More

    Mitsubishi Triton Ralliart จากตำนานรถแข่งสู่กระบะสายดาร์ก

    แฟนๆที่ชื่นชอบ Mitsubishi Triton อาจไม่ชอบรุ่นท็อปสุด Athlete หรือรุ่น GSR ที่ให้ข้าวของมาแบบไม่สะใจแม้จะมีขุมพลัง 204 ม้าเป็นตัวชูโรงก็ตาม

    Mitsubishiและเชื่อว่าเมื่อแฟนๆได้ยินข่าวนี้อาจใจฟูขึ้นมาอีกนิดนึงเมื่อสื่อออสเตรเลียรายหนึ่งได้สัมภาษณ์ Shaun Westcott ซีอีโอของ มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ออสเตรเลียว่าจะมีโอกาสที่จะเห็น Mitsubishi Triton Ralliart รุ่นเหนือกว่า Athlete หรือรุ่น GSR โลดแล่นบนท้องถนนหรือไม่ ทางซีอีโอตอบว่า ตลอดการทำตลาดเราจะมองหาโอกาสในการขยายกลุ่มผลิตภัณฑ์ให้กว้างขึ้น และความเป็นไปได้ที่จะมีรุ่นนี้ ขึ้นอยู่กับกฎเกณฑ์การปล่อยมลพิษที่เข้มงวดต่อตลาดแต่ละประเทศว่าสามารถรองรับได้ไหมและหวังว่าถ้ามาจริงสามารถปล่อยพลังต่อสู้กับคู่แข่งตัวเอ้

    Mitsubishiนอกจากนี้ซีอีโอกล่าวเพิ่มเติมว่าถ้าจะมาในรูปแบบดีเซลหรือขุมพลังอื่นๆไม่ว่าวิธีใดก็อยากให้มาเพราะความต้องการรถประเภท Performance Pickup มีมากขี้นและขายดี สอดคล้องกับทาง Oliver Mann ผู้จัดการทั่วไปฝ่ายการตลาดและกลยุทธ์ผลิตภัณฑ์ มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ออสเตรเลีย ได้ตั้งข้อสังเกตว่าทั้งนี้ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของทางบริษัทแม่ที่ญี่ปุ่นว่าจะสู้กับตลาดกลุ่ม Performance Pickup

    หรือถ้าทางญี่ปุ่นไม่สู้ก็อาจให้สำนักแต่งรถท้องถิ่นอย่าง Walkinshaw ที่เคยฝากผลงานการแต่งรถ Triton XTREME จำนวนจำกัด 500 คัน พัฒนาก็เป็นได้ จนหัวหน้าฝ่ายพัฒนาผลิตภัณฑ์ของ มิตซูบิชิ ญี่ปุ่นที่รับผิดชอบโครงการพัฒนา Triton อย่างนาย Yoshiki Masuda ถึงกับอึ้งว่า Triton XTREME เป็นผลงานจากภูมิปัญญาของชาวออสซี่และแน่นอนว่าเราต้องการมีรถโมเดลระดับไฮเอนด์ที่จะขยายตลาดกลุ่มนี้

    โครงการพัฒนา Mitsubishi Triton Raiilart อาจอยู่ขั้นตอนการศึกษาความเป็นไปได้และถ้าเกิดขึ้นจริงอาจนำรุ่นสี่ประตูที่มีจุดเด่นแชสซีส์แกร่งที่กว้างกว่าเดิม 50 มิลลิเมตร ระยะฐานล้อยาวขึ้น 130 มิลลิเมตร อัปเกรดความดุดิบตกแต่งทั้งล้อ ยาง ช่วงล่างแม้กระทั่งการดีไซน์ที่แปลกไปจากเดิม

    ด้านขุมพลังดีเซลเทอร์โบคู่ Twin Turbo Hyper Power Engine ขนาด 2.4 ลิตร 4N16 High Power ให้กำลัง 204 แรงม้าที่ 3,500 รอบต่อนาที แรงบิด 470 นิวตันเมตรที่ 1,500-2,750 รอบต่อนาที จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด พร้อมโหมดการขับขี่แบบ Sport พร้อมระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ Super Select 4WD II โหมดการขับขี่ 7 โหมด ครอบคลุมการขับขี่ทั้งแบบออนโรด และแบบออฟโรด โหมดการขับขี่ Normal, Eco, Gravel, Snow, Mud, Sand และ Rock มาอัปพลังให้ว่องไวด้วยแรงม้าเดิมหรือโมแรงม้าให้สูงขึ้น

    งานนี้จับตาแล้วว่าโปรเจกต์นี้ใครจะพัฒนาระหว่างบริษัทแม่ญี่ปุ่นหรือทางสำนักแต่งท้องถิ่น แล้วถ้าออกมาจะชนกับกลุ่มซิ่งลุยอย่าง Ford Ranger Raptor กับ WILDTRAK X, Nissan Navara Warrior และ Toyota HILUX GR Sport หรือกลุ่มกระบะหรู Ford Ranger Platinum (STROMTRAK) ต้องติดตาม

    ที่มา Whichcar และ Carsales

     

    ABOUT THE AUTHOR

    Latest Posts