Lynk & Co 10 EM-P เปิดตัวอย่างเป็นทางการ ที่มาพร้อมราคาช่วงเปิดตัวสุดเร้าใจ ตั้งแต่ 163,800 – 201,800 หยวน หรือคิดเป็นเงินไทยก็แค่ 8.4 แสนบาท ถึง 1.04 ล้านบาทเท่านั้นเอง
โดยขนทัพมาให้เลือกถึง 4 รุ่นย่อย ได้แก่
- 120 AWD Ultra
- (รุ่นใหม่) 120 AWD Halo
- 240 AWD Ultra
- 240 AWD Ultra Sport
ขนาดมิติตัวถัง
- ความยาว 5,050 มม.
- ความกว้าง1,966 มม.
- ความสูง 1,487 มม.
- ระยะฐานล้อ 3,005 มม.
นอกจากจะดูหล่อเหลาแล้ว ยังถูกออกแบบตามหลักอากาศพลศาสตร์อย่างพิถีพิถัน ทำให้ค่าสัมประสิทธิ์แรงเสียดทาน (Cd) ต่ำเพียง 0.219 Cd เท่านั้น ส่วนด้านท้ายก็มาพร้อมไฟท้ายแบบเต็มความกว้างตัวรถ (Full-width taillight) ที่กำลังเป็นที่นิยมในปัจจุบัน
ภายในห้องโดยสารจัดเต็มด้วยเทคโนโลยีล้ำ ๆ ทั้งหน้าจอ AR-HUD (Augmented Reality Head-Up Display) ขนาด 25.6 นิ้ว และหน้าจอเรือนไมล์แบบ LCD ความคมชัดสูงขนาด 12.66 นิ้ว ที่ขาดไม่ได้คือหน้าจอควบคุมส่วนกลางขนาด 15.4 นิ้ว ที่ขับเคลื่อนด้วยระบบอินโฟเทนเมนต์ Lynk Flyme Auto เจเนอเรชันใหม่ล่าสุด พร้อมชิปประมวลผล Qualcomm Snapdragon 8295 ที่รองรับการเชื่อมต่อกับโทรศัพท์มือถือหลากหลายแพลตฟอร์ม ไม่ว่าจะเป็น ICCOA1.6, HiCar และ CarPlay
Lynk & Co 10 EM-P ถูกสร้างขึ้นบนแพลตฟอร์ม CMA Evo ซึ่งเป็นสถาปัตยกรรมสำหรับรถยนต์พลังงานใหม่โดยเฉพาะ หัวใจหลักของรถคันนี้คือระบบปลั๊กอินไฮบริด ที่ผสานการทำงานของเครื่องยนต์ไฮบริด 1.5T เข้ากับระบบขับเคลื่อนไฟฟ้าไฮบริด DHT Evo ทำให้ได้พละกำลังรวมสูงสุดถึง 390 kW (523 แรงม้า) และแรงบิดมหาศาล 755 นิวตันเมตร
นอกจากความแรงแล้ว ระบบช่วงล่างก็ไม่ธรรมดา ด้านหน้าเป็นแบบปีกนกคู่ (Double wishbone) และด้านหลังแบบอิสระ 5 ลิงก์ (Five-link) พร้อมระบบขับเคลื่อน 4 ล้ออัจฉริยะ (AWD) ที่มีมาให้เป็นมาตรฐานในทุกรุ่นย่อย
- รุ่น 240 มาพร้อมแบตเตอรี่ Super Hybrid Energee ความจุ 38.2 kWh ทำให้วิ่งด้วยไฟฟ้าล้วนได้ไกลถึง 240 กม. (ตามมาตรฐาน CLTC) และวิ่งรวมได้สูงสุดถึง 1,400 กม.
- รุ่น 120 มาพร้อมแบตเตอรี่ขนาด 18.4 kWh ทำให้วิ่งด้วยไฟฟ้าล้วนได้ 120 กม. (ตามมาตรฐาน CLTC) และวิ่งรวมได้สูงสุด 1,300 กม.
ปิดท้ายด้วยระบบช่วยเหลือการขับขี่ที่ล้ำสมัยในชื่อ “Qianli Haohan” H7 ที่ใช้ชิปประมวลผล Nvidia Thor เจเนอเรชันใหม่ล่าสุด ซึ่งมีกำลังการประมวลผลสูงถึง 700TOPS พร้อมติดตั้ง LiDAR (เซนเซอร์ตรวจจับวัตถุด้วยแสงเลเซอร์) ทำให้รองรับการทำงานของระบบขับขี่อัตโนมัติ NOA (Navigation on Autopilot) ทั้งบนทางด่วนและในเมืองได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ
Source: CarNewsChina