พึ่งจะครบรอบหนึ่งปีกับการปรับโฉมครั้งแรกในรอบห้าปี สำหรับ Mazda CX-5 เอสยูวีพรีเมียมที่ได้รับการตอบรับอย่างดีจากชาวญี่ปุ่นและบางประเทศ
ถึงแม้เมืองไทยยังไม่มีรุ่นปรับโฉมออกจำหน่ายแต่เชื่อว่าคงต้องตามมาในเร็วๆนี้ ส่วนทางด้านญี่ปุ่นทำตลาดมาเรื่อยๆจนเปิดตัว Mazda CX-5 MY2023 เอสยูวีปรับปรุงใหม่ที่ยังคงหน้าเดิมตั้งแต่ กระจังหน้า Signature Wing พร้อมกรอบกระจังหน้าโครเมียมออกแบบให้ปีกซ้าย-ขวาสั้นลงขนาบข้างกับไฟหน้า LED คู่ dual-beam LED กันชนหน้าออกแบบหรูหราภูมิฐานตัดไฟตัดหมอกหน้า LED ออกไป ล้ออัลลอยมีทั้งขนาด 17 นิ้ว พร้อมยาง 225 / 65R17 และขนาด 19 นิ้ว พร้อมยาง 225/ 55R19 เอกลักษณ์ของรุ่นนี้ปรับบุคลิกให้ดูสง่าด้วย ไฟท้าย LED พร้อมกันชนหลังออกแบบแผงทับทิมให้อยู่ในตำแหน่งสูงขึ้น และท่อไอเสียคู่ และในรุ่นปรับปรุงใหม่นี้เพิ่มสีขาวใหม่ Rhodium White Premium Metallic
ภายในมีการปรับออปชันเล็กน้อยทั้งช่องเสียบ USB แบบ Type-C และเชื่อมต่อ Apple CarPlay แบบไร้สายได้ในชุดจอสัมผัสขนาดใหญ่แบบ Mazda Connect เลือกได้ทั้งแบบ 8.8 และ 10.25 นิ้วพร้อมออปชันเดิมทั้ง เบาะหนังแท้เกรดคุณภาพ แบบ Nappa ลายไม้หลายแบบดีไซน์เท่, แผงควบคุมแอร์, ปุ่มควบคุมอัจฉริยะ Center Commander ปุ่มปรับกระจกมองข้างที่พรีเมียมขึ้น กระจกมองหลังปรับลดแสงอัตโนมัติแบบไร้กรอบ ระบบชาร์จมือถือไร้สาย ระบบเสียง Bose รอบทิศทาง 10 จุด หลังคาซันรูฟแบบไฟฟ้า ไฟส่องสว่างที่ได้รับการออกแบบใหม่ในหลายตำแหน่ง เบาะนั่งออกแบบโอบกระชับทุกการขับขี่ พร้อมระบบระบายอากาศตำแหน่งเบาะนั่งคู่หน้า Seat Ventilation และ มาตรวัดแบบความเร็วแบบดิจิตอล TFT LCD
ขุมพลังสเปกญี่ปุ่นมีขุมพลังให้เลือกตั้งแต่ ดีเซลเทอร์โบ SKYACTIV-D 2.2 ลิตร รหัส SH-VPTS 200 แรงม้าที่ 4,000 รอบ/นาที แรงบิด 450 นิวตันเมตรที่ 2,000 รอบ/นาที นอกจากนี้ยังมีเบนซิน SKYACTIV-G ทั้งเบนซิน 2.5 ลิตร รหัส PY-RPS 190 แรงม้าที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิด 252 นิวตันเมตรที่ 4,000 รอบ/นาที ในรุ่นขับเคลื่อนล้อหน้า และ 188 แรงม้าที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิด 250 นิวตันเมตรที่ 4,000 รอบ/นาทีในรุ่นขับเคลื่อน 4 ล้อ AWD และเบนซิน 2.0 ลิตร รหัส PE-VPS 156 แรงม้าที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิด 199 นิวตันเมตรที่ 4,000 รอบ/นาที โดยทุกขนาดเครื่องยนต์จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติพัฒนาใหม่ SKYACTIV-Drive 6 สปีด และ*เกียร์ธรรมดา SKYACTIV-MT 6 สปีด (*เฉพาะรุ่นเครื่องยนต์ดีเซล)และเลือกได้ทั้งรุ่นขับเคลื่อนสองล้อหน้าและขับเคลื่อนสี่ล้อ i-Activ AWD
มาพร้อมระบบโหมดการขับขี่ Mazda Intelligent Drive Select (Mi-Drive) เพิ่มโหมด Offroad เข้าไปเพิ่มความเร้าใจลุยได้มั่นใจพร้อมพัฒนาเทคโนโลยี SKYACTIV ปรับปรุงโครงสร้างตัวถัง ระบบกันสะเทือน และปรับปรุงการเก็บเสียงให้เงียบยิ่งขึ้นรวมถึงระบบความปลอดภัย i-Activsense มาพร้อมระบบที่ช่วยควบคุมความเร็ว และพวงมาลัย เพื่อรักษาระยะห่างที่เหมาะสม Cruising & Traffic Support (CTS)
Mazda CX-5 MY2023 จำหน่ายที่ญี่ปุ่นช่วงกลางเดือนพฤศจิกายนนี้ เริ่มต้น 2,766,500-4,170,100 yen หรือราว 709,000–1,069,000 บาท (ไม่รวมภาษีนำเข้าของไทย) แต่ถ้ารวมภาษีนำเข้าของไทยแล้วจะอยู่ที่ 1,519,000-2,279,000 บาท
ที่มา Carwatch
