รายงานสถิติการขายรถยนต์ครึ่งแรกของปี 2565 อยู่ที่ 427,303 คัน เพิ่มขึ้น 14.5% จากช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว
ประกอบด้วย รถยนต์นั่ง 135,900 คัน เพิ่มขึ้น 12.9% รถยนต์เพื่อการพาณิชย์ 291,403 คัน เพิ่มขึ้น 15.3% ขณะที่ รถเพื่อการพาณิชย์ 291,403 คัน เพิ่มขึ้น 15.3 % รถกระบะขนาด 1 ตัน (รวมรถ PPV) มีจำนวน 227,842 คัน เพิ่มขึ้น 15.7% และรถกระบะ 1 ตัน (ไม่รวมรถ PPV) 198,256 คัน เพิ่มขึ้น 17.3 % เมื่อเทียบช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว
โดยมีประเด็นสำคัญตรงที่ ช่วงที่ผ่านมายังคงได้รับผลกระทบจากสถานการณ์เศรษฐกิจภายในประเทศที่อยู่ในภาวะฟื้นตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไป ท่ามกลางปัญหาการขาดแคลนเซมิคอนดัคเตอร์ ที่ยังคงยืดเยื้อ ส่งผลโดยตรงต่อยอดการผลิตและต้นทุนการผลิตรถยนต์ที่ปรับตัวสูงขึ้นเพื่อจำหน่ายทั้งภายในประเทศและการส่งออก รวมทั้งแรงกดดันจากภาวะเงินเฟ้อที่ยังปรับตัวสูงขึ้นและทิศทางของอัตราดอกเบี้ยในปีนี้ เป็นปัจจัยที่มีส่วนทำให้กำลังการซื้อของผู้บริโภคยังฟื้นตัวได้อย่างจำกัด ล้วนส่งผลกระทบต่อการดำเนินธุรกิจและความเชื่อมั่นผู้บริโภคที่มีต่อเศรษฐกิจไทยโดยรวม
อย่างไรก็ดี ยังคงมีปัจจัยบวกจากการที่ภาครัฐเริ่มผ่อนคลายมาตรการล็อคดาวน์และการดำเนินมาตรการส่งเสริมเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวภายในประเทศ รวมถึงสัดส่วนของการฉีดวัคซีนที่เพิ่มสูงขึ้นทั้งในไทยและต่างประเทศ ทำให้ประชาชนสามารถใช้ชีวิตและดำเนินกิจกรรมทางเศรษฐกิจได้เกือบเป็นปกติ ล้วนเป็นส่วนช่วยให้สถานการณ์เศรษฐกิจในประเทศทยอยกลับเข้าสู่ภาวะปกติได้มากยิ่งขึ้น ซึ่งสะท้อนมายังตลาดรถยนต์ด้วยเช่นกัน เห็นได้จากการเพิ่มขึ้นของยอดขายรถยนต์จากงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 43 ที่ผ่านมา ตลอดจนแรงกระตุ้นจูงใจผู้บริโภคด้วยแคมเปญการขายเชิงรุกของบรรดาบริษัทผู้ผลิตรถยนต์ทั้งหลาย ล้วนมีส่วนผลักดันตลาดรถยนต์โดยรวมให้ฟื้นตัวดีขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ
จากมาตรการผ่อนคลายและการกระตุ้นเศรษฐกิจจากภาครัฐ ส่งผลให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจปรับไปในทิศทางที่ดีขึ้น และจะส่งผลบวกต่อทิศทางของตลาดรถยนต์ปีนี้เชื่อมั่นว่าเศรษฐกิจในช่วงครึ่งปีหลังนี้จะสามารถฟื้นตัวไปในทิศทางที่ดีขึ้น เลยคาดการณ์ว่ายอดขายรถยนต์ในปี 2565 จะอยู่ที่ 880,000 คัน เพิ่มขึ้น 16% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา”
สถิติการจำหน่ายรถยนต์ เดือนมกราคม – มิถุนายน 2565
1.) ตลาดรถยนต์รวม ปริมาณการขาย 427,303 คัน เพิ่มขึ้น 14.5%
อันดับที่ 1 โตโยต้า 142,032 คัน เพิ่มขึ้น 21.2% ส่วนแบ่งตลาด 33.2%
อันดับที่ 2 อีซูซุ 109,889 คัน เพิ่มขึ้น 18.0% ส่วนแบ่งตลาด 25.7%
อันดับที่ 3 ฮอนด้า 40,161 คัน ลดลง 6.0% ส่วนแบ่งตลาด 9.4%
2.) ตลาดรถยนต์นั่ง ปริมาณการขาย 135,900 คัน เพิ่มขึ้น 12.9%
อันดับที่ 1 โตโยต้า 38,894 คัน เพิ่มขึ้น 30.9% ส่วนแบ่งตลาด 28.6%
อันดับที่ 2 ฮอนด้า 29,574 คัน ลดลง 19.2% ส่วนแบ่งตลาด 21.8%
อันดับที่ 3 มาสด้า 12,111 คัน เพิ่มขึ้น 11.2% ส่วนแบ่งตลาด 8.9%
3.) ตลาดรถเพื่อการพาณิชย์ ปริมาณการขาย 291,403 คัน เพิ่มขึ้น 15.3%
อันดับที่ 1 อีซูซุ 109,889 คัน เพิ่มขึ้น 18.0% ส่วนแบ่งตลาด 37.7%
อันดับที่ 2 โตโยต้า 103,138 คัน เพิ่มขึ้น 17.9% ส่วนแบ่งตลาด 35.4%
อันดับที่ 3 มิตซูบิชิ 16,292 คัน เพิ่มขึ้น 11.8% ส่วนแบ่งตลาด 5.6%
4.) ตลาดรถกระบะขนาด 1 ตัน (Pure Pick up และ รถกระบะดัดแปลง PPV) ปริมาณการขาย 227,842 คัน เพิ่มขึ้น 15.7%
อันดับที่ 1 อีซูซุ 101,439 คัน เพิ่มขึ้น 19.3% ส่วนแบ่งตลาด 44.5%
อันดับที่ 2 โตโยต้า 89,232 คัน เพิ่มขึ้น 20.4% ส่วนแบ่งตลาด 39.2%
อันดับที่ 3 มิตซูบิชิ 16,168 คัน เพิ่มขึ้น 13.7% ส่วนแบ่งตลาด 7.1%
ปริมาณการขายรถกระบะดัดแปลง PPV : 29,586 คัน โตโยต้า 13,466 คัน – อีซูซุ 9,095 คัน – มิตซูบิชิ 4,154 คัน – ฟอร์ด 2,246 คัน – นิสสัน 625 คัน
5.) ตลาดรถกระบะ Pure Pick up ปริมาณการขาย 198,256 คัน เพิ่มขึ้น 17.3%
อันดับที่ 1 อีซูซุ 92,344 คัน เพิ่มขึ้น 22.1% ส่วนแบ่งตลาด 46.6%
อันดับที่ 2 โตโยต้า 75,766 คัน เพิ่มขึ้น 22.5% ส่วนแบ่งตลาด 38.2%
อันดับที่ 3 ฟอร์ด 12,655 คัน ลดลง 8.0% ส่วนแบ่งตลาด 6.4%
ปริมาณการจำหน่ายรถยนต์ เดือนมิถุนายน 2565
1.) ตลาดรถยนต์รวม ปริมาณการขาย 67,952 คัน เพิ่มขึ้น 4.6%
อันดับที่ 1 โตโยต้า 21,026 คัน ลดลง 5.9% ส่วนแบ่งตลาด 30.9%
อันดับที่ 2 อีซูซุ 20,146 คัน เพิ่มขึ้น 42.9% ส่วนแบ่งตลาด 29.6%
อันดับที่ 3 มิตซูบิชิ 4,815 คัน เพิ่มขึ้น 22.1% ส่วนแบ่งตลาด 7.1%
2.) ตลาดรถยนต์นั่ง ปริมาณการขาย 19,598 คัน ลดลง 13%
อันดับที่ 1 โตโยต้า 5,884 คัน เพิ่มขึ้น 8.7% ส่วนแบ่งตลาด 30.0%
อันดับที่ 2 ฮอนด้า 2,518 คัน ลดลง 60.8% ส่วนแบ่งตลาด 12.8%
อันดับที่ 3 มิตซูบิชิ 2,068 คัน ลดลง 34.3% ส่วนแบ่งตลาด 10.6%
3.) ตลาดรถเพื่อการพาณิชย์ ปริมาณการขาย 48,354 คัน เพิ่มขึ้น 13.9%
อันดับที่ 1 อีซูซุ 20,146 คัน เพิ่มขึ้น 42.9% ส่วนแบ่งตลาด 41.7%
อันดับที่ 2 โตโยต้า 15,142 คัน ลดลง 10.5% ส่วนแบ่งตลาด 31.3%
อันดับที่ 3 ฟอร์ด 2,756 คัน เพิ่มขึ้น 1.3% ส่วนแบ่งตลาด 5.7%
4.) ตลาดรถกระบะขนาด 1 ตัน (Pure Pick up และ รถกระบะดัดแปลง PPV) ปริมาณการขาย 37,619 คัน เพิ่มขึ้น 13.4%
อันดับที่ 1 อีซูซุ 18,640 คัน เพิ่มขึ้น 48.4% ส่วนแบ่งตลาด 49.5%
อันดับที่ 2 โตโยต้า 12,629 คัน ลดลง 12.7% ส่วนแบ่งตลาด 33.6%
อันดับที่ 3 ฟอร์ด 2,756 คัน เพิ่มขึ้น 1.3% ส่วนแบ่งตลาด 7.3%
ปริมาณการขายรถกระบะดัดแปลง PPV : 4,186 คัน อีซูซุ 1,564 คัน – โตโยต้า 1,454 คัน – มิตซูบิชิ 671 คัน – ฟอร์ด 396 คัน – นิสสัน 101 คัน
5.) ตลาดรถกระบะ Pure Pick up ปริมาณการขาย 33,433 คัน เพิ่มขึ้น 13.9%
อันดับที่ 1 อีซูซุ 17,076 คัน เพิ่มขึ้น 49.5% ส่วนแบ่งตลาด 51.1%
อันดับที่ 2 โตโยต้า 11,175 คัน ลดลง 12.0% ส่วนแบ่งตลาด 33.4%
อันดับที่ 3 ฟอร์ด 2,360 คัน เพิ่มขึ้น 1.3% ส่วนแบ่งตลาด 7.1%