LEO Solo JetBike มอเตอร์ไซค์บินยุคใหม่ ใช้ 48 ไมโครเจ็ต บินต่ำได้แบบไม่ต้องมีใบขับขี่ ให้ประสบการณ์เหมือนในหนังไซไฟ เปิดราคาเริ่มต้นราว 99,900 ดอลลาร์
LEO Solo JetBike มอเตอร์ไซค์บินที่กำลังกลายเป็นจริง ด้วยเทคโนโลยีไมโครเจ็ต 48 ตัว
สำหรับคนที่เติบโตมากับความฝันอยากขี่ “สเป๊ดเดอร์ไบค์” หรือ “เจ็ตแพ็ก” แบบในหนังไซไฟ LEO Solo JetBike คือคำสัญญาที่กำลังเข้าใกล้ความจริงที่สุดในตอนนี้ ผลงานจากบริษัท LEO Flight รัฐอินเดียนา สหรัฐอเมริกา ที่พัฒนา eVTOL แบบเบาะเดี่ยวซึ่งสามารถบินต่ำได้โดย ไม่ต้องมีใบขับขี่นักบิน และจอดไว้ในโรงจอดบ้านทั่วไปได้เหมือนมอเตอร์ไซค์ธรรมดา
ดีไซน์ล้ำอนาคตด้วยระบบไมโครเจ็ต 48 ตัว
แทนที่จะใช้ใบพัดขนาดใหญ่แบบโดรนหรือเฮลิคอปเตอร์ JetBike รุ่นนี้เลือกใช้ ไมโครเจ็ตไฟฟ้าแบบท่อดักลม (ducted fans) จำนวน 48 ตัว อัดรวมในโครงยาวเพียง 6.5 ฟุต ทำให้มีความนิ่ง ปลอดภัย และมีระบบกระจายแรงขับระดับสูง
ดีไซน์นี้ช่วย
- ลดโอกาสโดนใบพัดหมุน
- กระจายแรงขับเพื่อความเสถียร
- ทำให้รูปลักษณ์เหมือน “มอเตอร์ไซค์ในอนาคต” มากกว่าเครื่องบินทดลอง
สมรรถนะเน้นความปลอดภัยและควบคุมง่าย
Solo JetBike ถูกจัดเป็น เครื่องบิน Part 103 ultralight ที่ออกแบบให้ใช้งานสนุกและปลอดภัย ไม่ได้เน้นทำระยะทางหรือความเร็วสูง
สเปกหลัก
- ระยะเวลาบิน: 10–15 นาที
- ความเร็วสูงสุด: ประมาณ 60 ไมล์/ชม.
- ระดับบิน: สูงสุดราว 15 ฟุตจากพื้น
- ความดัง: ~80 dB
- แบตเตอรี่ solid-state ชาร์จที่บ้านได้
ทั้งหมดนี้ทำให้ JetBike เป็นเหมือน “เครื่องเล่นความตื่นเต้นส่วนตัว” มากกว่าพาหนะสำหรับเดินทางจริงจัง
คู่แข่งในตลาด eVTOL ส่วนบุคคล
ตลาดยานยนต์บินสำหรับบุคคลกำลังเริ่มคึกคัก ทั้ง Jetson ONE จากสวีเดน หรือ Xturismo จากญี่ปุ่น แต่ Solo JetBike โดดเด่นตรงความเรียบง่าย การควบคุมเป็นมิตรกับผู้ใช้ และดีไซน์ที่เน้นความปลอดภัยด้วยระบบไมโครเจ็ตจำนวนมาก
ราคาและวันส่งมอบ
ผู้สนใจสามารถวางมัดจำแบบคืนเงินได้ที่ 999 ดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 31,500 บาท) โดยราคาตัวรถเป้าหมายอยู่ที่ ประมาณ 99,900 ดอลลาร์ (ประมาณ 3,163,000 บาท) และคาดการณ์ส่งมอบช่วง ปลายปี 2025
นิมิตแห่งอนาคตของมอเตอร์ไซค์บิน
อย่างไรก็ตาม Solo JetBike ไม่ได้มาแทนมอเตอร์ไซค์บนถนน แต่กำลังแสดงให้เห็นว่า วัฒนธรรมมอเตอร์ไซค์อาจหลอมรวมเข้ากับเทคโนโลยีการบินไฟฟ้ารุ่นใหม่ได้อย่างไร แม้ว่า JetBike อาจยังเป็นของเล่นราคาแพงสำหรับผู้ใช้กลุ่มแรก แต่ความสำคัญของมันอยู่ที่เทคโนโลยีเบื้องหลัง ตั้งแต่ระบบไดรฟ์แบบ ducted propulsion การควบคุมเสถียรภาพอัจฉริยะ ไปจนถึงระบบไฟฟ้าน้ำหนักเบา ซึ่งอาจปูทางไปสู่ยานยนต์บินสำหรับคนทั่วไปในอนาคต
ติดตามข่าวสารยานยนต์ : car2day.com
Page Facebook : Car2Day
Youtube : youtube.com/@Car2day
