วันที่ 20 กุมภาพันธ์ ตัวแข่ง F1 2024 ของทุกทีมก็จะลงวิ่งทดสอบพร้อมกันที่บาห์เรนแล้ว แต่… มีอยู่ทีมหนึ่งที่ยังไม่ได้วิ่งเชคดาวน์ก่อนการทดสอบเลยสักรอบเดียว นั่นคือ Williams
FW46 เป็นรถคันใหม่ที่อยู่ภายใต้การนำทีมของ James Vowles อย่างเต็มตัวเป็นครั้งแรก ซึ่งทีมบอส Williams ให้เหตุผลกับการไม่ปรากฏตัวของรถว่า พวกเขาพยายามผลักดันทุกอย่างให้ถึงขีดจำกัด จึงทำให้ไม่เหลือเวลาสำหรับการวิ่งเชคดาวน์
“สิ่งที่เราทำกับรถคันนี้เป็นการผลักดันทุกอย่างให้ถึงขีดจำกัด และเพื่อที่จะทำให้คุณเห็นภาพ เทคโนโลยีแชสซีส์นั้นแตกต่าง เทคโนโลยีอื่น ๆ นั้นก็แตกต่างจากที่เราเคยทำมาก่อน” Vowles ให้สัมภาษณ์กับสื่อ
“การเปลี่ยนแปลงเหล่านั้นยิ่งใหญ่มากสำหรับองค์กร เรียกได้ว่า มหึมา บางอย่างนั้นได้ท้าทายเราให้ผลักดันตัวเองก้าวข้ามจุดที่เราต้องการจะเป็น แต่ในกรณีของสิ่งที่เกิดขึ้นในภาพรวมนั้น ผมมีความสุขมาก ๆ”
“โดยทั่วไปแล้วคุณไม่สามารถทำทุกอย่างพร้อม ๆ กันได้ คุณไม่สามารถเปลี่ยนแปลงสิ่งที่คุณกำลังทำอยู่และทำลายวงจรของเทคโนโลยีได้ คุณไม่สามารถอยู่ในสถานการณ์ทีมีศักยภาพที่ดีขึ้นโดยปราศจากการรับความเสี่ยงขนานใหญ่”
“แต่เรารับ (ความเสี่ยงนั้น) ไม่มีข้อกังขาใด ๆ กับการมีรถที่เรามีอยู่ในขณะนี้ และคุณจะได้เห็นมันที่บาห์เรน”
สำหรับ Vowles เขาได้ลองชั่งน้ำหนักดูแล้ว และตัดสินใจว่าการเตรียมรถที่โรงงานสำคัญกว่าการไปวิ่งเชคดาวน์แทร็คที่เปียกจนอาจจะไร้ประโยชน์กับการเก็บข้อมูล
“ถ้าเราจะไปวิ่งที่นั่น (Silverstone) ก็ง่ายนิดเดียว แต่เราต้องบาลานซ์ความสำคัญระหว่างการทดสอบในแทร็คจำลองกับ Silverstone”
“ผมเลือกที่เราจะใช้เวลากับการทดสอบในแทร็คจำลอง แล้วค่อยไปเชคดาวน์ที่บาห์เรน”
“Silverstone ผมทดสอบที่นั่นมาเป็นเวลาหลายปี บางครั้งคุณก็ได้สิ่งที่ดีกลับมา บางครั้งคุณก็แค่ผลาญยางเปียกในสภาวะลมแรงและคุณจะไม่ได้เรียนรู้อะไรเลยสักอย่างเดียว”
“และสมดุลที่ว่าก็คือ ผมเลือกที่จะทดสอบในแทร็คจำลอง จากนั้นก็นำรถไปที่บาห์เรน ที่ซึ่งเราจะได้ทำ (เชคดาวน์) อย่างเหมาะสม ยิ่งไปกว่านั้น เรายังสามารถเก็บวันถ่ายทำไว้ช่วงหลัง ๆ ของปีได้”
“ดังนั้น ข้อสรุปก็คือ เราได้ผลักดันตัวเองไปสู่ขีดจำกัดขั้นสุด ส่วนหนึ่งคือจริง ๆ แล้วผมเชื่อมากกว่าที่จะทำการทดสอบอื่น ๆ ถ้าคุณจะเรียกมันอย่างนั้นนะ แล้ว (เรา) จะใช้บาห์เรนเป็นโอกาสที่จะเริ่มต้น”
อ้างอิง : planetf1.com