อินโดฯ เตรียมเปิดตัว Kawasaki matic เร็ว ๆ นี้ โดยมาในรูปแบบของรถสกูตเตอร์ที่คงสโลแกนประจำแบรนด์ “Lead Don’t Follow” ซึ่งแปลว่า ต้องอยู่ต่อหน้าคนอื่นเสมออย่าตามหลัง
ในที่สุดปริศนาเกี่ยวกับ คาวาซากิ ที่ถูกกล่าวหาว่ากำลังเตรียมผลิตภัณฑ์ใหม่ก็ได้รับการยืนยันแล้ว แบรนด์นี้สื่อถึงความรู้สึกระดับพรีเมียม เนื่องจากตลอดเวลาที่ผ่านมา คาวาซากิ ไม่สามารถติดตามยอดขายของผู้ผลิตรายอื่นในญี่ปุ่นที่ขาย matic ได้ อย่างไรก็ตาม คาวาซากิ ชอบที่จะใช้การเคลื่อนไหวที่ผิดปกติผ่านการกำเนิดของรถสปอร์ต 2 สูบ 250cc, 4 สูบ 250cc, มอเตอร์เทรลกับ KLX และแม้แต่ซูเปอร์โมโต รวมถึงมอเตอร์ W175 แบบคลาสสิก
สิ่งที่น่าดึงดูด คือการมีอยู่ของรหัสลึกลับที่สงสัยว่าเป็นกลไกใหม่ ที่มีการปรากฎโค้ด AT ขึ้นมาตามหลัง เพราะจะเป็นการเปลี่ยนกลยุทธทางการตลาดครั้งสำคัญของ Kawasaki เลยก็ว่าได้ เพราะคาวาซากิเองก็มีสกูตเตอร์ในค่ายอยู่บ้าง เช่นJ125 และ J300 และ J125 มาพร้อมกับเครื่องยนต์ 125cc. Matic คันนี้มีสกู๊ตเตอร์ที่มีดีไซน์ดุดัน J125 เป็นน้องชายของ J300 มาพร้อมกับเครื่องยนต์ 125cc 4 tak ระบายความร้อนด้วยน้ำ… สกูตเตอร์สามารถคายพลังงานออกมาได้สูงสุด 13.8bhp
J125 ก็มีสัมภาระขนาดจัมโบ้เพียงพอที่จะเก็บหมวกกันน็อคแบบเต็มใบได้ คุณสมบัติเพิ่มเติมอีกประการหนึ่งคือการมีช่องสำหรับเก็บถุงมือและอะแดปเตอร์ชาร์จ 12V นอกจากนี้สกูตเตอร์คันนี้ยังมาพร้อมกับระบบป้องกันการโจรกรรมรุ่น ABS คือมาตรฐานความปลอดภัยที่ติดตั้งอยู่ใน J125
อย่างที่คุณทราบ Kawasaki Japan ได้เปิดตัว Z electric ในงาน Suzuka 8 Hours เมื่อปีที่แล้ว แน่นอนว่า ในรุ่นใหม่นี้จะไม่ทำลายศักยภาพของ Z electric แม้ว่าความคิดของเราก็คือ matic คือสกูตเตอร์
เพราะการกำหนด AT ก็ปรากฏบน Honda EM1 e เป็นไปได้ไหมว่า AT นั้นเป็นรหัสของมอเตอร์ไฟฟ้าจริงๆ เราไม่สามารถตัดศักยภาพนั้นออกไปได้ เนื่องจากในญี่ปุ่นเอง คาวาซากิได้จัดแสดงโหมดแนวคิด Z electric แล้ว
ถ้าก่อนหน้านี้เป็นเวอร์ชัน Z ดังนั้นสำหรับการทำนายครั้งที่สามจะเป็น Ninja Electric สถานะเดียวกับ Z electric หรือไม่ต้องมารอลุ้นกัน ไม่นานเกินอึดใจนี้แน่นอน
สำหรับปุ่ม Walk นี้ มันทำงานเพื่อรักษาความเร็วของมอเตอร์ไม่ให้เป็นอันตรายเมื่อเดินในการจราจรหนาแน่น เนื่องจากด้วยพลังงานมหาศาล เครื่องจักรไฟฟ้าจึงต้องมีการเปิดที่แม่นยำอย่างแน่นอน นี่คือจุดที่ปุ่ม Walk มีบทบาท เพียงกดแล้วไม่ว่าจะเปิดแก๊สเท่าไหร่มอเตอร์ก็จะทำงานช้าเท่านั้น
ปุ่มที่สองคือปุ่ม E-Boost ตามชื่อเลย ปุ่มที่อยู่ทางด้านขวาของแฮนด์รถทำหน้าที่เพิ่มพลังงานเมื่อเราแซง สิ่งที่น่าสนใจคือบริเวณแฮนด์ด้านซ้ายของ Ninja HEV เราจะพบปุ่ม MT/AT โดยเฉพาะสำหรับ Ninja HEV มีการจำลองเกียร์หรือเกียร์คล้ายกับเครื่องยนต์เบนซิน ดังนั้นหากเราเลือก MT ก็จะมีความรู้สึกเหมือนกับมอเตอร์ที่มีระบบส่งกำลัง ในขณะที่ AT เข้าสู่โหมดอัตโนมัติเหมือนกับเมติกมอเตอร์
สุดท้าย ทุกอย่างยังคงเป็นการคาดเดาจากสื่อทางอินโดนีเซีย แต่แน่นอนว่ารหัส AT นี้ทำให้เกิดการคาดเดาว่าจะเปิดตัว New matic ซึ่งดูเหมือนจะเป็นไปไม่ได้ ส่วนจะมีการอัปเดตอะไรอีกครั้ง เราจะรีบมานำเสนอ
ที่มา : Iwabanaran
