ในขณะที่ประเทศในยุโรปส่วนใหญ่ตั้งเป้างดขายรถเครื่องยนต์สันดาป ภายในปี 2035 แต่สำหรับประเทศที่มีรายได้น้อยและปานกลาง หลายประเทศก็ยังไม่มีการเตรียมพร้อมรับการมาของยุคแห่งรถยนต์ไฟฟ้า แต่นั่นไม่ใช่กับอินโดนีเซียที่ล่าสุด Bloomberg รายงานว่าทางรัฐบาลกำลังเตรียมเสนอเงินช่วยเหลือ 80 ล้าน รูเปียห์ (ประมาณ 178,300 บาท) ในการสนับสนุนการใช้ EV ในประเทศ
การประกาศนี้จัดทำโดยรัฐมนตรีอุตสาหกรรม Agus Gumiwang Kartasasmit ซึ่งถึงแม้ว่ามันจะไม่ได้กำหนดระยะเวลาสำหรับการดำเนินโครงการก็ตาม แต่บางคนมองว่าการเคลื่อนไหวดังกล่าวเป็นหนทางในการลดภาระงบประมาณของประเทศ เนื่องจากท่ามกลางราคาน้ำมันที่พุ่งสูงขึ้น อินโดนีเซียยังคงสามารถคงราคาน้ำมันให้ต่ำได้ด้วยการอุดหนุนจากรัฐบาลที่ 44,000 ล้าน เหรียญสหรัฐ (ประมาณ 1 ล้าน 5 แสนล้าน บาท) อย่างไรก็ตาม มีรายงานออกมาว่าทางรัฐบาลต้องการที่จะลดจำนวนเงินอุดหนุนดังกล่าว ทำให้เกิดการประท้วงภายในประเทศเป็นวงกว้าง
สำหรับความเคลื่อนไหวของ EV ในประเทศอินโดนีเซีย Hyundai ได้จัดตั้งโรงงานและเริ่มปฏิบัติการการผลิตแล้ว เช่นเดียวกับ Mitsubishi ทางด้าน Toyota ได้ลงทุนไปกับการผลิตรถไฮบริดในประเทศ และเมื่อต้นปีนี้ ทางค่ายพึ่งได้จัดแสดงคอนเซปต์ Innova พลังงานไฟฟ้า ที่ดัดแปลงโดยโรงงาน Toyota Astra Motor ของพวกเขาไป
ทางฝั่งค่ายผู้ผลิตจากจีน Wuling Air EV ได้รับการเสนอชื่อให้เป็นรถยนต์อย่างเป็นทางการสำหรับการประชุม G20 เมื่อเดือนพฤศจิกายนปีที่แล้ว โดยพวกเขาได้จัดตั้งตัวแทนจำหน่ายกว่า 136 แห่ง ทั่วประเทศ
ทางรัฐบาลอินโดนีเซียคาดหวังว่า นโยบายที่กำลังจะออกมาจะช่วยเพิ่มแรงจูงใจในการใช้ EV และเพิ่มยอดขายของรถยนต์ไฟฟ้าขึ้น 3 เท่า ภายในปี 2030 โดยเงินช่วยเหลือยังขยายครอบคลุมไปยังรถยนต์ไฮบริด ซึ่งจะได้ส่วนลดครึ่งหนึ่งของ EV ในขณะที่รถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าจะมีสิทธิ์ได้รับเงินช่วยเหลือ 8 ล้าน รูเปียห์ (เกือบ 18,000 บาท)
ไม่เพียงเท่านั้น รถมอเตอร์ไซค์ที่ถูกดัดแปลงให้เปลี่ยนมาใช้พลังงานจากแบตเตอรี่ จะได้รับข้อเสนอจูงใจเป็นจำนวนเงิน 5 ล้าน รูเปียห์ (ประมาณ 11,000 บาท)
อ้างอิง : carscoops.com
