More

    GWM POER SAHAR HEV ลดโหดสูงสุด 5 หมื่นเริ่ม 1.139 ล้านบาท

    ต้อนรับงาน Motor Show ค่าย GWM จัดโปรโมชันลดแหลกลดโหดสำหรับ GWM POER SAHAR HEV กระบะไฮบริด 4 ประตูยกสูงรุ่นแรกของค่าย 

    GWM POER SAHAR HEV

    GWM POER SAHAR HEV จำหน่ายในไทย 2 รุ่นย่อย Double Cab ยกสูงขับเคลื่อน 2 ล้อ และขับเคลื่อน 4 ล้อ

    ตั้งแต่กระจังหน้าโครเมียมขนาดใหญ่อลังการพร้อมโลโก้ POER ขนาดใหญ่ไฟหน้า Intelligent LED พร้อม Daytime Running Light ให้ความสว่างชัดเจนกันชนหน้าออกแบบใหม่พร้อมไฟตัดหมอกหน้า LED แนวตั้ง คิ้วขอบล้อตีโป่งให้หนากว่าเดิม

    ด้านหลังเรียบง่ายด้วยไฟท้าย LED ทรงเท่ กระบะท้ายที่เปิดได้สองรูปแบบทั้งเปิดทั้งบานลงมาหรือเปิดแบบตู้กับข้าวซ้าย-ขวา ควบคุมง่ายเพียงปลายนิ้วด้วยระบบสัมผัสและพื้นปูกระบะและจุดยึดสำหรับการผูกเชือกที่มากถึง 18 จุด ล้ออัลลอยมาในขนาด 18 นิ้ว พร้อมยาง 265/60 R18 ตัวรถแน่นอนว่าใหญ่ขึ้นเมื่อเทียบกับ GWM POER เจนเดิมหรือ GWM Cannon ตั้งแต่

    • ความยาว 5,445 มิลลิเมตร
    • ความกว้าง 1,991 มิลลิเมตร
    • ความสูง 1,924 มิลลิเมตร
    • ฐานล้อ 3,550 มิลลิเมตร
    • ความสูงใต้ท้องรถ 224 มิลลิเมตร
    • ความจุถังน้ำมัน 80 ลิตร
    • ด้านกระบะท้ายยาวขึ้น 1,500  มิลลิเมตร ความกว้าง 1,520 มิลลิเมตร และความลึก 500 มิลลิเมตร

    GWM POER SAHAR HEV

    ภายในหรูกว่าเดิมด้วยโทนเข้มสีดำ Jade Black พร้อมหน้าจอสัมผัสขนาดใหญ่ขนาด 12.3 นิ้ว รองรับความบันเทิงได้ทั้ง Apple CarPlay, Android Auto, MP5 Bluetooth ระบบนำทาง และแสดงข้อมูลการขับขี่ต่าง ๆ หน้าจอแสดงผลข้อมูลการขับขี่พร้อมมาตรวัดดิจิทัล 12.3 นิ้วหน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่บนกระจกด้านหน้า HUD

    ลำโพงรอบคัน 10 จุดจาก Infinity ระบบแอมพลิฟายเออร์อิสระปรับระดับเสียงอัตโนมัติตามความเร็วรถ (รุ่น 2.0T HEV ULTRA DOUBLE CAB AUTO 4WD) พร้อมลำโพง 6 ตำแหน่ง (สำหรับรุ่น 2.0T HEV PRO DOUBLE CAB AUTO)

    พวงมาลัยมัลติฟังก์ชันปรับระดับ 4 ทิศทาง ควบคุมการเปลี่ยนเกียร์ (Paddle Shift) ที่พวงมาลัย ไฟตกแต่งห้องโดยสาร Ambient Light พร้อมฟังก์ชันแบบหลายสี และเป็นจังหวะ ช่วยสร้างบรรยากาศภายในห้องโดยสารให้คุณเพลิดเพลิน นาฬิกาแบบคลาสสิก

    GWM POER SAHAR

    เพิ่มความหรูหราให้กับห้องโดยสารได้อย่างลงตัวเปิด-ปิดล็อกประตูอัตโนมัติเมื่อเข้าใกล้และออกห่างจากรถ กุญแจ Smart Key ทำงานร่วมกับปุ่ม Push Start เพิ่มความสะดวกสบายไม่จำเป็นต้องเสียเวลาหากุญแจ ระบบปรับอากาศอัตโนมัติ แยกอิสระซ้าย-ขวา ชาร์จโทรศัพท์แบบไร้สาย ช่วยให้การชาร์จ Smart Phone สะดวกและรวดเร็ว

    เบาะที่นั่งทำจากหนังแท้ เบาะนั่งไฟฟ้าคู่หน้า พร้อมระบบเบาะนวดไฟฟ้า ระบบระบายอากาศ เพื่อผ่อนคลายความเมื่อยล้าของผู้ขับขี่ เบาะนั่งคนขับปรับไฟฟ้าได้ 6 ทิศทาง (สำหรับรุ่น 2.0T HEV PRO DOUBLE CAB AUTO) ปรับไฟฟ้าคนขับ 8 ทิศทาง (รุ่น 2.0T HEV ULTRA DOUBLE CAB AUTO 4WD) เบาะผู้โดยสารด้านหน้าปรับไฟฟ้า 4 ทิศทาง พร้อมระบบนวดไฟฟ้าและระบบระบายอากาศในที่นั่งแถวหน้า

    GWM POER SAHAR

    เบาะนั่งโดยสารแถวที่ 2 สามารถปรับเอนได้ถึง 33 องศา มาพร้อมที่พักแขนตอนกลาง ช่องปรับอากาศสำหรับผู้โดยสารด้านหลัง เพิ่มความสะดวกสบาย เพื่อผู้โดยสารด้านหลังได้รู้สึกผ่อนคลาย และเพลิดเพลินในทุกการเดินทาง

    ควบคุมและสั่งงานตัวรถจากทางไกลผ่าน GWM Application ระบบที่จะช่วยให้ผู้ขับขี่สามารถควบคุมและเชื่อมต่อฟังก์ชันของรถยนต์ได้ แม้ผู้ขับขี่จะอยู่ในระยะที่ไกลจากตัวรถเช่น การควบคุมระบบปรับอากาศ (เปิด-ปิดแอร์) การล็อกและปลดล็อกประตู การค้นหารถยนต์ การปิดหน้าต่าง การปิดซันรูฟ การควบคุมระบบการระบายความร้อนของเบาะ การแสดงตำแหน่งรถยนต์ และตรวจสอบสถานะอื่นๆ

    GWM POER SAHAR

    แน่นอนว่าช่วงแรกจะทำตลาดด้วยขุมพลังไฮบริด เบนซินเทอร์โบ 2.0 ลิตร รหัส E20NA ให้กำลังรวม 244 แรงม้าที่ 5,500-6,000 รอบต่อนาที แรงบิด 380 นิวตันเมตรที่ 1,700-4,000 รอบต่อนาทีกำลังมอเตอร์ไฟฟ้าสูงสุด 106 แรงม้าพร้อมแรงบิดมอเตอร์ไฟฟ้าสูงสุด 268 นิวตันเมตร และแบตเตอรี่ความจุ 1.76 กิโลวัตต์ ให้กำลังรวมมากถึง 350 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 648 นิวตันเมตร จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ DHT 9 สปีด

    มาพร้อมระบบขับเคลื่อนสี่ล้อแบบ Intelligent Electronically Controlled Four-Wheel Drive (Two-Speed)+MLOCK มีโหมดการขับขี่ 5 รูปแบบ ได้แก่ โหมด Normal, Eco, Sport, 4L และ 4H และยังมีรุ่นขับเคลื่อน 2 ล้อยกสูง สามารถลากจูงได้ 3,500 กิโลกรัม ลุยน้ำได้สูงสุด 800 มิลลิเมตร

    GWM POER SAHAR พร้อมเทคโนโลยีที่ล้ำสมัยให้คุณและครอบครัวเดินทางอย่างปลอดภัยไร้กังวลโดยมีฟังก์ชันสุดล้ำมากถึง 29 รายการ โดยมีฟังก์ชันที่เป็น Best-in-class ดีที่สุดในตลาดรถกระบะ

    • ช่วยจอดรถอัตโนมัติ 3 รูปแบบ (IIP)
    • ช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลนในภาวะฉุกเฉิน (ELK)
    • ช่วยรักษาระยะให้อยู่กลางเลน (LCK)
    • ช่วยชะลอความรุนแรงของการเกิดการชนซ้ำครั้งที่ 2 (SCM)
    • กล้องแสดงภาพรอบทิศทาง 360 องศา ประกอบไปด้วยกล้องที่มองได้รอบ 4 ตัว มีความละเอียดคมชัด 4 Megapixel โดยสามารถดูได้เมื่อขับรถที่ความเร็ว 15 หรือ 30 กิโลเมตรต่อชั่วโมงและตอนสตาร์ทรถ
    • เปิด-ปิดไฟหน้าอัตโนมัติ ระบบปรับไฟสูง-ต่ำอัตโนมัติ และฟังก์ชันหน่วงเวลาไฟส่องทางหลังดับเครื่อง (Follow Me Home)
    • ควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผันพร้อมการช่วยเข้าโค้งอัจฉริยะ (Intelligent ACC)
    • ควบคุมความเร็วอัตโนมัติที่ความเร็วต่ำ (TJA)
    • ช่วยถอยหลังอัตโนมัติ (ARA)
    • เบรกฉุกเฉินอัตโนมัติบนทางตรงและทางแยก (AEBI)
    • ช่วยเบรกฉุกเฉินที่ความเร็วต่ำ (MEB)
    • ช่วยเตือนและเบรกเมื่อมีรถในจุดอับสายตาขณะถอยหลัง (RCTA/ RCTB)
    • ช่วยเลี่ยงการเข้าใกล้รถใหญ่จากด้านข้าง (WDS)
    • ช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลน (LKA)
    • ช่วยเตือนเมื่อรถออกนอกเลน (LDW)
    • ช่วยเตือนเมื่อต้องการเปลี่ยนเลน (LCA)
    • ช่วยลงทางลาดชัน (HDC)
    • ช่วยออกตัวบนทางชัน (HSA)
    • ช่วยเตือนการเปิดประตู (DOW)
    • ตรวจความดันลมยาง (TPMS)

    GWM POER SAHAR

    GWM POER SAHAR DOUBLE CAB กระบะที่จะมาเปลี่ยนนิยามของรถกระบะให้ไม่เหมือนเดิมอีกต่อไปเตรียมเปิดประกอบไทยที่โรงงาน Great Wall Motor Manufacturing (Thailand) ปลวกแดง ระยอง มีสีภายนอกทั้งหมด 3 สี ได้แก่ สีขาว (Hamilton White) สีเทา (Ayers Gray) และสีดำ (Sun Black) มาพร้อมราคาพิเศษลดลงจากเดิม 50,000 บาท ดังนี้

    • รุ่น 2.0T HEV PRO DOUBLE CAB AUTO ราคา 1,139,000 บาท (เดิม 1,189,000 บาท)
    • รุ่น 2.0T HEV ULTRA DOUBLE CAB AUTO 4WD ราคา 1,339,000 บาท (เดิม 1,389,000 บาท)

    GWM POER SAHAR

    สำหรับผู้ที่จอง GWM POER SAHAR HEV ระหว่างวันที่ 1 มีนาคม ถึง 6 เมษายน 2568 และรับรถภายในวันที่ 30 เมษายน 2568

    • ดอกเบี้ยพิเศษ 0.99% ผ่อน 48 เดือน
    • ฟรี ประกันภัยชั้นหนึ่ง 1 ปีเต็มมูลค่าสูงสุดไม่เกิน 27,000 บาท
    • ฟรี บริการระบบตรวจสอบและสั่งการรถผ่านอินเทอร์เน็ต (Telematic Service)
    • ฟรีค่าแรงบำรุงรักษาตามระยะทางภายในระยะเวลา 5 ปี หรือระยะทาง 100,000 กิโลเมตร (แล้วแต่อย่างใดอย่างหนึ่งถึงก่อน และไม่รวมอะไหล่สิ้นเปลือง)
    • ฟรี บริการช่วยเหลือฉุกเฉิน (Roadside Assistance) ตลอด 24 ชั่วโมง เป็นระยะเวลา 5 ปี 
    • ฟรี กรอบป้ายทะเบียนและพรม GWM มูลค่ารวม 1,800 บาท
    • ฟรี Bed Liner (แผ่นรองท้ายกระบะ) มูลค่ารวม 5,500 บาท สำหรับรุ่น Ultra 4WD และ 5,000 บาท สำหรับรุ่น Pro 2WD
    • ฟรี น้ำมันรถยนต์ มูลค่ารวมสูงสุดไม่เกิน 1,000 บาท ณ วันส่งมอบรถยนต์
    • การรับประกันคุณภาพรถใหม่ ครอบคลุมระยะเวลา 5 ปี หรือระยะทาง 150,000 กิโลเมตร(แล้วแต่อย่างใดอย่างหนึ่งถึงก่อน)
    • การรับประกันแบตเตอรีไฮบริด เป็นระยะเวลา 8 ปี โดยไม่จำกัดระยะทาง

    ABOUT THE AUTHOR

    Latest Posts