หลังจากเปิดตัว Jeep Grand Cherokee เอสยูวีเจนที่ 5 ที่พร้อมออกไปผจญภัยในโลกกว้างอย่างท้าทายมีทั้งแบบ 5 ที่นั่ง กับ 7 ที่นั่ง
Jeep Grand Cherokee 4Xe เอสยูวีเสียบปลั๊ก ประสบความสำเร็จในตลาดบ้านเกิดที่สหรัฐฯ ล่าสุดเตรียมโกอินเตอร์ไปขายยังประเทศกลุ่มยุโรป โดยเป็นรุ่นที่สองต่อจาก Jeep Wrangler 4Xe ด้วยหน้าตาของเจ้า Grand Cherokee 4Xe ไม่ต่างอะไรกับรุ่นเครื่องยนต์สันดาปล้วนตั้งแต่ ไฟหน้าแนวนอนแบบ Full LED พร้อมไฟ LED Daytime ในโคมเดียวกัน กระจังหน้าแนวตั้ง 7 ช่อง ตัวตนเด่นที่ไม่มีใครเลียนแบบกลมกลืนกับกันชนหน้าไฟตัดหมอกหน้า ล้ออัลลอยขนาด 21 นิ้ว พร้อมยาง 275/45TR21 ไฟท้ายแนวนอน LED และช่องเสียบปลั๊กที่บังโคลนหน้าด้านซ้าย
ภายในเป็นแบบ 5 ที่นั่งพร้อมการตกแต่งหรูกับเบาะนั่งหนังแท้ Palermo คู่หน้าปรับไฟฟ้า 16 ทิศทางรองรับความสบายตลอดการขับขี่ด้วยการนวดและอุ่นเบาะ แผงคอนโซหน้าที่หรูหรากับออพชั่นทัยสมัยทั้ง จอสัมผัสขนาดใหญ่ 10 นิ้ว พร้อมระบบความบันเทิงแบบ Uconnect 5 มาตรวัดดิจิทัล 10 นิ้ว จอแสดงข้อมูลบนแผงคอนโซลหน้า 10 นิ้ว จอเสริมแสดงข้อมูลข้างคนนั่งอีก 10.25 นิ้ว มาพร้อมเสียงเพลงอันไพเราะจากลำโพง 19 จุดจากค่าย McIntosh กำลังขับ 950 วัตต์ เสริมสร้างบรรยกาศภายในด้วยไฟ ambient light แบบ LED เย็นทั้งคันกับแอร์เยกส่วนอุณหภูมิ 4 โซน และที่ขาร์จมือถือไร้สาย
ขุมพลังแน่นนอนว่ามาพร้อมความแรงและประหยัดกับ Plug In Hybrid ด้วยเครื่องยนต์เบนซินเทอร์โบ 2.0 ลิตร ให้กำลังมากถึง 274 แรงม้าที่ 5,250 รอบ/นาที แรงบิด 400 นิวตันเมตรที่ 3,000 รอบ/นาทีในภาคเครื่องยนต์จับคู่กับมอเตอร์ไฟฟ้าสองตัว และแบตเตอรี่ lithium ionที่มีความจุ 17 kWh โดยเมื่อทำงานร่วมกันได้ความแรงมากถึง 380 แรงม้าที่ 5,250 รอบ/นาที แรงบิด 637 นิวตันเมตร โดยวิ่งไกลสุดในโหมดไฟฟ้าถึง 51 กม. จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด ขับเคลื่อนสี่ล้อแบบ Quadra-Drive II 4×4, Selec-Terrain ที่มีโหมดขับเคลื่อน ถึง 5 โหมดทั้ง อัตโนมัติ Auto, หิมะ Snow, ทราย/โคลน Mud, ร็อค Rock และสปอร์ต Sport พร้อมระบบกันสะเทือนแบบถุงลม Quadra-Lift และช่วยเหลือการขับขี่ Active Driving Assist ที่มีความสามารถในการทำงานอัตโนมัติระดับ 2
Jeep Grand Cherokee 4Xe จะจำหน่ายในรุ่น Exclusive Launch Edition โดยขายในประเทศกลุ่มยุโรปทั้ง อิตาลี ฝรั่งเศส เยอรมนี สเปน สหราชอาณาจักร ออสเตรีย เบลเยียม ลักเซมเบิร์ก และเนเธอร์แลนด์ โดยสั่งจองล่วงหน้าก่อนขายจริงหรือ Pre Sale ถึง 30 มีนาคม ผ่านเว็บไซต์ Jeep ยุโรป ส่วนเมืองไทยเตรียมกลับมาทำตลาดอีกครั้งตั้งแต่ 28 กุมภาพันธ์เป็นต้นไปและรุ่นนี้จะเข้าไทยหรือไม่ต้องติดตาม
ที่มา Carscoops
