DENZA ค่ายรถลักชัวรีในเครือ BYD เตรียมส่งโกบอลโมเดลลำดับที่ 2 ลุยตลาดนั่นก็คือ DENZA B5 พวงมาลัยขวาคันแรกของโลก
DENZA B5 พวงมาลัยขวาคันแรกของโลกและเป็นเอสยูวีรุ่นแรกของแบรนด์ DENZA ที่ทำตลาดนอกเมืองจีนด้วยการนำ BAO 5 จาก FANGCHENNGBAO เปลี่ยนตราเปลี่ยนสไตล์นั่นเอง
มาในทรงกล่อง 5 ประตู
หน้าตาล้อมรอบด้วยไฟหน้า Matrix LED พร้อมไฟ DRL แบบ LED ในโคมเดียวกัน รวมถึงกรอบไฟล้อมกรอบกระจังหน้าประดับด้วยไฟ LED และไส้ในกระจังหน้าติดตราโลโก้ เฉพาะ กันชนหน้าสุดแกร่งพร้อมไฟตัดหมอกหน้า LED
ด้านข้างบึกบึนแกร่งเท่กับดีไซน์ทรงเหลี่ยมดุทั้งคันตั้งแต่คิ้วขอบล้อสีดำ กระจกมองข้างทรงเหลี่ยม ราวหลังคา พร้อมหลังคาพาโนรามิกซัฟรูฟเปิด-ปิดด้วยไฟฟ้าแบบเต็มบาน รวมถึงด้านท้ายติดตั้งฝาครอบยางอะไหล่ในชุดฝาท้ายเปิดทั้งบานและไฟท้าย LED แนวตั้ง ล้ออัลลอยลายเข้มขนาด 18 นิ้ว พร้อมยาง 265/65R18 สร้างจากพื้นฐานแพลตฟอร์ม DM-o hybrid platform แชสซีส์ขั้นบันได Body on Frame
มิติตัวรถ
- ความยาว 4,890 มิลลิเมตร
- ความกว้าง 1,970 มิลลิเมตร
- ความสูง 1,920 มิลลิเมตร
- ฐานล้อ 2,800 มิลลิเมตร
- ระยะต่ำสุดจากพื้น 220 มิลลิเมตร
- ความจุถังน้ำมัน 83 ลิตร
ภายใน
เท่หรูสไตล์รถลุยตั้งแต่แผงคอนโซลหน้าทรงเหลี่ยมหุ้มหนังสัมผัส มาพร้อมหน้าจอทั้งหมด 5 จอเริ่มที่มาตรวัดดิจิทัล LCD ขนาด 12.3 นิ้ว หน้าจอสัมผัสระบบมัลติมีเดียขนาด 15.6 นิ้ว ชัดแบบ 2.5 K หน้าจอสัมผัสระบบมัลติมีเดียสำหรับผู้โดยสารขนาด 12.3 นิ้ว ระบบแสดงข้อมูลบนกระจกหน้าแบบ AR (AR-HUD) กระจกมองหลังแบบสตรีมมิ่ง ลำโพงจำนวน 18 จุดรอบคัน จาก DEVIALET เพื่อให้ประสบการณ์การใช้งานมัลติมีเดียที่หลากหลายและครบวงจร
พวงมาลัยมัลติฟังก์ชันสี่ก้านหุ้มหนัง ปีกคอนโซลเกียร์หุ้มหนังสัมผัสซ้ายขวาเด่นด้วยช่องแอร์แนวนอนพร้อมที่ชาร์จมือถือไร้สายสองช่อง กำลัง 50 W มือจับเกียร์หุ้มหนังดีไซน์จับกระชับมือรายล้อมด้วยปุ่มหลายปุ่มเช่น ปุ่มไฟฉุกเฉิน ฯลฯ ที่วางแก้ว ที่ท้าวแขนตรงคอนโซลกลางหุ้มหนัง เปิดข้างพร้อมช่องเก็บของและตู้เย็นจิ๋วแช่เครื่องดื่ม ที่เสียบช่อง USB ทั้ง Type A และ Type C รวม 5 จุด เครื่องปรับอากาศอัตโนมัติแยกอุณหภูมิ 4 โซน
เบาะนั่งหุ้มกึ่งหนังแท้ NAPPA ผสมหนังกลับปรับไฟฟ้าคู่หน้าด้านคนขับปรับ 12 ทิศทางและคนนั่ง 10 ทิศทาง พร้อมนวดเบาะคู่หน้า และตอนที่สองสามารถพับได้แบบ 60:40 ช่วยเพิ่มพื้นที่เก็บสัมภาระ โดยมีที่เก็บสัมภาระรอบคันมากถึง 30 จุด
สมรรถนะ
ขุมพลังเป็นเบนซินเทอร์โบ Plug In Hybrid ขนาด 1.5 ลิตร รหัส BYD746ZQF ให้กำลังสูงสุด 194 แรงม้า แรงบิด 273 นิวตันเมตร บวกกับการทำงานของมอเตอร์ไฟฟ้าคู่ Permanent magnet synchronous โดยมอเตอร์ล้อหน้า ให้กำลัง 272 แรงม้า แรงบิด 360 นิวตันเมตร และมอเตอร์ล้อหลัง 388 แรงม้า แรงบิด 400 นิวตันเมตร แบตเตอรี่ลิเธียมไอออนขนาด 31.8 kWh เมื่อทำงานร่วมกันให้กำลังสูงสุด 687 แรงม้า แรงบิด 760 นิวตันเมตร อัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตร ภายใน 4.8 วินาที
วิ่งไกลสุดในโหมดไฟฟ้า 100 กิโลเมตร (WLTP) และชาร์จหนึ่งครั้งและเติมน้ำมัน 1 ถัง วิ่งได้ไกล 1,020 กิโลเมตร (WLTP) จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ E-CVT ขับเคลื่อนสี่ล้ออัจฉริยะ มี 4L พร้อมโหมดการขับขี่ปกติทั้ง Eco Normal และ Sport และโหมดทางลุย Off Road Terrain 7 โหมดทั้ง MUD, Sand, Rock, Mountain, Wading และ Intelligent
กำลังการชาร์จสูงสุด AC 7 kW และ DC สูงสุด 100 kW รองรับฟังก์ชัน V2L มีมุมปะทะ Approach 35 องศา มุมจาก Departure 32 องศา พร้อมช่วงล่างถุงลมแบบ DiSus-P suspension สามารถเพิ่มระยะต่ำสุดจากพื้นมากถึง 310 มิลลิเมตร มีรัศมีวงเลี้ยวแคบสุดเพียง 3.4 เมตร เมื่อใช้ระบบ BAO TURN ในการเข้าโค้ง
ระบบช่วยขับขี่อัจฉริยะมาครบ
- ช่วยควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน พร้อมฟังก์ชัน Stop and Go ACC (Adaptive Cruise Control-Stop and Go) (ACC-S&G)
- แจ้งเตือนจํากัดความเร็วอัจฉริยะ ISLI (Intelligent Speed Limit Information)
- ช่วยควบคุมความเร็วอัจฉริยะ ISLC (Intelligent Speed Limit Control)
- ช่วยจอดรถอัตโนมัติ APA (Auto Park Assist)
- ตรวจจับความเมื่อยล้าของคนขับ DMS (Driver Monitoring System)
- ช่วยควบคุมรถยนต์อัตโนมัติที่ความเร็วต่ำ TJA (Traffic Jam Assist)
- ช่วยเตือนเมื่อต้องการเปลี่ยนเลน LCA (Lane Change Assist)
- ช่วยเปลี่ยนเลนอัจฉริยะ ILCA (Intelligent Lane Change Assist)
- ช่วยควบคุมรถให้อยู่กึ่งกลางเลน LCC (Lane Centering Control)
- ช่วยเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติ AEB (Autonomous Emergency Braking)
- ช่วยเตือนการชนด้านหน้า FCW (Forward Collision Warning)
- ช่วยเตือนการชนด้านหลัง RCW (Rear Collision Warning)
- ช่วยเตือนจุดอับสายตา BSD (Blind spot monitoring)
- ช่วยเตือนวัตถุเคลื่อนผ่านขณะเปิดประตู DOW (Door Open Warning)
- ช่วยเตือนเมื่อมีรถผ่านในจุดอับสายตาขณะถอยหลัง RCTA (Rear Cross Traffic Alert)
- ช่วยเบรกเมื่อมีรถผ่านในจุดอับสายตาขณะถอยหลัง RCTB (Rear Cross Traffic Brake)
- ช่วยเตือนรถเคลื่อนผ่านด้านหน้า FCTA (Front Cross Traffic Alert)
- ช่วยเบรกเมื่อมีรถเคลื่อนผ่านด้านหน้า FCTB (Front Cross Traffic Brake)
- ช่วยรักษาช่องทางเดินรถฉุกเฉิน ELK (Emergency Lane Keeping Assist)
- อ่านป้ายจราจร TSR (Traffic Sign Recognition)
- เตือนออกนอกเลน LDA (Lane Departure Assist)
ป้องกันล้อล็อก ABS กระจายแรงเบรก EBD (Electronic Brake force Distribution) เสริมแรงเบรกด้วยอิเล็กทรอนิกส์ EBD (Electronic Brake Distribution) ควบคุมรักษาเสถียรภาพการทรงตัว VDC (Vehicle Dynamic Control) ป้องกันล้อหมุนฟรี ควบคุมการลื่นไถล TCS (Traction Control System) ช่วยการออกตัวบนทางลาดชัน HHS (Hill Start Assist System)
ควบคุมความเร็วขณะลงทางลาดชัน HDC (Hill Descent Control) ป้องกันรถพลิกคว่ำ ROM (Roll Over Mitigation) ลดกำลังเครื่องยนต์เพื่อช่วยเบรก BOS (Brake Override System) สัญญาณไฟแจ้งเตือน เมื่อมีการเบรกฉุกเฉิน ESS (Emergency Stop Signal)
ไฟส่องนำทางหลังจากดับเครื่องยนต์ (Follow Me Home Light) เบรกมือไฟฟ้า EPB (Electronic Parking Brake) ป้องกันการไหลของรถโดยไม่ต้องเหยียบเบรกค้าง AVH (Auto Vehicle Hold) จุดยึดเบาะนั่งเด็กแบบ ISOFIX บริเวณที่นั่งแถว 2 เข็มขัดนิรภัยคู่หน้าแบบดึงรั้งกลับพร้อมผ่อนแรงอัตโนมัติ ถุงลมนิรภัยรอบคัน 11 จุด กล้องมองภาพรอบทิศทางแบบ 3 มิติ สัญญาณเตือนระยะเดินหน้าและถอยหลัง
DENZA B5 โชว์ตัวเรียกความสนใจจากสาวกที่สนใจที่โชว์รูม DENZA ในศูนย์การค้า Hopewell ถนน เคนเนดี้ย่านหว่านไจ๋ ฮ่องกง ระหว่างวันที่ 11 ตุลาคม-2 พฤศจิกายน ก่อนขายจริงเร็วๆนี้โดย ฟู่เถิง ออโตโมบิล ตัวแทนจำหน่าย DENZA แต่เพียงผู้เดียวในฮ่องกง ทางด้านออสเตรเลียเตรียมขายคู่กับ DENZA B8 ในเดือนพฤศจิกายน จับตาเมืองไทยจะมาโชว์ตัวที่งาน Motor Expo 2025 หรือไม่ต้องติดตาม