ในช่วง 3 ไตรมาสแรกของปี ปอร์เช่ส่งมอบรถยนต์ให้กับลูกค้าได้ถึง 242,722 คัน ซึ่งเพิ่มขึ้น 10% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา “การมุ่งเน้นเชิงกลยุทธ์ของเราอยู่ที่ผลิตภัณฑ์รุ่นพิเศษ และการเลือกสรรรุ่นรถเฉพาะสำหรับลูกค้าของเรา ในช่วงเวลาของความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจโลก ทิศทางการขายที่เราใช้ทั่วโลกมีแนวโน้มที่ดีมาก” เดทเลฟ วอน พลาเทน (Detlev von Platen) สมาชิกคณะกรรมการบริหารฝ่ายขายและการตลาดของปอร์เช่ เอจี (Porsche AG) กล่าว
ความต้องการที่เพิ่มสูงอย่างต่อเนื่องจากในทวีปยุโรปและภูมิภาคต่างประเทศ
ในทวีปยุโรป ปอร์เช่ส่งมอบรถยนต์ได้ถึง 51,742 คันในช่วง 9 เดือนแรก ถือว่าเพิ่มขึ้น 23% ในตลาดบ้านเกิดอย่างประเทศเยอรมนี ลูกค้าได้รับการส่งมอบรถมากขึ้นกว่าช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ด้วยจำนวน 24,814 คัน เพิ่มขึ้นเป็น 19% ส่วนทวีปอเมริกาเหนือก็เพิ่มขึ้นเป็นเลข 2 หลักเช่นกัน ด้วยตัวเลขส่งมอบรถจำนวน 64,487 คัน เพิ่มขึ้น 14% และในประเทศจีน ปอร์เช่ส่งมอบรถยนต์ได้ 60,748 คันตั้งแต่เดือนมกราคมถึงเดือนกันยายน ซึ่งลดลงร้อยละ 12 สาเหตุหลักมาจากสถานการณ์ทางเศรษฐกิจที่ท้าทายอย่างต่อเนื่องในภูมิภาคนี้ สำหรับตลาดต่างประเทศและตลาดเกิดใหม่ (รวมถึงภูมิภาคเอเชีย แปซิฟิค) มีการส่งมอบรถยนต์ให้กับลูกค้าจำนวนมากถึง 40,931 คัน ซึ่งเพิ่มขึ้น 23%
911 ยังคงเป็นหนึ่งในรุ่นที่ได้รับความนิยมมากที่สุด
ด้วยอัตราที่เพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัดถึง 27% เล็งให้เห็นว่าปอร์เช่ 911 ยังคงได้รับความนิยมอย่างมากในหมู่ลูกค้าของปอร์เช่ โดยในช่วง 3 ไตรมาสแรก ได้มีการส่งมอบรถ 911 ไปแล้วทั้งสิ้น 38,789 คัน
สำหรับคาเยนน์ใหม่ ซึ่งฉลองเปิดตัวครั้งแรกของโลกเมื่อเดือนเมษายน ก็มีความต้องการสูงเช่นกัน ในช่วง 9 เดือนแรก มีการส่งมอบรถเอสยูวีหรู จำนวน 64,457 คัน (-3%) ตัวเลขการลดลงเล็กน้อย เหตุผลมาจากการกำหนดช่วงเวลาการเปิดตัวที่สลับสับเปลี่ยนกันในแต่ละประเทศและภูมิภาคต่างๆ ดังนั้น หากพิจารณาจากมุมมองทั่วโลก สิ่งนี้ส่งผลให้ความพร้อมของผลิตภัณฑ์ในตลาดลดลงชั่วคราวเพื่อรอกำหนดการวันเปิดตัว ในส่วนของ ปอร์เช่ มาคันน์ ส่งมอบให้กับลูกค้ามากถึง 68,354 ราย (+15%) สำหรับรถยนต์ซาลูนสุดหรูอย่าง พานาเมร่า มียอดส่งมอบ 26,779 คัน (+5%) 718 บ็อกซเตอร์ และ 718 เคย์แมน มียอดส่งมอบ 16,458 คัน (+18%)
ความสำเร็จของไทคานน์
ไทคานน์ มียอดส่งมอบเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด โดยลูกค้า 27,885 ราย ได้รับรถใหม่ ซึ่งคิดเป็นการเพิ่มขึ้น 11% โดย เดทเลฟ วอน พลาเทน (Detlev von Platen) กล่าวว่า “นับตั้งแต่เปิดตัวสู่ตลาดในปี 2019 ไทคานน์ (Taycan) ถือเป็นอีกเรื่องราวความสำเร็จ ในปีนี้ เราคาดว่ายอดจำหน่ายจะเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องเมื่อเทียบกับปีที่แล้ว แม้ว่าจะมีความท้าทายในห่วงโซ่อุปทานและการพัฒนาตลาด BEV ในภูมิภาคโลกที่แตกต่างกันก็ตาม”
เดทเลฟ วอน พลาเทน (Detlev von Platen) ยังมั่นใจในช่วงที่เหลือของปีปฏิทินว่า “การจัดส่งรถยนต์ไปทั่วโลกและความต้องการรถรุ่นต่างๆ ของแบรนด์เรายังคงอยู่ในระดับสูง เราจึงเริ่มต้นการส่งท้ายปีอย่างเต็มกำลังและมุ่งมั่น และในขณะเดียวกัน เรายังคงเอาใจใส่และมุ่งเน้นการเติบโตเพื่อคุณค่าอย่างต่อเนื่อง”
