Formula 1 ฤดูกาล 2023 จะเริ่มเข้าสู่การแข่งขันในยุโรปเป็นครั้งแรกของปีนี้ ไม่เพียงเท่านั้น มันจะมาพร้อมกับรูปแบบการควอลิฟายใหม่ ที่ทำให้ผู้ชมหัวหมุนอีกเช่นเคย ดังนั้น เราจึงจะต้องมานั่งทำความเข้าใจกับรูปแบบของมันเสียหน่อย
โดยปกติในการควอลิฟาย นักแข่งจะมีอิสระในการเลือกยางชนิดใดก็ได้ในแต่ละ Q และแน่นอนว่านักแข่งทุกคนต่างเลือกยางซอฟต์ซึ่งเป็นยางที่มีการยึดเกาะสูงสุด
อย่างไรก็ตาม ในสุดสัปดาห์นี้ที่ Imola ยางแต่ละชนิดจะถูกกำหนดให้ใช้ในแต่ละ Q โดย Q1 นั้น นักแข่งทุกคนจะต้องใช้ยางฮาร์ดที่มีลายคาดขาวบนแก้มยาง
เมื่อนักแข่งคนใดก็ตามผ่านเข้า Q2 พวกเขาเหล่านั้นจะถูกบังคับให้ใช้ยางมีเดียมสีเหลือง และนักแข่ง 10 คนสุดท้ายที่ผ่านเข้า Q3 จะมีสิทธิใช้ยางซอฟต์ในเซสชันนั้น
ในส่วนของเวลาในแต่ละ Q นั้น จะยังคงใช้เวลาเท่าเดิมคือ Q1 18 นาที, Q2 15 นาที, และ Q3 12 นาที อย่างไรก็ตาม จำนวนยางสลิคที่ถูกจัดสรรไว้ให้นักแข่งแต่ละคน จะถูกลดจำนวนลงจาก 13 เหลือ 11 เซต
ในจำนวนยางสลิค 11 เซต จะถูกแบ่งออกเป็น ยางฮาร์ด 3 เซต, ยางมีเดียม 4 เซต, และ ยางซอฟต์ 4 เซต ซึ่งนักแข่งและทีมงานจะต้องบริหารการใช้ยางทั้ง 11 เซต ตั้งแต่รอบฝึกซ้อมแรกจนถึงรอบควอลิฟาย ในขณะที่การจัดสรรจำนวนยางกึ่งเปียกกึ่งแห้งและยางฝนนั้นไม่มีการเปลี่ยนแปลง
ระบบการจัดสรรยางใหม่นี้จะช่วยประหยัดการใช้ยางไป 2 เซต ต่อรถหนึ่งคัน ต่อสุดสัปดาห์การแข่งขัน และจะประหยัดไปได้ทั้งหมด 46 เซต หากนำระบบนี้มาใช้ทั้งฤดูกาล
เมื่อคิดถึงจำนวนรถแข่ง 20 คัน บนกริด นั่นหมายความว่าการแข่งขันจะประหยัดยางไปได้ถึง 920 เซต หรือ 3,680 เส้น ที่ต้องถูกจัดส่งไปทั่วโลก ซึ่งมันจะเป็นการช่วยลดการปลดปล่อยคาร์บอนนั่นเอง
การเปลี่ยนแปลงในครั้งนี้ได้รับความเห็นชอบจาก Pirelli, FOM, ทีมแข่ง, หน่วยงานกำกับดูแลการแข่งขัน F1, และ FIA ภายใต้ ‘แผนการจัดสรรยางทางเลือก’ และมันจะถูกใช้อีกครั้งในปีนี้ เมื่อ Pirelli รวบรวมข้อมูลและได้ข้อสรุปที่แน่นอน
นอกจากนี้ ข้อมูลที่ Pirelli ได้รวบรวมจากรูปแบบการควอลิฟายพิเศษ 2 สนาม ในปีนี้ จะถูกใช้ประเมินความเป็นไปได้ที่จะนำรูปแบบการควอลิฟายใหม่ไปใช้กับทุกสนามในปี 2024
สรุปรูปแบบใหม่ของการใช้ยางในการควอลิฟาย
- Q1 – 18 นาที – ยางฮาร์ด
- Q2 – 15 นาที – ยางมีเดียม
- Q3 – 12 นาที – ยางซอฟต์
อ้างอิง : racingnews365.com