More

    Ford Everest Black Edition เข้มพิเศษแต่งโทนดำขายออสซี่ 1.459 ล้าน

    ฟอร์ด ออสเตรเลียเสริมรุ่นย่อยใหม่แนะนำ Ford Everest Black Edition ออกจำหน่ายด้วยการนำพื้นฐานรุ่น Trend Bi-Turbo 4×4  มาตกแต่งพิเศษ

    Ford

    ผนวกกับยกการตกแต่งภายนอกมาจาก Ford Everest Sport Special Edition เวอร์ชันไทยมาผสมผสานจนเกิดเป็นความลงตัว

    เริ่มที่โลโก้ตัวอักษร Everest สีดำเงาบนขอบฝากระโปรงรถ กระจังหน้าทั้งชิ้นดีไซน์รังผึ้งสีดำติดตราโลโก้ Ford คิ้วใต้กันชนหน้าก็สีดำ ไฟหน้าแบบ LED รีเฟลกเตอร์ พร้อมระบบเปิด-ปิดไฟหน้าอัตโนมัติ ไฟวิ่งกลางวันแบบแอลอีดี รูปตัว C ไฟตัดหมอกหน้า LED พร้อมกรอบโครเมียม

    ด้านข้างตกแต่งสีดำตั้งแต่ราวหลังคารถแบบมีช่องขนาดใหญ่สำหรับติดตั้งแร็คหลังคา เสาอากาศแบบเสาสั้น กระจกมองข้างพร้อมไฟเลี้ยว LED ไม่มีไฟส่องสว่างใต้กระจกมองข้างกับที่เปิดประตูจะตกแต่งด้วยสีดำเงา ช่องระบายอากาศตรงบังโคลนสองข้างเข้มด้วยสีดำผสมโครเมียม บันไดข้างสีดำ

    ไฟท้าย LED ดีไซน์ใหม่ตัว U คว่ำสีรมดำแบบ Signature ประตูท้ายเปิด-ปิด ด้วยไฟฟ้าพร้อมชุดเซนเซอร์เปิดฝาท้ายแบบสามารถใช้เท้ายื่นไปที่ใต้กันชนท้าย และระบบป้องกันการหนีบในชุดกันชนหลังแบบสีเดียวกับตัวรถพร้อมคิ้วสีดำใต้กันชนหลัง และล้ออัลลอย 6 ก้านคู่สีดำพร้อมยาง AT ขนาด 255/65R18

    Fordภายในมาพร้อมความสะดวกสบายเริ่มที่หน้าจอสัมผัสขนาด 12 นิ้ว แนวตั้ง มาพร้อมระบบเชื่อมต่อการสื่อสาร SYNC® 4A พร้อมรองรับการสั่งงานด้วยเสียงเพื่อการสื่อสาร ควบคุมอุปกรณ์เพื่อความบันเทิงและเข้าถึงข้อมูลต่างๆ รองรับ Apple CarPlay แบบไร้สาย และ Android Auto พร้อมลำโพง 8 จุด

    แผงคอนโซลหน้าสีดำพร้อมด้วยมาตรวัดดิจิทัลขนาด 8 นิ้ว พวงมาลัยมัลติฟังก์ชัน 3 ก้าน คอนโซลกลางพร้อมที่วางแก้วน้ำ 2 ตำแหน่ง และที่วางแก้วน้ำแบบพับเก็บได้สำหรับเบาะคู่หน้า เกียร์อัตโนมัติหุ้มด้วยหนังดีไซน์แบบ e-Shifter พร้อมเบรกมือไฟฟ้า กับ Auto Hold ไปอยู่ในจอสัมผัส ช่องต่อไฟ 12V (12V Power Sockets) หลังกล่องคอนโซลกลาง มีที่ชาร์จมือถือไร้สาย มีสวิตช์ควบคุมการทำงานของแอร์หลังได้ กระจกมองหลังตัดแสงอัตโนมัติพร้อมช่องเสียบ USB สำหรับติดตั้งกล้องบันทึกภาพ

    เบาะนั่งคนขับปรับไฟฟ้า และเบาะนั่งผู้โดยสารคู่หน้าตอนหน้าปรับไฟฟ้าด้านคนขับ 10 ทิศทางและคนนั่ง 8 ทิศทาง มีอุ่นเบาะและเบาะเย็นคู่หน้าและฟังก์ชันหน่วยความจำ เบาะนั่งแถวที่ 2 พับได้แบบแบ่ง 60:40 เลื่อนเบาะคล้ายเบาะแคปในรถกระบะเบาะนั่งแถวที่ 3 ซึ่งทำให้รถจุผู้โดยสารได้ 7 คน แบ่งที่นั่งในอัตราส่วน 50:50 และพับได้แบบธรรมดา ที่สำคัญเบาะแถวที่ 2 และ 3 ยังพับได้แบบแบนราบเพื่อการบรรทุกสัมภาระยาวๆ

    พร้อมแอปพลิเคชัน FordPass™ ช่วยให้ลูกค้านัดเข้ารับบริการผ่านช่องทางออนไลน์สั่ง สตาร์ทรถผ่านทางแอปฯ ได้ สามารถในการสตาร์ทรถจากระยะไกล การตรวจเช็คสถานะต่างๆ ของรถ รวมไปถึงการล็อก และปลดล็อกผ่านโทรศัพท์มือถือ

    Ford

    ขุมพลังที่คุ้นเคยกับขนาด 2.0 ลิตร ดีเซลเทอร์โบคู่ Bi-Turbo รหัส YNWS 2.0 ลิตร 210 แรงม้า ที่ 3,750 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 500 นิวตันเมตรที่ 1,750-2000 รอบต่อนาที ต้องเติมน้ำยาบำบัดไอเสียดีเซล (DEF) หรือสาร AdBlue® เพื่อให้เป็นไปตามมาตรฐานยูโร 5 ทำงานร่วมกับเกียร์อัตโนมัติ 10 สปีด แบบ E-Shifter 10R80 พร้อมดิฟล็อกหลังแบบไฟฟ้ากับระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ Full Time 4A

    ผสานกับโหมดการขับขี่แบบ Terrain Management System เลือกได้ถึง 6 โหมดทั้งโหมด Normal, โหมดประหยัด Eco, โหมดลากจูงและบรรทุก Tow/Haul, โหมดทางลื่น Slippery, โหมดทราย Sand, โหมดโคลน Mud/Ruts แล้วยังเพิ่มโหมดหิน Rock Crawl รวม 7 โหมด ลุยน้ำได้สูงสุดถึง 800 มิลลิเมตร มีความสามารถในการลากจูงถึง 3,500 กิโลกรัม และระยะต่ำสุดจากพื้น 229 มิลลิเมตร

    Ford

    ช่วงล่างด้านหน้าแบบ อิสระปีกนกคู่ คอยล์สปริงและเหล็กกันโคลง ส่วนด้านหลังเป็นแบบคอยล์สปริงพร้อมวัตต์ลิงค์และเหล็กกันโคลง โช้คอัพแก๊ส 4 ต้น เน้นการนุ่มนวล หนึบไม่กระด้างเกาะถนนดี พวงมาลัยพาวเวอร์เป็นแบบไฟฟ้า EPS (Electronic Steering Program) น้ำหนักเบา คล่องตัวดี พร้อมความปลอดภัยทั้ง

    • ล็อกความเร็วแปรผันอัตโนมัติแบบ Stop & Go
    • เปิด-ปิดไฟสูงอัจฉริยะ Auto High-Beam
    • ช่วยเบรกอัตโนมัติพร้อมระบบตรวจจับคนเดินถนน จักรยาน และทางแยก Autonomous emergency braking (AEB) with Pedestrian, Cyclist, Car Detection Junction assist
    • เตือนการชนด้านหน้า Forward Collision Warning with Brake Support
    • ช่วยเตือนเมื่อรถออกนอกเลน Lane Departure Warning
    • ตรวจจับรถในจุดบอด Blind Spot Information System
    • ป้องกันการชนเมื่อถอยหลัง Reverse Brake Assist
    • ช่วยการหักพวงมาลัยเพื่อเลี่ยงการปะทะ Evasive Steer Assist
    • อ่านป้ายจราจร Traffic Sign Recognition
    • ตรวจจับขณะออกจากช่องจอด Rear Cross-traffic alert
    • ตรวจจับขณะออกจากช่องจอด Cross-Traffic Alert and Braking

    ถุงลมนิรภัย 8 จุด คู่หน้า ด้านข้าง ม่านถุงลมนิรภัย ถุงลมบริเวณหัวเข่า และตรงกลางเบาะนั่งฝั่งคนขับ ระบบช่วยโทรฉุกเฉิน สัญญาณเตือนระยะจอดด้านหน้าและด้านหลังรวมกัน 8 จุด ระบบป้องกันล้อล็อก ABS กระจายแรงเบรก EBD ดิสก์เบรก 4 ล้อ ควบคุมเสถียรภาพการทรงตัว ESP ป้องกันล้อหมุนฟรี Traction Control System (TCS) ช่วยการออกตัวขณะจอดบนทางลาดชัน HLA ลดความเสี่ยงจากการพลิกคว่ำ Roll-Over Mitigation (ROM)

    FordFord Everest Black Edition จำนวนจำกัดเพียง 750 คันเท่านั้นในราคาไม่รวมค่าจดทะเบียนและภาษีถนน On-Road ของออสเตรเลีย $69,000 หรือราว 1,459,000 บาท พร้อมเปิดรับจองได้ทั่วประเทศแล้ว ก่อนที่จะส่งมอบคันแรกในเดือนกรกฎาคม

    ที่มา Carexpert

     

     

    ABOUT THE AUTHOR

    Latest Posts