ครบรอบ 1 ปีกับการเปิดตัว Nissan Almera Facelift หน้าหล่อเก๋งตัวเก่งแห่งค่ายเพื่อนที่แสนดีจนสร้างยอดขายเป็นกอบเป็นกำให้กับค่ายนี้
ล่าสุดมีการแนะนำรุ่นปรับปรุงใหม่ หรือ MY2024 สำหรับ Nissan Almera เพิ่มออปชันเพิ่มความสะดวกสบายในราคาที่จับต้องได้
ภายนอก
หล่อทั้งคันหเพิ่มลุคโมเดิร์นให้กับด้านหน้าตั้งแต่กระจังหน้ารูปตัววี V-Motion ดีไซน์ใหม่เข้มแนวนอนแบบ Next Generation V-Motion ประกบกับไฟหน้า LED พร้อมไฟ LED signature ดีไซน์ใหม่ในโคมเดียวกันลงตัวด้วยกันชนหน้าชุดใหม่รับกับไฟตัดหมอกหน้า LED กระจกมองข้างทรงสปูนพร้อมไฟเลี้ยวและไฟท้าย LED signature กันชนหลังยังคงใช้ดีไซน์เดิมและโลโก้ Nissan รูปแบบใหม่ติดตั้งทั้งกระจังหน้า ฝาท้าย และดุมล้อ เป็นครั้งแรกของค่ายที่ใช้โลโก้ใหม่ ล้ออัลลอยลายเดิมขนาด 15 นิ้วพร้อมยาง 195/65 R15 และรุ่น E ที่เปิดประตูเป็นสีดำด้าน
ภายใน
ในรุ่น MY2024 มีการเพิ่มออปชันความสบายสำหรับรุ่น V และรุ่น VL เริ่มที่รุ่น V เพิ่มเบาะกึ่งหนังแท้ ไม่สะสมความร้อน Quole Modure ให้ผู้ขับขี่ และผู้โดยสารนั่งสบายทุกการเดินทาง ส่วนรุ่น V และรุ่น VL เพิ่มเพิ่มกุญแจรีโมทอัจฉริยะ พร้อมระบบล็อกและปลดล็อกอัตโนมัติเมื่อเข้าใกล้หรืออกห่างจากตัวรถ นอกนั้นคงเดิมทั้ง
แผงคอนโซลหน้าซึ่งเป็นรูปปีกที่สยายออกพร้อมวัสดุสีน้ำเงินเข้ม (ในรุ่น V และ VL) ตลอดแนวคอนโซลเพิ่มความเก๋ทันสมัยเสริมอารมณ์สปอร์ตให้กับห้องโดยสาร พวงมาลัยมัลติฟังก์ชันท้ายตัดสามก้านติดตั้ง Cruise Control ใหม่และปะโลโก้ Nissan เวอร์ชันใหม่มาด้วย จอสัมผัสขนาดใหญ่ 8 นิ้ว พร้อมระบบอินโฟเทนเมนต์ล่าสุด NissanConnect รองรับการเชื่อมต่อผ่านสมาร์ทโฟนทั้ง Android Auto และ Apple CarPlay รวมทั้งยังสามารถใช้ระบบนำทางผ่าน Google Map ได้สบาย ๆ และระบบสั่งงานด้วยเสียงอัจฉริยะ เพิ่มความสุนทรีย์ในทุกการเดินทางด้วยลำโพงมากสุด 6 จุด
อุปกรณ์ชาร์จแบบไร้สาย Wireless Charger กุญแจรีโมทอัจฉริยะพร้อมปุ้มสั่งสตารท์รถยนต์ทันสมัย ความกว้างขวางนั่งสบายสำหรับผู้โดยสารทุกที่นั่ง มีพื้นที่เข่าทั้งสำหรับผู้โดยสารด้านหน้า ด้านหลังที่มีระยะห่างนั่งสบาย ส่วนที่เก็บสัมภาระทางด้านหลังออกแบบมาให้กว้างขวางบรรจุของชิ้นใหญ่ เช่น ถุงกอล์ฟ กระเป๋าเดินทางใบใหญ่ได้สบายพร้อมกระจกมองหลังแบบไร้ขอบ เพิ่มทัศนวิสัยให้ดียิ่งขึ้น
แอปพลิเคชัน NissanConnect Services เชื่อมต่อคุณกับรถเป็นหนึ่งเดียวช่วยให้ผู้ขับขี่สามารถควบคุมหรือสั่งการรถได้จากระยะไกลผ่านสมาร์ทโฟน ขอความช่วยเหลือได้ทันทีเมื่อเกิดเหตุฉุกเฉิน ด้วยฟังก์ชัน SOS ซึ่งนับเป็นครั้งแรกในเซ็กเมนท์นี้ที่มีไว้กับตัวรถเพียงกดปุ่ม SOS ภายในรถ ระบบจะติดต่อกับศูนย์ให้ความช่วยเหลือฉุกเฉินผ่านระบบเครื่องเสียงภายในรถยนต์ เพื่อประสานงานและส่งความช่วยเหลือไปอย่างรวดเร็ว นอกจากนี้ยังเตรียมรถให้พร้อมสำหรับทุกการเดินทางด้วยระบบสั่งการระยะไกลต่างๆได้แก่ ระบบตรวจสอบสถานะการล็อกประตู สั่งล็อก หรือปลดล็อกรถยนต์ระยะไกล สตาร์ทเครื่องยนต์ระยะไกล สั่งกะพริบไฟหน้าและสั่งระบบแตรระยะไกล ช่วยให้ค้นหาตำแหน่งของรถได้สะดวกแม้ในลานจอดรถที่มีรถแน่นขนัดและ My Car Finder ค้นหาตำแหน่งรถจะช่วยค้นหาและนำทางไปยังรถได้ในทันที
ยังช่วยแจ้งเตือนสถานะของรถได้ด้วยการแจ้งเตือนเมื่อถึงกำหนดการบำรุงรักษาตามระยะและการเตือนเมื่อใช้ความเร็วเกินกำหนด เป็นต้น รวมทั้งยังสามารถดูระยะทางและระยะเวลาที่ใช้รถซึ่งดูได้ละเอียดระดับรายวัน รายเดือน หรือรายปีและยังช่วยดูแลความปลอดภัยของรถ แอปพลิเคชันนี้จะแจ้งไปยังเจ้าของรถทันทีหรือเมื่อรถออกนอกพื้นที่ที่กำหนด แอปพลิเคชันจะแจ้งเจ้าของรถทันที ทำให้สามารถติดตามตำแหน่งของรถได้ตลอดเวลา
ขุมพลัง
ยังคงเดิมกับเบนซินเทอร์โบ HRA0 1.0 ลิตร 100 แรงม้าที่ 5,000 รอบต่อนาที มีแรงบิดถึง 152 นิวตันเมตร 2,400-4,000 รอบต่อนาที พร้อมเกียร์อัตโนมัติ XTRONIC CVT เสริมอารมณ์ของการขับขี่ด้วย D-Step Logic เปลี่ยนเกียร์นุ่มนวลให้อัตราเร่งต่อเนื่องทันใจ และระบบตัดการทำงานของเครื่องยนต์อัตโนมัติเมื่อรถหยุดนิ่ง (Idling Stop) ช่วยให้ประหยัดน้ำมันยิ่งขึ้นในอัตรา 23.3 กิโลเมตรต่อลิตร
ความปลอดภัย
เทคโนโลยีความปลอดภัยใหม่ใน 360° SAFETY SHIELD เพิ่มเทคโนโลยีความปลอดภัยใหม่ตอกย้ำจุดยืนในฐานะคอมแพคซีดานที่มีคุณสมบัติต่าง ๆ ครบถ้วน ไม่ว่าจะเป็น
- เทคโนโลยีเซนเซอร์ตรวจสอบแรงดันลมยาง (Tire Pressure Monitoring System – TPMS)
- เทคโนโลยีเปิด-ปิดไฟสูงอัตโนมัติ (High Beam Assist – HBA)
- เทคโนโลยีแจ้งเตือนเมื่อรถออกนอกช่องทาง (Lane Departure Warning – LDW)
- เทคโนโลยีตรวจจับวัตถุด้านหลังขณะถอย (Rear Cross Traffic Alert – RCTA)
- เทคโนโลยีกล้องอัจฉริยะมองรอบทิศทาง (Intelligent Around View Monitoring–IAVM)
- ตรวจจับและส่งสัญญาณเตือนวัตถุและบุคคลที่เคลื่อนไหวจากกล้องรอบคัน (Moving Object Detection–MOD)
- เทคโนโลยีช่วยเตือนก่อนการชนด้านหน้า (Intelligent Forward Collision Warning–IFCW)
- เทคโนโลยีเตือนจุดอับสายตา (Blind Spot Warning–BSW)
- เทคโนโลยีช่วยการออกตัวบนทางลาดชัน (Hill Start Assist–HSA)
- เข็มขัดนิรภัยคู่หน้าแบบดึงกลับและผ่อนแรงอัตโนมัติ (Pretensioner and Load Limiter Seatbelts)
- ถุงลมนิรภัย SRS 6 จุดทุกรุ่นย่อย
- เทคโนโลยีควบคุมเสถียรภาพการทรงตัวอัตโนมัติ (Vehicle Dynamic Control–VDC)
- เทคโนโลยีเบรกป้องกันล้อล็อก (Anti-lock Braking System–ABS)
- กระจายแรงเบรก (Electronic Brake Force Distribution – EBD)
- เสริมแรงเบรก (Brake Assist)
สีภายนอก มีทั้งสีโมโนโทนและสีทูโทนได้แก่
- สีขาว สตอร์ม ไวท์ (Storm White)
- สีดำ แบล็ค สตาร์ (Black Star)
- สีเทา กัน เมทาลิค (Gun Metallic)
- สีแดง เรเดียนท์ เรด (Radiant Red) รุ่น VL, V, EL
- สีเทา เกรย์ สกาย เพิร์ล (Gray Sky Pearl) รุ่น VL, V
- สีทูโทนเฉพาะรุ่น VL ได้แก่ สีเทา เกรย์ สกาย เพิร์ล หลังคาสีดำเงา, สีเทา กัน เมทาลิค หลังคาสีดำเงา, และสีขาว สตอร์ม ไวท์ หลังคาสีดำเงา
ราคาจำหน่ายยังคงเดิมยกเว้นรุ่น V ปรับขึ้นจากเดิม 10,000 บาท มี 4 รุ่นย่อยดังนี้
- รุ่น E ราคา 549,000 บาท
- รุ่น EL ราคา 589,000 บาท
- รุ่น V ราคา 669,000 บาท
- รุ่น VL ราคา 699,000 บาท