ต้อนรับงาน Motor Expo 2024 อย่างยิ่งใหญ่เมื่อค่ายตราดาวส่งรถใหม่โชว์เต็มสูตรหนึ่งในนั้นมีเก๋งทรงหรูขวัญใจผู้บริหารอย่าง Mercedes-Benz S 580 e
สำหรับ Mercedes-Benz S 580 e AMG Premium MY2025 ที่หน้าตาคงเดิมทุกประการตั้งแต่ภายนอกไปจนถึงภายใน
ภายนอกถ่ายทอดทุกความสง่างามบนท้องถนนตามปรัชญา “Sensual Purity” ที่มีความงดงามและน่าหลงใหล ผ่านการออกแบบที่เรียบหรูแต่ทรงพลัง มีการตกแต่งรอบคันแบบ AMG Bodystyling อันเป็นเอกลักษณ์ของ AMG สะท้อนความหรูหราและความทันสมัย เพื่อให้ทุกการขับขี่โดดเด่นในทุกมุมมอง
พร้อมทั้งอุปกรณ์มาตรฐานที่ถูกติดตั้งมาอย่างครบครันทั้งไฟหน้าแบบ MULTIBEAM LED ผสานการทำงานร่วมกับระบบปรับไฟสูงอัตโนมัติ (Adaptive Highbeam Assist Plus) ระบบปรับโคมไฟหน้ารถตามการเลี้ยวของพวงมาลัย ALS (Active Light System) และระบบเพิ่มความส่องสว่างขณะเลี้ยวโค้ง (Cornering light)
นอกจากนี้ยังมาพร้อมเทคโนโลยีที่จะช่วยยกระดับการเดินทางไปอีกขั้นทั้งระบบกุญแจแบบ KEYLESS-GO และ seamless door handles ระบบเปิด-ปิดฝากระโปรงท้ายอัตโนมัติ โดยไม่ต้องใช้มือ (HANDS-FREE ACCESS) หลังคาพาโนรามิคซันรูฟ เลื่อนเปิด-ปิดได้ด้วยระบบไฟฟ้า
มือจับประตูเป็นแบบไร้รอยต่อยังช่วยเพิ่มความกลมกลืนของเส้นสายทางด้านข้าง ไฟท้าย LED ที่เฉียบคม ครอบทับด้วยกรอบโครเมี่ยมใต้ป้ายทะเบียน พร้อมกันชนหลังดีไซน์เท่ ใต้กันชนหลังติดตั้งกรอบท่อไอเสียคู่ 2 ฝั่ง และเส้นโค้งหลังคา Catwalk line ที่กดองศาของหลังคาให้ต่ำลง ทำให้รถยนต์คันนี้ดูสปอร์ตขึ้น มาพร้อมล้ออัลลอยดีไซน์สปอร์ตจาก AMG แบบ multi-spoke ขนาด 20 นิ้ว พร้อมยาง 255/40 R20 สำหรับล้อหน้าและล้อหลัง 285/35R20
ความยาว 5,289 มิลลิเมตร ความกว้าง 2,109 มิลลิเมตร ความสูง 1,503 มิลลิเมตร ฐานล้อ 3,216 มิลลิเมตร น้ำหนักรถ 2,385 กิโลกรัม และความจุถังน้ำมัน 67 ลิตร ในบอดี้รหัส W223
ภายในห้องโดยสารออกแบบมาอย่างประณีตด้วยชุดตกแต่ง AMG Interior Package ที่เน้นความหรูหราและสปอร์ตอย่างลงตัว มาพร้อมเบาะนั่งหุ้มหนัง Exclusive NAPPA ตัดเย็บลายเบาะแบบ diamond design สะท้อนถึงความพิถีพิถันในทุกรายละเอียด เสริมด้วยพวงมาลัยมัลติฟังก์ชันแบบสปอร์ต 3 ก้าน หุ้มด้วยหนัง NAPPA พร้อมปุ่มควบคุมแบบ Touch Control นอกจากนี้ พื้นที่ด้านบนของคอนโซลหน้าและส่วนกลางของแผงประตูกลางยังหุ้มด้วยหนัง NAPPA พร้อมลายไม้ที่โดดเด่นบริเวณแผงประตู ช่องระบายอากาศ และด้านหลังของเบาะนั่งคู่หน้า
อีกทั้งยังมีระบบชาร์จโทรศัพท์มือถือแบบไร้สาย (Wireless Charging) สำหรับที่นั่งด้านหลัง ระบบช่วยเหลือภายในห้องโดยสาร MBUX Interior Assistant ที่สามารถจดจำท่าทางเฉพาะบุคคล เพื่อเรียกใช้งานฟังก์ชันที่ตั้งค่าไว้ล่วงหน้าอย่างง่ายดาย การติดตั้งเทคโนโลยีและระบบการสื่อสารต่างๆจัดมาแบบเต็มพิกัดพร้อมส่งมอบประสบการณ์อันเหนือระดับแก่ผู้ขับขี่และผู้โดยสารไปอีกขั้นทั้งระบบมัลติมีเดีย MBUX entertainment พร้อมเชื่อมต่อ music streaming service ระบบแผนที่นําทางและสภาพการจราจร Live traffic information
ฟังก์ชันสตาร์ทเครื่องยนต์ด้วยโทรศัพท์มือถือ (Remote Engine Start) อุปกรณ์สื่อสารด้วยสัญญาณ LTE สําหรับบริการ Mercedes me connect นอกจากนี้ ผู้โดยสารด้านหลังยังสามารถเพลิดเพลินไปกับระบบมัลติมีเดีย MBUX ที่มาพร้อมจอแสดงผล 2 ตําแหน่ง และระบบเสียงรอบทิศทาง Burmester® 3D surround sound system ด้วยลําโพงคุณภาพสูงถึง 15 ตัว พร้อมระบบปรับรูปแบบเครื่องเสียงแบบส่วนตัว (Sound personalization) ที่จะมอบสุนทรียภาพแห่งเสียงเพลงอย่างง่ายดาย
หน้าจอแสดงข้อมูล Digital Instrument clusters ขนาด 12.3 นิ้ว บนหน้าจอ MBUX7 แบบทัชสกรีนขนาด 12.8 นิ้วเป็นศูนย์รวมการใช้งานทั้งหมดโดยใช้หน้าจอแบบ OLED ที่มอบพื้นที่การใช้งาน (active area) สามารถควบคุมทุกฟังก์ชันการทำงานของรถยนต์ ส่วนระบบ MBUX High-End Rear Seat Entertainment จะทำงานร่วมกับ Rear Tablet หน้าจอระบบสัมผัสขนาด 7 นิ้วบนที่ท้าวแขนสามารถควบคุมความบันเทิงบนหน้าจอขนาด 11.6 นิ้ว 2 หน้าจอสำหรับผู้โดยสารตอนหลังโดยเฉพาะ
ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์เบนซินแบบ 6 สูบเรียง ขนาด 2,999 ซีซี หรือ 3.0 ลิตร รหัส M256 พร้อมเทอร์โบและอินเตอร์คูลเลอร์ให้กำลังสูงสุดถึง 367 แรงม้าที่ 5,500-6,100 รอบต่อนาที พร้อมแรงบิดสูงสุด 500 นิวตันเมตรที่ 1,600-4,500 รอบต่อนาที ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้า 150 แรงม้า แรงบิด 480 นิวตันเมตร และแบตเตอี่ลิเธียมไอออนขนาดความจุ 28.6 kWh เมื่อทำงานร่วมกันให้กำลังสูงสุดถึง 510 แรงม้า และแรงบิดรวมสูงสุด 750 นิวตันเมตร
โดยโหมดไฟฟ้าสามารถวิ่งไกลสุดต่อการชาร์จ 1 ครั้ง 94-113 กิโลเมตรตามมาตรฐาน WLTP และความเร็วสูงสุดในโหมดไฟฟ้าอยู่ที่ 140 กิโลเมตรต่อชั่วโมง แต่อัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงทำได้ถึง 5.2 วินาที ความเร็วสูงสุด 250 กิโลเมตรต่อชั่วโมง จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 9 สปีด 9G-TRONIC ชาร์จได้ทั้ง AC และ DC
ใหม่!! มอบความสะดวกสบายทุกการขับขี่มากขึ้นด้วยระบบควบคุมทิศทางตัวรถแบบเลี้ยว 4 ล้อ (Rear axle steering 4.5°) โดยที่ล้อหลังสามารถเลี้ยวได้มากถึง 4.5 องศา เพื่อช่วยเหลือกรณี U-turn และขณะเข้าจอดที่ความเร็วต่ำ ระบบจะหมุนล้อหลังไปในทิศทางตรงข้ามกับล้อหน้าได้สูงสุดถึง 4.5 องศา
หากความเร็วเกิน 60 กิโลเมตรต่อชั่วโมงระบบนี้จะช่วยการทรงตัวขณะขับขี่ที่ความเร็วสูง โดยจะหมุนล้อหลังไปในทิศทางเดียวกันกับล้อหน้าไม่เกิน 3 องศา ขึ้นอยู่กับความเร็วที่ใช้งาน แต่เมื่อความเร็วสูงสุด ระบบจะเลี้ยวไม่เกิน 2.5 องศา ในทิศทางเดียวกันกับล้อหน้าและความปลอดภัยรอบคันล้ำหน้าไม่ว่าจะเป็น
- ช่วยเหลือการขับขี่ Driving Assistance Package
- รักษาระยะห่างจากรถด้านหน้าและควบคุมความเร็วอัตโนมัติ (Active Distance Assist DISTRONIC)
- ช่วยรักษารถให้อยู่ในช่องทางจราจร (Active Lane Keeping Assist)
- ช่วยควบคุมพวงมาลัยและเตือนเมือปล่อยมือ (Active Steering Assist with hands-off warning)
- ช่วยหยุดรถอัตโนมัติในกรณีฉุกเฉิน (Active Emergency Stop Assist)
- ช่วยเบรกอัตโนมัติเมื่อตรวจพบรถยนต์ จักรยาน และคนข้ามถนน (Active Brake Assist)
- ช่วยเตือนเมื่อมีรถอยู่ในจุดอับสายตา (Active Blind Spot Assist)
- แจ้งเตือนขณะเปิดประตูรถ (Exit warning)
- ตรวจจับเครื่อองหมายจราจร (Traffic Sign Assist)
- ช่วยเตือนอาการเหนื่อยล้าขณะขับขี่ (ATTENTION ASSIST)
- ป้องกันก่อนเกิดเหตุ PRE-SAFE® system
- ป้องกันก่อนเกิดเหตุสําหรับด้านข้าง และผู้โดยสารด้านหลัง PRE-SAFE® impulse side x rear system
- รักษาระดับความเร็ว (Cruise Control) และจํากัดความเร็ว (SPEEDTRONIC)
พร้อมระบบความปลอดภัยพื้นฐานทั้งถุงลมนิรภัยรอบคัน 12 จุด (ด้านหน้า 2 ตําแหน่ง ด้านหลัง 2 ตำแหน่ง ด้านข้าง 4 ตำแหน่งทั้งหน้าและหลัง ด้านข้างป้องกันศีรษะ 4 ตำแหน่ง) สัญญาณเตือนเข็มขัดนิรภัยบนหน้าจอ สําหรับผู้โดยสารด้านหลัง (Rear belt status) โปรแกรมควบคุมการทรงตัวอัตโนมัติ ESP® (Electronic Stability Program) ฟังก์ชันช่วยการทรงตัวขณะเร่งแซงในทางโค้ง (Curve Dynamic Assist) รักษาสมดุลของตัวรถเมือมีลมมาปะทะด้านข้าง (Crosswind Assist)
ป้องกันล้อหมุนฟรี ASR (Acceleration Skid Control) เบรกป้องกันล้อล็อก ABS (Anti-lock braking system) ช่วยเบรก BAS (Brake Assist System) เบรก ADAPTIVE BRAKE พร้อมฟังก์ชัน HOLD และ Hill-Start Assist ไฟเบรกกะพริบฉุกเฉิน (Adaptive Brake Light) เตือนเพื่อนํารถเข้าศูนย์บริการ (ASSYST service interval indicator) เตือนแรงดันลมยาง (tire pressure loss warning system) และช่วยการนำรถเข้าจอดอัตโนมัติพร้อมกล้องแสดงภาพรอบทิศทางและฟังก์ชันช่วยจอด Active Parking Assist
Mercedes-Benz S 580 e AMG Premium MY2025 โดยมีสีตัวถังให้เลือกทั้งหมด 3 สี ได้แก่ สีดำ (Obsidian Black) สีเงิน (High-Tech Silver) สีขาว (MANUFAKTUR Opalite White Bright)วางจำหน่ายในราคา 7,580,000 บาท