เปิดราคาอย่างเป็นทางการ All New Honda WR-V 2023 ใหม่ มี 2 รุ่นย่อย SV- 799,000 และ RS – 869,000 บาท พร้อมเครื่องยนต์เบนซิน 1.5 ลิตร กำลังสูงสุด 121 แรงม้า และระบบความปลอดภัย Honda SENSING เป็นมาตรฐานในทุกรุ่นย่อย
ดีไซน์ภายนอก รุ่น SV ไฟหน้าแบบ LED พร้อมไฟเลี้ยวด้านหน้าแบบ LED Sequential และระบบเปิด-ปิดไฟหน้าอัตโนมัติ, ไฟส่องสว่างเวลากลางวันแบบ LED, ไฟท้ายแบบ LED, ระบบปัดน้ำฝนแบบปรับตั้งหน่วงเวลา, กระจกมองข้างปรับ-พับด้วยไฟฟ้า พร้อมไฟเลี้ยว, เสาอากาศแบบครีบฉลาม และล้ออัลลอยลาย 5 ก้านขนาด 16 นิ้ว
ภายในห้องโดยสารติดตั้งเบาะนั่งหุ้มหนังสังเคราะห์สีดำ ตกแต่งด้วยผ้าและด้ายสีน้ำเงิน พร้อมพวงมาลัยหุ้มหนังตกแต่งด้วยด้ายสีน้ำเงิน ปรับระดับสูง-ต่ำได้, เบาะนั่งแถวหลังปรับพับแยก 60:40, วัสดุตกแต่งภายในสีดำ Piano Black และแถบตกแต่งสีเงิน, ระบบปรับอากาศอัตโนมัติพร้อมระบบทำความเย็นเร็วและโหมดทิศทางลมเพื่อความสะดวกสบาย, ระบบ Honda Smart Key System พร้อมระบบ One Push Ignition System, ระบบสตาร์ทเครื่องยนต์ด้วยรีโมท (Remote Engine Start) และมาตรวัดพร้อมหน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่ TFT ขนาด 4.2 นิ้ว
มาพร้อมเครื่องเสียงหน้าจอสัมผัสขนาด 7 นิ้ว แบบ Advanced Touch รองรับการเชื่อมต่อ Apple CarPlay และ Android Auto, ระบบสั่งงานด้วยเสียง Siri และ Android Auto, ระบบเชื่อมต่อไร้สายผ่าน Bluetooth, พวงมาลัยมัลติฟังก์ชันพร้อมปุ่มควบคุมเครื่องเสียงและรับ-วางสายโทรศัพท์, ช่องเชื่อมต่อ USB 2 ตำแหน่ง, ช่องจ่ายไฟสำรอง 2 ตำแหน่ง และลำโพง 4 ตำแหน่ง
ดีไซน์ภายนอก รุ่น RS เพิ่มกระจังหน้าโครเมียมแบบสปอร์ต พร้อมสัญลักษณ์ RS, ไฟตัดหมอกคู่หน้า LED, ระบบพับกระจกมองข้างอัตโนมัติ, ล้ออัลลอยสีทูโทนขนาด 17 นิ้ว, เบาะนั่งหุ้มหนังสังเคราะห์ตกแต่งด้วยผ้าและด้ายสีแดง, พวงมาลัยหุ้มหนังตกแต่งด้วยด้ายสีแดง, คิ้วบันไดสเตนเลสพร้อมสัญลักษณ์ RS, พนักเท้าแขนด้านหน้าและหลัง, แผงบังแดดคู่หน้าพร้อมกระจกแต่งหน้าแบบมีไฟส่องสว่าง, ราวมือจับ 4 ตำแหน่ง (รุ่น SV มี 3 ตำแหน่ง), แป้นเปลี่ยนเกียร์ Paddle Shift, ระบบเชื่อมต่อ Honda CONNECT และลำโพง 6 ตำแหน่ง
ทุกรุ่นย่อยถูกติดตั้งระบบความปลอดภัย Honda SENSING ทำงานผ่านกล้องมุมมองกว้างด้านหน้าในการตรวจจับรถยนต์ รถจักรยานยนต์ จักรยาน และคนเดินถนน ประกอบไปด้วย 6 ฟังก์ชัน ได้แก่
- ระบบเตือนการชนพร้อมระบบช่วยเบรก (CMBS)
- ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในช่องทางเดินรถ (LKAS)
- ระบบเตือนและช่วยควบคุมเมื่อรถออกนอกช่องทางเดินรถ (RDM with LDW)
- ระบบปรับไฟสูงอัตโนมัติ (AHB)
- ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน (ACC)
- ระบบเตือนเมื่อรถคันหน้าเคลื่อนที่ (LCDN)
ระบบความปลอดภัยมาตรฐานอื่นๆ ได้แก่
- ระบบช่วยควบคุมการทรงตัวขณะเข้าโค้ง VSA
- ระบบช่วยออกตัวขณะอยู่บนทางลาดชัน HSA
- ระบบเบรก ABS/EBD
- สัญญาณไฟฉุกเฉินอัตโนมัติขณะเบรกกะทันหัน (ESS)
- กล้องมองภาพด้านหลังปรับมุมมองได้ 3 ระดับ
- ระบบเตือนคาดเข็มขัดนิรภัยคู่หน้า
- ไฟเตือนเบาะนั่งด้านหลัง
- ระบบล็อกประตูอัตโนมัติเมื่อกุญแจอยู่ห่างตัวรถ (Walk Awat Auto Lock)
- ถุงลมนิรภัยคู่หน้า, ถุงลมนิรภัยด้านข้าง และจุดยึดเบาะนั่งเด็ก ISOFIX
ในรุ่น RS เพิ่มเติมด้วยระบบแสดงภาพมุมอับสายตาขณะเปลี่ยนเลน Honda LaneWatch และม่านถุงลมนิรภัย (Side Curtain Airbags)
ขุมพลังทั้ง 2 รุ่น จะมาพร้อมติดตั้งเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ DOHC ความจุ 1.5 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 121 แรงม้า ที่ 6,600 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 145 นิวตัน-เมตร ที่ 4,300 รอบต่อนาที ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ CVT ให้อัตราสิ้นเปลือง 16.7 กม./ลิตร รองรับน้ำมัน E20 ได้
Honda WR-V มีให้เลือกทั้งหมด 5 สี ได้แก่
- สีเงินสเตลลาร์ ไดมอนด์ (มุก)
- สีแดง Ignite Red (เมทัลลิก) หลังคาดำ *เฉพาะรุ่น RS
- สีดำคริสตัล (มุก)
- สีเทาเมทิเออรอยด์ (เมทัลลิก)
- สีขาวทาฟเฟต้า
โดยมีให้เลือกทั้งหมด 2 รุ่นย่อย พร้อมราคาจำหน่าย ได้แก่
- รุ่น SV ราคา 799,000 บาท
- รุ่น RS ราคา 869,000 บาท
สามารถชมรถคันจริงและยื่นเอกสารขอทดลองขับได้ที่ Motor Show 2023 ระหว่างวันที่ 22 มีนาคม – 2 เมษายน 2566 ณ อาคารชาเลนเจอร์ฮอล 1-3 อิมแพคอารีน่าเมืองทองธานี
ราคาตารางผ่อน – ดาวน์ All New Honda WR-V 2023