All New Yamaha NMax ปี 2025 หรือที่รู้จักกันในชื่อ NMax Turbo ซึ่งใช้ในประเทศอินโดนีเซีย ล่าสุดได้เปิดตัวอย่างเป็นทางการในประเทศไทยเป็นที่เรียบร้อยร้อย
เป็นอันสิ้นสุดการรอคอยสำหรับ All New Yamaha NMax ปี 2025 ได้เปิดตัวอย่างเป็นทางการในประเทศไทยเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และอย่างที่หลายคนทราบกันอย่างดีว่าสกู๊ตเตอร์รุ่นนี้ใช้อีกชื่อหนึ่งว่า NMax Turbo ในประเทศอินโดนีเซีย แต่ในประเทศไทยได้เปิดตัวมาทั้งหมด 2 รุ่นย่อยด้วยกัน คือ NMAX Standard และ NMAX Techmax
อย่างไรก็ตามทั้งสองรุ่นจะมาพร้อมกับความแตกต่างที่ชัด คือ NMAX Techmax จะมาพร้อมกับระบบขุมกำลังใหม่ YECVT ซึ่งจะให้ฟีลลิ่งการขับขี่ที่่ให้ฟีลลิ่งการขับขี่ที่ สนุกขึ้น เร้าใจขึ้น และมั่นใจได้ในทุกการขับขี่มากกว่าเดิม ซึ่งจะเป็นยังไงมาดูกันได้เลย
NMAX Techmax เครื่องยนต์ Blue Core 155 ซีซี. ระบายความร้อนด้วยน้ำ ให้พละกำลังสูงสุด 15.36 แรงม้า ที่ 8,000 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 14.2 นิวตันเมตร ที่ 6,500 รอบต่อนาที พร้อมด้วยระบบวาล์วแปรผัน VVA ซึ่งมาควบคู่กับเทคโนโลยีใหม่อย่างระบบ YECVT
ระบบ YECVT หรือชื่อเต็มว่า Yamaha Electric Continously Variable Transmission เป็นหนึ่งในเทคโนโลยีใหม่ของ ยามาฮ่า เป็นการพัฒนาระบบส่งกำลัง CVT ที่ควบคุมด้วยอิเล็กทรอนิกส์ โดยมี ECU ทำหน้าที่ประมวลผล และส่งคำสั่งไปยังชุดส่งกำลัง YECVT จากนั้นสัญญาณจะถูกส่งต่อไปยังมอเตอร์ เพื่อปรับอัตราทด เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการเร่งแซงและชลอความเร็ว ซึ่งมีให้เลือก 2 โหมด ได้แก่ T Mode : Town Commuting สำหรับการขับขี่ในเมือง และ S Mode : Sport Touring โดยทั้งสองโหมดนี้สามารถปรับได้ 3 ระดับด้วยกันซึ่งควบคุมได้โดยการกดปุ่ม Shift
ด้านสมรรถนะช่วงล่างทั้งใช้เป็นโช้คอัพหน้าเทเลสโคปิก และโช้คอัพหลังสปริงคู่ ระบบเบรกเป็นดิสก์เบรก หน้า/หลัง พร้อมด้วยระบบเบรก ABS แบบ Dual Channel มีวงล้อ หน้า/หลัง ขนาด 13 นิ้ว สวมด้วยยางหน้าขนาด 110/70 – 13 หลังขนาด 130/70 – 13 นอกจากนี้ยังมาพร้อมกับระบบ Traction Control System (TCS) ช่วยปรับสมดุลการหมุนของล้อหน้า-หลังให้สัมพันธ์กัน
สำหรับฟังก์ชั่นใช้งานรุ่น Techmax มาพร้อมกับหน้าจอสี TFT 4.2 นิ้ว สุดล้ำแบบ INFOTAINMENT แสดงผลข้อมูลมากมาย เพิ่มความสะดวกสบายขณะขับขี่ นอกจากนี้ยังมาพร้อมกับการเชื่อมต่อ แอพ Garmin Street Cross แสดงผลระบบนำทางบนหน้าจอเรือนไมล์ โดยสามารถค้นหาสถานที่ กำหนดปลายทาง และเลือกเส้นทางบนสมาร์ทโฟน ระบบนำทางจะแสดงบนหน้าจอแสดงผลเพื่อรองรับการเดินทางของผู้ใช้โดยไม่มีค่าบริการ สามารถซูมแผนที่เส้นทางเข้าออก หรือปรับเปลี่ยนมุมมองได้โดยใช้สวิตช์บนแฮนด์ด้านซ้ายในการควบคุม ส่วน NMAX Standard จะมาพร้อมกับ หน้าจอดิจิทัล 3.2 นิ้ว ในรูปแบบ Negative LCD แสดงผลชัดเจนขณะขับขี่ แสดงผลความเร็ว / ระยะทาง / ปริมาณน้ำมันเชื้อเพลิง / เวลา
Yamaha NMax ปี 2025 ขี่จริงเป็นอย่างไร?
สำหรับการขับขี่จริงก่อนอื่นเลยขอเริ่มที่การออกแบบได้รับกับปรับปรุงไปไม่น้อย โดยส่วนของไฟหน้าและไฟเลี้ยวดีไซน์เหมือนรูปตัว M โดยส่วนของไฟหลักจะเป็นไฟ LED โปรเจคเตอร์สองดวง มีไฟ DRL เป็นเส้นตรง และขนาบข้างด้วยไฟเลี้ยว LED ส่วนของด้านท้ายก็ปรับเปลี่ยนใหม่มีความเป็นสปอร์ตมายิ่งขึ้นแยกชัดเจนระหว่างไฟท้ายกับไฟเลี้ยว
ส่วนฟีลลิ่งการขับขี่เราได้ทดสอบกันที่ แก่งกระจานเซอร์กิต ซึ่งแน่นอนว่าทำให้เราสามารถรีดสมรรถนของตัวรถออกมาใช้ได้อย่างเต็มที่ และจากที่ได้สัมผัสมากับเจ้าระบบ YECVT ใหม่ สามารถสั่งการควบได้ผ่านปุ่ม Shift ที่ประกับฝั่งซ้าย สามารถตั้งค่าได้ 2 โหมด 3 ระดับ โดยโหมด T Mode จะเป็นสำหรับการขับขี่ในเมือง และ S Mode จะเป็นโหมดที่ให้อัตราเร่งที่จัดจ้านกว่าทำเราสามารถทำความเร็ว หรือสร้างพละกำลังเพื่อดันขึ้นเนินได้อย่างสบายๆ ซึ่งในจุดนี้บอกเลยว่าใครที่ชอบความเร็วถูกใจแน่นอน
นอกจากเพิ่มอัตราเร่งแล้ว ยังมีในส่วนของ Shift Down ที่ ECU จะประมวลผลและสร้าง Engine Brake จากเครื่องยนต์มาเพิ่มความมั่นใจในการขับขี่เมื่อปิดคันเร่งอีกด้วย โดยในจุดนี้สามารถตั้งค่าได้ 3 ระดับ และยังให้ฟีลลิ่งเหมือนกับตอนเราลดเกียร์ลงเหมือนมอเตอร์ไซค์ทั่วไป ซึ่งทำให้มีความมั่นใจมากยิ่งเมื่อต้องปล่อยไหลเข้าโค้ง หรือลงเนิน ส่วนรุ่น Standard ที่มาพร้อมระบบ VVA ให้ฟีลลิ่งอัตราเร่งจะอยู่ตรงกลางระหว่าง T Mode และ S Mode ของรุ่น Techmax
ด้านสมรรถนะช่วงล่างทั้ง 2 รุ่นใช้ชุดช่วงล่างเดียวกัน และเป็นอีกหนึ่งจุดที่น่าประทับใจ เพราะทาง ยามาฮ่า ได้มีการปรับเซ็ตติ้งใหม่เป็นที่เรียบร้อยแล้ว จากที่ได้สัมผัสมาเมื่อเทียบกับฟีลลิ่งรุ่นก่อนหน้าแล้ว NMax ปี 2025 มีช่วงล่างที่เฟิร์มมากกว่า สามารถเลี้ยว และเข้าโค้งได้อย่างเฉียบคมและนิ่งมากขึ้น
ควรเลือกใช้ YECVT ไหม?
หากถามว่าระหว่าง NMAX Techmax และ NMAX Standard จะเลือกอย่างไหนดีต้องบอกเลยว่าถ้าหากใครที่เทคโลยีใหม่ และการขับขี่รถออโตเมติกที่สนุกมากขึ้น มีฟีลลิ่งการขับขี่เหมือนมอเตอร์ไซค์ที่มีเกียร์ สามารถขับขี่ได้อย่างมั่นใจทั้ง เร่งแซง ขึ้นเขา ลงเนิน และเข้าโค้ง ระบบ YECVT ของรุ่น Techmax เป็นคำตอบที่ชัดเจนสำหรับคุณแน่นอน แต่ถ้าหากคุณต้องการเพียงแค่ใช้งานในชีวิตประจำวัน หรือใช้งานทั่วไป รุ่น Standard ก็เพียงพอแล้ว ที่สำคัญทั้ง 2 รุ่นยังมาพร้อมกับคุ้มค่ากว่าด้วยการรับประกันมากกว่า ถึง 5 ปี หรือ 50,000 กิโลเมตร
สำหรับราคาและการวางจำหน่าย Yamaha NMAX Techmax ราคาแนะนำ 113,500 บาท มีให้ 2 สี ตัวเลือก ได้แก่ Magma Black (น้ำตาล-ดำ) และ Prestige Gray (เทา-ดำ) ส่วน Yamaha NMAX รุ่น Standard ราคาแนะนำ 98,500 บาท มีทั้งหมด 4 สี ได้แก่ Super Red (แดง), Pastel Blue (ฟ้า), Vivid Black (ดำ) และ Glossy White (ขาว)
ติดตามข่าวสารยานยนต์ : car2day.com
Page Facebook : Car2Day
Youtube : youtube.com/@Car2day
