ห่างหายจากตลาด Ultra Luxury SUV ในไทยไปกว่า 20 ปี สำหรับ LEXUS LX ล่าสุดกลับมาอีกครั้งในร่างเจนใหม่ในชื่อ LEXUS LX 500d
LEXUS LX 500d เจเนอเรชันที่ 4 พื้นฐานเดียวกับ Toyota Land Cruiser 300 เปิดตัวตลาดโลกตั้งแต่ ตุลาคม ปี 2021 และขายมานานเน้นกลุ่มพรีเมียมโดยตะวันออกลาง โอชิเนีย และบางประเทศที่จำหน่าย
ภายนอกหล่อดุดัน
ด้วย Spindle Grille (กระจังหน้า) ขนาดใหญ่ รับกับชุดไฟหน้า LED และไฟ LED Daylight รูปทรงตัว L แบบสามมิติ ฝากระโปรงดีไซน์ด้วยเส้นสายที่ดูดุดัน มีช่องดักอากาศขนาดใหญ่ที่กันชนหน้า เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการระบายความร้อนในห้องเครื่องยนต์นอกจากนั้นในส่วนของเสา A ดีไซน์ให้เอนไปทางด้านหลัง
ทำให้ตัวรถดูโฉบเฉี่ยวมากขึ้นด้านข้างตัวถังเน้นความแกร่ง ดูแข็งแรงกำยำด้วยการลดเส้นสายตัวถังด้านข้างลง บนหลังคาติดตั้งแรคหลังคาที่เป็นสีเดียวกับตัวรถ
ชุดไฟท้ายรูปตัว L ที่เชื่อมต่อยาวถึงกัน คั่นกลางด้วยตัวอักษร LEXUS ตรงกลาง กันชนท้ายสีดำเติมความสปอร์ตด้วย Diffuser (แผ่นกันรอยกันชนหลัง) ขนาดใหญ่ ปิดท้ายด้วย Spoiler หลังที่มากับไฟเบรกดวงที่ 3 ซุ้มล้อออกแบบให้เป็นทรงเหลี่ยม ส่วนล้ออัลลอยขนาด 22 นิ้วพร้อมยาง 265/50R22
ตัวรถถูกสร้างบนแพลตฟอร์ม GA-F แบบใหม่ที่มีความแข็งแกร่งขึ้น 20% บนโครงสร้างแบบ Body-On-Frame รวมถึงในส่วนประตูถูกผลิตจากอะลูมิเนียม จึงทำให้มีน้ำหนักลดลง 200 กิโลกรัม ด้วย
- ความยาว 5,090-5,100 มิลลิเมตร
- ความกว้าง 1,990 มิลลิเมตร
- ความสูง 1,895 มิลลิเมตร
- ระยะฐานล้อ 2,850 มิลลิเมตร
- น้ำหนักรถ 2,640-2,720 กิโลกรัม
- ความสูงจากใต้ท้องรถ 201 มิลลิเมตร
- ความจุงถังน้ำมัน 80 ลิตร
ภายในออกแบบให้ดูพรีเมียม
นำแนวคิด Tazuna Concept มาใช้ เพื่อให้ผู้ขับขี่สามารถเชื่อมต่อกับรถได้อย่างเป็นธรรมชาติและมีสมาธิกับการขับขี่ได้มากขึ้นด้วยการตกแต่งวัสดุจากหนังและโลหะ แผงแดชบอร์ดติดตั้งหน้าจอสัมผัส 2 ชั้น ด้านบนมีขนาด 12.3 นิ้ว พร้อมระบบรองรับการสั่งการด้วยเสียง Voice Assistant และเชื่อมต่อทั้ง Apple CarPlay หรือ Android Auto นอกจากนั้นยังทำหน้าที่เป็นจอแสดงภาพจากกล้องมองรอบคัน แผนที่นำทาง ส่วนจอด้านล่างมีขนาด 7 นิ้ว จะทำหน้าที่ระบบควบคุมภายในรถ ระบบปรับอากาศ
ด้านจอมาตรวัดเป็นดิจิทัล TFT ขนาด 12.3 นิ้ว ส่วนระบบเครื่องเสียงติดตั้งชุดเครื่องเสียงระดับพรีเมียม มากับลำโพงของ Mark Levinson ที่มีมากถึง 25 ตำแหน่งทั่วทั้งห้องโดยสาร
ห้องโดยสารมาเบาะที่นั่งแบบ 3 ตอน 7 ที่นั่ง เบาะแบบปรับไฟฟ้าทั้งคนขับและผู้โดยสาร มาพร้อมระบบนวดด้วยถุงลมที่ติดตั้งอยู่ในพนักพิงและเบาะรองนั่ง สามารถเลือกนวดแบบทั้งตัวหรือเฉพาะจุด ให้ร่างกายและจิตใจรู้สึกผ่อนคลายได้อย่างยอดเยี่ยม นอกจากนี้ ระบบพยุงเอวแบบถุงลม (Air Lumbar Support) ได้ผสานความยืดหยุ่นและการรองรับที่มั่นคง ปรับตามสรีระและองศากระดูกสันหลังของแต่ละบุคคล เพื่อคงท่าทางการขับขี่ที่เหมาะสมสะดวกสบายสูงสุด
เบาะนั่งคู่หน้าถูกคั่นด้วยคอนโซลกลาง พร้อมช่อง Cool Box (กล่องรักษาอุณหภูมิ) ขนาดใหญ่ พร้อมเพิ่มความบันเทิงตลอดการเดินทางให้กับผู้โดยสารด้วยจอ multimedia ที่ติดตั้งไว้อยู่ที่หลังเบาะคู่หน้า ที่พักเท้าใต้เบาะ
กล่องเก็บของขนาดใหญ่ ช่องเสียบ USB ปลั๊กไฟ DC ช่องสัญญาณ AUX ม่านบังแดด ที่วางแก้วน้ำ โคมไฟสำหรับส่องอ่านหนังสือแบบส่วนตัว อำนวยความสะดวกอีกขั้นด้วยประตูแบบ Soft Close (ระบบปิดแบบนุ่มนวล) พร้อมด้วยประตูฝาท้ายไฟฟ้า
พร้อมไฟสร้างบรรยากาศภายในมีธีมสีให้เลือกถึง 14 แบบ ที่ได้แรงบันดาลใจจากปรากฏการณ์ธรรมชาติอันงดงาม รวมถึงสามารถปรับแต่งได้เองอีก 50 สี ให้คุณเปลี่ยนบรรยากาศภายในให้สอดคล้องกับอารมณ์ความรู้สึก
นอกจากนี้ยังมีรุ่น F SPORT ถูกปรับให้ต่ำลง สัมผัสได้ทันทีถึงความสปอร์ตอันทรงพลัง โดดเด่นด้วยดีไซน์ที่เป็นเอกลักษณ์ ไม่ว่าจะเป็นกระจังหน้าแบบ Spindle Grille ลายตาข่าย F-mesh พร้อมกรอบชุบโครเมียมรมดำ Jet Black ที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการระบายความร้อน ลายตาข่าย F-mesh บริเวณกันชนหลังส่วนล่าง ล้ออะลูมินัม ขนาด 22 นิ้ว และการเลือกใช้สีพิเศษที่คิดค้นขึ้นเฉพาะ เพื่อสะท้อนความแข็งแกร่งแบบ F SPORT
ภายใน…สะท้อนเอกลักษณ์ด้วย โทนสี Flare Red โดดเด่นสะกดทุกสายตา อันเป็นเอกลักษณ์ของ F SPORT ตกแต่งด้วยฮาโดริอะลูมินัม ที่ได้แรงบันดาลใจจากลายดาบญี่ปุ่น สร้างบรรยากาศความสนุกที่เข้ากับการขับขี่สไตล์สปอร์ต เบาะพิงที่เสริมด้านข้างและเบาะนั่งที่แน่นขึ้น เพื่อเพิ่มความมั่นคงของท่านั่งขณะเข้าโค้ง พวงมาลัยและหัวเกียร์หุ้มหนังแท้ลายฉลุเพื่อเพิ่มการยึดเกาะ แป้นเหยียบและที่พักเท้าอะลูมินัมที่ผ่านการปรับแต่งเพื่อสมรรถนะ พร้อมสัญลักษณ์ F SPORT บนพนักพิงศีรษะ พวงมาลัย และแผ่นกันรอยขอบประตู
ขุมพลังดีเซล
ด้วยดีเซลเทอร์โบคู่ 3.3 ลิตร V6 รหัส F33A-FTV 304 แรงม้าที่ 4,000 รอบต่อนาที แรงบิด 700 นิวตันเมตรที่ 1,600-2,600 รอบต่อนาที จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 10 สปีด Direct Shift-10AT ให้ความเร็วสูงสุด 210 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
มาพร้อมกับระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ AWD ปรับรูปแบบการทำงานได้ 6 รูปแบบ ผ่านระบบ Multi-Terrain Select มีทั้ง Auto, Dirt, Sand, Mud, Deep Snow และ Rock นอกจากนี้ยังมีระบบ Crawl Control ควบคุมความเร็วอัตโนมัติบนเส้นทางโหด
บนพื้นฐานช่วงล่างอิสระ 4 ล้อด้วยแมคเฟอร์สันสตรัทพร้อมเหล็กกันโคลงและด้านหลังแบบมัลติลิงก์ กันโคลงหน้าหลังแบบแอคทีฟ และ Electronic Kinetic Dynamic Suspension System (E-KDSS) รองรับการปีนเนินที่มีความชันมากถึง 45 องศา
ลุยน้ำได้สูงสุด 700 มิลลิเมตร ระบบปรับความสูงตัวรถ Active Height Control และ Adaptive Variable Suspension (AVS) ช่วยยกระดับความนุ่มนวลแต่ยังคงสมรรถนะเฉพาะตัวของรถออฟโรดระดับตำนานได้อย่างยอดเยี่ยม พร้อมระบบล็อกเฟืองท้าย Differential Locks กับพวงมาลัยพาวเวอร์ไฟฟ้า
ด้านรุ่น F SPORT มาพร้อมชุดอุปกรณ์ยกระดับสมรรถนะที่จัดทำขึ้นเป็นพิเศษ ไม่ว่าจะเป็นโช้คอัพสมรรถนะสูงด้านหน้าและหลัง เหล็กกันโคลงด้านหลัง และเฟืองท้ายลิมิเต็ดสลิป Torsen LSD ช่วยกระจายแรงขับได้อย่างเหมาะสมตามน้ำหนักที่กดลงบนล้อทั้งหลังซ้ายและขวา ช่วยเพิ่มการยึดเกาะของยางขณะเร่งออกจากโค้ง และยังปรับจูนพวงมาลัยไฟฟ้าและระบบกันสะเทือนปรับไฟฟ้าเพิ่มความเสถียรในการควบคุมได้เฉียบคมยิ่งขึ้นโดยเฉพาะบนถนนปกติ ควบคู่ไปกับการตอบสนองที่เร้าใจสไตล์สปอร์ต
ความปลอดภัย LEXUS Safety System+ 3.0
- เตือนการชนด้านหน้าพร้อมเบรกอัตโนมัติ Pre-Collision System (PCS)
- ควบคุมระยะห่างและความเร็วอัตโนมัติแบบเรดาห์ Dynamic Radar Cruise Control (DRCC) with all-speed follow function
- เตือนรถออกนอกเลนพร้อมพวงมาลัยหน่วงกลับอัตโนมัติ Lane Departure Alert (LDA)
- ช่วยควบคุมรถให้อยู่กลางเลน Lane Tracing Assist (LTA)
- ช่วยลดความเร็วขณะถึงทางแยก เมื่อผู้ขับขี่ถอนคันเร่งและเปิดไฟเลี้ยว Proactive Driving Assist (PDA)
- ไฟสูงปรับการกระจายแสงอัตโนมัติ Adaptive High Beam System (AHS)
- เตือนจุดมุมอับสายตา Blind Spot Monitoring (BSM)
- เตือนขณะถอยหลัง Rear Cross Traffic Alert (RCTA)
- ตรวจจับรถออกนอกเลน Lane Departure System (LDS)
- ควบคุมรถให้อยู่ในช่องทาง Lane Centering (LC)
- ช่วยเบี่ยงรถจากอุปสรรค Emergency Steering Assist (ESA)
- เบรกฉุกเฉินอัตโนมัติ Autonomous Emergency Braking (AEB)
- ช่วยบังคับเลี้ยวฉุกเฉิน Autonomous Emergency Steering System (AESS)
LEXUS LX500d เอสยูวีฟูลไซซ์ ท้าชน Range Rover BMW X7 Mercedes-Benz GLS และ Mercedes-Maybach GLS แข็งแกร่งและหรูหราในคันเดียวกัน ภายนอกและภายในหรู ออปชันจัดเต็ม ตอบโจทย์ขาลุยที่ชอบความสปอร์ตเปิดตัวและขายไทย 2 รุ่นย่อย
- LX 500d F SPORT 15,500,000 บาท
- LX 500d Premium 15,000,000 บาท
