หลังจากที่นำเสนอรถรุ่นใหม่ตบเท้าเข้างาน Bangkok Motor Show ครั้งที่ 43 ในส่วนรถใหม่เครื่องยนต์สันดาปกันไปแล้ว
คราวนี้ก็มาถึงคิวของรถยนต์ขับเคลื่อนด้วยพลังไฟฟ้าล้วน BEV จะเห็นได้ว่าปีนี้มีรถยนต์หลากหลายค่ายทั้งจากญี่ปุ่น จีน และยุโรป ต่างพาเหรดส่งรถไฟฟ้ารุ่นใหม่ มากกว่า 20 รุ่น บนพื้นที่ 170,960 ตารางเมตร พร้อมขยายพื้นที่โซน EV Smart City เพื่อตอบรับไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตคนยุคใหม่
สำหรับโซน EV Smart City เพื่อจัดแสดงนวัตกรรมยานยนต์ไฟฟ้า และอุปกรณ์อิเล็กโทรนิกส์ที่ล้ำสมัย ตอบรับเทรนด์ของผู้ใช้รถยนต์ชาวไทยที่สนใจเทคโนโลยีรถยนต์พลังงานไฟฟ้ามากขึ้น โดยมีการจัดแสดงรถยนต์ไฟฟ้าทั้งแบบขับเคลื่อนด้วยพลังงานแบตเตอรี่ (BEV) และระบบขับเคลื่อนปลั๊ก-อิน ไฮบริด (PHEV) จำนวน 8 รุ่นจากผู้ผลิตชั้นนำอย่าง BMW, Great Wall Motor, MG, MINI, Mitsubishi Motors, Nissan, Porsche และ Volvo รวมทั้งได้รับการสนับสนุนจากหน่วยงานภาครัฐเพื่อแนะนำข้อมูล และให้ความรู้เกี่ยวกับการติดตั้งอุปกรณ์ชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าภายในงาน ภายใต้คอนเซ็ปต์ ก้าวด้วยกัน ไปด้วยใจ ไปได้ไกล หรือ Keep Moving Forward Together โดยยังคงจัดกันที่เดิมที่ อิมแพ็คชาเลนเจอร์ เมืองทองธานี ช่วงเดือนมีนาคม นี้ และสำหรับรถไฟฟ้าที่จะโชว์ในงาน Bangkok Motor Show ครั้งที่ 43 ทั้งเปิดตัวพร้อมขาย เปิดตัวในลักษณะโชว์ดักคอคือโชว์ก่อนแล้วขายทีหลัง หรือ รุ่นที่ขายในปัจจุบันมีดังนี้
BMW
หลังเปิดตัวไปสักพักงานนี้ค่ายรถยนต์จากเมืองมิวนิก พร้อมโชว์ตัวจริงและให้สัมผัสเป็นครั้งแรกในงาน กับ BMW i4 เก๋งไฟฟ้าที่จำหน่ายในไทยถึง 2 รุ่นย่อยทั้ง i4 eDrive40 M Sport และรุ่นแรง i4 M50 โดยทั้งคู่มาพร้อมพลังไฟฟ้า BMW eDrive เจเนอเรชั่นที่ 5 โดยมีความจุพลังงานแบตเตอรีแรงดันสูงที่ 83.9 kWh และสามารถชาร์จไฟฟ้าแบบกระแสตรง (DC) สูงสุดได้ที่ 205 กิโลวัตต์ ใช้เวลาประมาณ 31 นาที ในการชาร์จไฟจาก 10 – 80% ทั้งสองรุ่น โดยรุ่น i4 M50 ส่งพลังได้ถึง 544 แรงม้า แรงบิด 795 นิวตันเมตร เพลิดเพลินในการขับขี่ได้ยิ่งกว่า ทั้งยังทำระยะวิ่งได้สูงสุดถึง 521 กิโลเมตร ตามมาตรฐานทดสอบ WLTP ให้อัตราการใช้ไฟฟ้ารวม 22.5 – 18 กิโลวัตต์ชั่วโมง / 100 กิโลเมตร ตามมาตรฐาน WLTP และการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ 0 กรัม / กิโลเมตร ส่วนรุ่น i4 eDrive40 M Sport ผสมผสานกำลังมอเตอร์ไฟฟ้าขนาด 340 แรงม้า เข้ากับระบบขับเคลื่อนล้อหลังแบบคลาสสิก มอบระยะวิ่งสูงสุดถึง 590 กิโลเมตร ตามมาตรฐาน WLTP อัตราการใช้ไฟฟ้ารวม 19.1 – 16.1 กิโลวัตต์ชั่วโมง / 100 กิโลเมตร ตามมาตรฐาน WLTP ปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ 0 กรัม/กิโลเมตร โดยขายในราคา 4,999,000 บาท สำหรับรุ่น i4 M50 และ 4,499,000 บาท ในรุ่น i4 eDrive40 M Sport พร้อมรุ่นอื่นๆทั้ง BMW iX, BMW iX3
GWM
ค่ายรถยนต์จากแดนมังกร ประสบความสำเร็จจากการแนะนำ ORA Good Cat มาแล้ว ปีนี้ ORA จะส่งรถไฟฟ้ารุ่นใหม่ออกจำหน่ายถึงสองรุ่น ซึ่งคาดเดาว่าจะเอา ORA Black Cat เข้ามาแนะนำตัวอีกครั้งและจะส่ง ORA Good Cat GT มาพร้อมชุดแต่งแบบเดียวกับ ORA 02 CAT GT สเปคยุโรป ทั้งสปอยเลอร์หลัง ล้ออัลลอยลายพิเศษพร้อมคิ้วขอบล้อสีพร้อมยาง 18 นิ้ว ขนาด 215/50 R18และชุดแต่งสเกิร์ตหน้ากับหลัง บนพื้นฐานเดิมทั้งกระจังหน้าดีไซน์คลาสสิกพร้อมระบบ Active Air Intake กันชนหน้าทั้งชิ้นแบบกลมกลืนพร้อมไฟหน้า LED ทรงตาแมว หรือ CatEye พร้อม Daytime Running Light และไฟส่องสว่างหลังดับเครื่องยนต์ Follow Me Home หลังคาพาโนรามิกซันรูฟ และมาลุ้นกันดูว่าจะได้ความแรงตามสเปคยุโรปหรือไม่กับ ขุมพลังไฟฟ้าแบบแบตเตอรี่ Lithium iron ความจุ 47.788 kWh และ 63.139 kWh แต่ให้กำลังมากถึง 171 แรงม้า แรงบิด 250 นิวตันเมตรโดยวิ่งไกลสูงสุด 300-400 กิโลเมตร ต่อการชาร์จ พร้อม Fast Charge แค่ 30 นาที ได้มากถึง 30 – 80% โดยความเร็วสูงสุดอยู่ที่ 160 กม./ชม. งานนี้ดูกันแล้วว่าจะเปิดตัวให้คนไทยได้รู้จักมากน้อยแค่ไหน
Hyundai
ค่ายรถยนต์จากแดนกิมจิ ที่นอกจากจะมีรถใหม่ทั้ง Hyundai Creta และ Hyundai Staria Premium แล้วในภาครถไฟฟ้าก็จะนำ Hyundai Ioniq 5 เข้ามาโชว์ด้วย เด่นด้วยไฟหน้า LED คู่รูปตัว U พร้อมโลโก้ Hyundai บนฝากระโปรง ล้ออัลลอยเลือกได้หลายลายตั้งแต่ 19 นิ้ว พร้อมยาง 235/55R19 และขนาด 20 นิ้ว พร้อมยาง 255/45R20 ที่เปิดประตูซ่อนรูป ด้านท้ายแพรวพราวด้วยไฟท้าย LED กับ ตรา Ioniq 5 โดยตัวรถทั้งคันได้แรงบันดาลใจจาก Hyundai Pony เก๋งรุ่นแรกของค่ายยุค 70 ในร่างเอสยูวีท้ายตัด
ขุมพลังไฟฟ้าแบบแบตเตอรี่ Lithium-ION ที่มีถึง 3 ความจุเริ่มที่ จุเล็ก 58kWh ขับเคลื่อนล้อหลัง กำลังมากสุด 170 แรงม้า แรงบิด 350 นิวตันเมตร ขับเคลื่อนล้อหลังวิ่งไกลสุดกต่อการชาร์จ 384 กม. ตามมาตรฐาน WLTP อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ทำได้ 8.5 วินาที กับรุ่น AWD แรงสุด 235 แรงม้า แรงบิด 605 นิวตันเมตร (มอเตอร์ขับเคลื่อนล้อหน้า 72 แรงม้า แรงบิด 255 นิวตันเมตร กับ มอเตอร์ขับเคลื่อนล้อหลัง 163 แรงม้า แรงบิด 350 นิวตันเมตร) วิ่งไกลสุดกต่อการชาร์จ 319 กม. ตามมาตรฐาน Korea อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ทำได้ 6.1 วินาที
แบตเตอรี่แบบ Lithium-ION จุใหญ่ขึ้นอีก 72.6 kWh ขับเคลื่อนล้อหลัง กำลังมากสุด 218 แรงม้า แรงบิด 350 นิวตันเมตร ขับเคลื่อนล้อหลังวิ่งไกลสุดกต่อการชาร์จ 481 กม. ตามมาตรฐาน WLTP อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ทำได้ 7.4 วินาที กับรุ่น AWD แรงสุด 306 แรงม้า แรงบิด 605 นิวตันเมตร (มอเตอร์ขับเคลื่อนล้อหน้า 95 แรงม้า แรงบิด 255 นิวตันเมตร กับ มอเตอร์ขับเคลื่อนล้อหลัง 211 แรงม้า แรงบิด 350 นิวตันเมตร) วิ่งไกลสุดกต่อการชาร์จ 460 กม. ตามมาตรฐาน WLTP อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ทำได้ 5.2 วินาที
แบตเตอรี่แบบ Lithium-ION ใหญ่สุด 77.4 kWh ขับเคลื่อนล้อหลัง กำลังมากสุด 228 แรงม้า แรงบิด 350 นิวตันเมตร ขับเคลื่อนล้อหลังวิ่งไกลสุดกต่อการชาร์จ 488 กม. ตามมาตรฐาน EPA กับรุ่น AWD แรงสุด 325 แรงม้า แรงบิด 605 นิวตันเมตร (มอเตอร์ขับเคลื่อนล้อหน้า 101 แรงม้า แรงบิด 255 นิวตันเมตร กับ มอเตอร์ขับเคลื่อนล้อหลัง 224 แรงม้า แรงบิด 350 นิวตันเมตร) วิ่งไกลสุดกต่อการชาร์จ 412 กม. ตามมาตรฐาน EPA อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ทำได้ต่ำกว่า 5 วินาที โดยทุกขนาดความจุแบตทำความเร็วสูงสุด 185 กม./ชม. งานนี้จับตาแล้วว่า Hyundai Ioniq 5 อาจมีความเป็นไปได้ที่จะเข้าทำตลาดหรือไม่ ต้องติดตาม
MG
แน่นอนแล้วว่าเป็นใครไปไม่ได้นอกจาก MG ZS EV รุ่นปรับโฉมที่ปรับหน้าตาคล้ายรุ่น ZS ปกติ ตั้งแต่กระจังหน้าทรงหกเหลี่ยมแบบปิดช่องระบายอากาศให้กลมกลืนกับสีภายนอกตัวรถพร้อมการออกแบบที่ยกชุดมาจากรุ่น ZS ปกติ เกือบทั้งคัน ภายในปรับรายละเอียดเล็กน้อยทั้งจอสัมผัส 10.1 นิ้ว มาตรวัดดิจิทัลขนาด 7 นิ้ว พร้อมพลังไฟฟ้าพัฒนาใหม่สำหรับเมืองไทย โดยจะใช้ขุมพลังเดิมหรือใหม่ตามสเปคยุโรปหรือไม่มีลุ้นกัน
Mercedes-Benz
พบกันแน่นอนกับ The New EQS From Mercedes-EQ เก๋งไฟฟ้า Fastback ตัวหรู ที่ประกอบในไทยเป็นครั้งแรกและเปิดขายจริงช่วงปลายปีนี้แต่ที่แน่ๆรุ่นที่ขายในไทยไม่ใช่ EQS 450 + ขับเคลื่อนล้อหลังใช้มอเตอร์กำลังขับ 333 แรงม้า แรงบิด 568 นิวตันเมตร สร้างอัตราเร่งจาก 0-100 ได้ใน 6.2 วินาที ทำความเร็วสูงสุดได้ 210 กิโลเมตร/ชั่วโมง โดยเป็นแบต Lithium-ion มีความจุ 107.8 kWh วิ่งไกลสุดต่อการชาร์จหนึ่งครั้งอยู่ที่ 785 กม. แต่จะเป็นรุ่นไหนนั้นต้องติดตามภายในงาน
Toyota
ค่ายรถยนต์สามห่วงยอดนิยมของไทยก็ไม่พลาดขบวนนี้ส่งรถไฟฟ้ารุ่นใหม่ในชื่อ Toyota bZ4X โชว์ดักคอเรียกกระแสก่อนจะขายจริงเร็วๆนี้ เพื่อสอดคล้องกับนโยบายยานยนต์ไฟฟ้าที่จะผลิตรถยนต์ไฟฟ้าพลังงานแบตเตอรี่ครบทั้ง 30 รุ่น ภายในปี 2030 โดยรวมไปถึงรถซีรีส์ bZ จำนวน 5 โมเดลของ Toyota สร้างบนพื้นฐาน e-TNGA ขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้าล้วนกับ แบตเตอรี่ Lithium-ion 71.4 kWh มีให้เลือกทั้งรุ่นขับเคลื่อนล้อหน้าใช้มอเตอร์ไฟฟ้าตัวเดียว มีกำลังสูงสุด 204 แรงม้า แรงบิด 265 นิวตันเมตร และรุ่นขับเคลื่อน 4 ล้อ X-MODE ใช้มอเตอร์ไฟฟ้าสองตัวให้กำลังถึง 218 แรงม้า 336 นิวตันเมตร วิ่งไกลสุดสำหรับรุ่นขับเคลื่อนล้อหน้าทำได้ 450 กม.ต่อการชาร์จหนึ่งครั้งและรุ่นขับเคลื่อน 4 ล้อ AWD ไกลสุด 410 กม. ต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง ตามมาตรฐาน European WLTP อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ทำได้ 8.4 วินาที ความเร็วสูงสุด 160 กม./ชม.ในรุ่นขับเคลื่อนล้อหน้า และ อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ทำได้ 7.7 วินาทีในรุ่น AWD
Volvo
ค่ายรถยนต์สวีเดนที่เปิดตัวรถไฟฟ้ารุ่นที่สอง นั่นคือ Volvo C40 Recharge Pure Electric ที่ ตัวรถถูกสร้างขึ้นบนแพลตฟอร์ม Compact Modular Architecture (CMA) รูปทรงของตัวรถสะท้อนอารมณ์และตัวตนของผู้ขับขี่ได้อย่างสมบูรณ์แบบ โดดเด่นด้วยเส้นหลังคา Slimmed Crossover Roof Line ที่ออกแบบมาให้รับกับทรงท้ายลาดต่ำตามแบบฉบับรถยนต์สไตล์คูเป้ พลังมอเตอร์ไฟฟ้าขับเคลื่อน 4 ล้อ แบบ Dual Motor AWD ให้กำลังสูงสุด 408 แรงม้า ที่ 4,350 – 13,900 รอบ/นาที พร้อมแรงบิด 660 นิวตันเมตร โดยมีความจุ 78 kWh สามารถทำอัตราเร่งจาก 0 – 100 ได้ในระยะเวลาเพียง 4.7 วินาที ให้ระยะทางการขับขี่มากกว่า 500 กิโลเมตรต่อการชาร์จเต็ม 1 ครั้ง แบตเตอรี่มีระบบรองรับการชาร์จเร็ว โดยใช้เวลาการชาร์จจาก 0 – 80% เพียง 37 นาที ระบบการขับขี่แบบ One Pedal Drive ที่ให้การเร่ง ชะลอ และเบรกรถยนต์ ทำได้ด้วยแป้นเหยียบเพียงแป้นเดียว และเริ่มขับโดยไม่ต้องกดปุ่มสตาร์ท ในราคา 2,750,000 บาท ในงานนี้ถ้าสเปคที่จำหน่ายในไทยมาถึงจริงก็คงได้สัมผัสกันที่งานนี้ด้วย
นอกจากนี้บริษัทอรุณ พลัส ในเครือปตท. จะเข้าร่วมงาน เป็นครั้งแรก เพื่อนำเสนอแพล็ตฟอร์มรถยนต์ไฟฟ้าเจเนอเรชั่นใหม่, อุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องกับรถยนต์ไฟฟ้า และนำเสนอธุรกิจในอนาคตที่เกี่ยวข้องกับรถยนต์ไฟฟ้าบนพื้นที่จัดแสดงมากกว่า 1,085 ตารางเมตร พร้อมรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นอื่นๆที่จะจัดแสดงในงานครั้งนี้ได้แก่ Audi e-tron, Audi e-tron Sportback, Audi e-tron GT, Lexus UX 300e, MG EP Plus, MINI Cooper SE, Nissan Leaf, ORA Good Cat, Porsche Taycan, Porsche Taycan Cross Turismo, Volvo XC40 Pure Electric และยังมีรถยนต์ไฟฟ้าอีกหลายรุ่นที่ยังไม่สามารถเปิดเผยข้อมูลในตอนนี้ โดย Bangkok Motor Show ครั้งที่ 43 นี้จะจัดในวันที่ 23 มีนาคม-3 เมษายน ที่อิมแพ็ค ชาเลนเจอร์ เมืองทองธานี