เข้าสู่ไตรมาส 3 ตลาดรถยนต์เมืองไทยเตรียมต้อนรับรถใหม่ 2 รุ่นจากค่าย Mercedes-Benz ทั้ง Mercedes-Benz EQS SUV และ Mercedes-Benz EQE300
เริ่มกันที่ Mercedes-Benz EQS SUV มาในร่างเอสยูวีท้ายตัด Top-End Luxury ในรหัส X296 สร้างจากแพลต์ฟอร์ม Mercedes-Benz EVA platform
ภายนอก Exterior
ชุดกระจังหน้าทึบสีดำคาดด้วยแสง Daytime Running Light แบบ LED แนวนอนตลอดขอบกระจังหน้าด้านบน พร้อมไฟหน้า LED เสริมระบบฉายแสงอัจฉริยะเอาไว้ฉายสัญลักษณ์เพื่อเป็นการเตือนผู้ขับขี่รถคันอื่นได้ ตัวรถมีความคล้ายกับเหล่าบรรดาตระกูล G ไม่ว่าจะบันไดข้างทรงเล็กติดชายล่างประตู ล้ออัลลอยที่มีขนาด 19 กับ 20 นิ้ว และเอกลักษณ์ที่ทิ้งไม่ได้เลยคือ ไฟท้ายแบบ LED ที่มีแสงพาดขวางเป็นแนวนอนตลอดฝาท้าย เป็นการนำว่านำ Mercedes-Benz EQS เวอร์ชั่นเก๋ง มาต่อยอดให้กลายเป็นรถเอสยูวีทรงสูงก็เป็นได้หล่อไม่แพ้กันกับเวอร์ชั่นเก๋ง มิติตัวรถตั้งแต่
- ความยาว 5,125 มิลลิเมตร
- ความกว้าง 1,959 มิลลิเมตร
- ความสูง 1,718 มิลลิเมตร
- ฐานล้อ 3,210 มิลลิเมตร
ภายใน Interior
ภายในเหมือนยกความเป็น The New EQS มาแต่ปรับให้เป็นความอเนกประสงค์ในแบบ 7 ที่นั่ง 3 ตอน พร้อมแผงคอนโซลหน้าพาดเต็มด้วยจอสัมผัสทั้งแผงแบบ MBUX Hyperscreen ประกอบไปด้วยหน้าจอข้อมูลการขับขี่ 12.3 นิ้ว, หน้าจอกลาง Infotainment ขนาด 12.8 นิ้ว ในรุ่น EQS SUV 450+ ส่วนรุ่นใหญ่ EQS SUV 580 4MATIC มาพร้อมจอใหญ่สามจอในชุดแผงคอนโซลหน้ารวม 56 นิ้วแบบ OLED พร้อมจอหลังคู่ 11.6 นิ้ว ลำโพงจาก Burmester รวมถึงวัดุภายในผสมทั้ง ไม้ หนัง และ ดิจิทัลเข้ามารวมกันนั่นเอง
สมรรถนะ Performance
ขุมพลังยกชุดมาจากเก๋ง EQS ไม่ว่าจะแบบมอเตอร์เดี่ยวขับเคลื่อนล้อหลังให้พลัง 360 แรงม้า แรงบิด 568 นิวตันเมตร ในรุ่น EQS 450+ ส่วนรุ่น EQS 450 4MATIC มาในแบบขับเคลื่อนสี่ล้อแบบมอเตอร์คู่ 360 อรงม้า แรงบิด 800 นิวตันเมตร และรุ่น EQS 580 4MATIC มาพร้อมระบบขับเคลื่อนสี่ล้อแบบมอเตอร์คู่ 544 แรงม้า แรงบิด 858 นิวตันเมตร โดยใช้มอเตอร์ไฟฟ้าแบบ Permanently excited synchronous motor หรือ PSM โดยทั้งสามความแรงใช้ขนาดแบต Lithium-ion เท่ากันคือ 107.8 kWh แถมทั้งสามความแรงวิ่งไกลสุด 660 กม. ในรุ่นขับหลัง และ 613 กม.ในรุ่นขับสี่ ตามมาตรฐาน WLTP
สามารถชาร์จด้วยความเร็ว 200 kW โดยใช้เครื่องชาร์จ DC แบบเร็ว ที่มีกำลังไฟ 110 kW สามารถชาร์จได้ 10 – 80% ภายใน 31 นาที และชาร์จช้า AC 10–100% ภายใน 11.25 ชั่วโมง พร้อมโหมดการขับขี่ Dynamic Select โหมดการขับขี่ Comfort, Sport, Eco และ Individual พร้อมระบบเลี้ยวสี่ล้อ โดยล้อหลัง 10 องศา พร้อมระบบกันสะเทือนถุงลม AIRMATIC Air พร้อม Adaptive Damping System
ความปลอดภัย Safety
ยกชุดจากเก๋ง Mercedes-Benz EQS ทั้ง
- ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน adaptive cruise control
- ควบคุมรถให้อยู่ในเลน lane-keep assist
- ควบคุมรถให้อยู่กลางเลน lane-centering assist
- อ่านป้ายจราจร traffic-sign recognition
- ช่วยในการเปลี่ยนเลน lane-change assist
- เตือนมุมบอดด้านข้าง blind-spot monitoring
- เตือนรถวิ่งตัดด้านหลังเมื่อถอยหลัง rear cross-traffic alert
เตรียมขายไทยในวันพรุ่งนี้ (23 สิงหาคม) พร้อมวิสัยทัศน์และทิศทางด้านนวัตกรรมยานยนต์ไฟฟ้าของเมอร์เซเดส-เบนซ์ ทั้งในระดับโลกและในประเทศไทย