรถ (LCW)
- ไฟส่องนำทางหลังจากดับเครื่อง (Follow Me Home)
ความปลอดภัยพื้นฐานทั้ง ถุงลมนิรภัยรอบคัน ตรวจวัดแรงดันลมยาง (TPMS) จุดยึดเบาะนั่งเด็กแบบ ISOFIX เสริมแรงเบรกอัจฉริยะ เบรกป้องกันล้อล็อก (ABS) ควบคุมเสถียรภาพการทรงตัวของรถ (ESC) ป้องกันการลื่นไถล (TCS) ควบคุมการกระจายแรงเบรก (EBD) ควบคุมการทรงตัวบนทางลาดชัน (HHC) และกล้องมองภาพรอบทิศทาง 360 องศา
BYD XIA พร้อมที่ขายจริงเมืองจีนต้นปี 2025 และราคาจะถูกกว่า DENZA D9 โดยค่าตัวจะอยู่ราวๆ 289,900 – 350,000 YUAN หรือราว 1,399,000-1,695,000 บาท
ที่มา AUTOHOME