Rimac Nevera เป็นรถถอยหลังที่เร็วที่สุดอย่างเป็นทางการ บันทึกสถิติโดย Guinness World Records หลังจากที่ Nevera ขับถอยหลังทำความเร็วได้ 171.34 ไมล์ต่อชม. หรือประมาณ 275.75 กม./ชม. สถิติก่อนหน้านี้ถูกสร้างไว้เมื่อ 20 ปีที่แล้วโดย Caterham 7 Fireblade ซึ่งทำความเร็วได้ 102.58 ไมล์ต่อชั่วโมง หรือประมาณ 194 กม./ชม.
Nevera สามารถสร้างสถิติได้ด้วยระบบขับเคลื่อนที่เป็นเอกลักษณ์ มอเตอร์ไฟฟ้าระบายความร้อนด้วยน้ำมันแบบแม่เหล็กถาวรสั่งทำพิเศษประจำทุกล้อ ส่งกำลังไฟฟ้าหมุนไปข้างหน้าและข้างหลังได้อย่างเต็มกำลัง Rimac เชื่อมต่อล้อหน้าและล้อหลังเข้ากับกระปุกเกียร์ความเร็วเดียว
ระบบส่งกำลังสร้างแรงม้าได้ถึง 1,914 แรงม้าและแรงบิด 2,359 นิวตันเมตร พลังทั้งหมดนั้นแปลเป็นสถิติของสมรรถนะได้อย่างแท้จริง Rimac สามารถทำอัตราเร่ง 0 – 100 กม./ชม. ในเวลาเพียง 1.74 วินาที สามารถวิ่งควอเตอร์ไมล์ได้ภายใน 8.25 วินาที ขณะที่วิ่งต่อไปด้วยความเร็วสูงสุด 415 กม./ชม.
Matija Renić หัวหน้าวิศวกรโปรแกรมของ Nevera ที่ Bugatti Rimac กล่าวว่าทีมงานได้ตระหนักถึงความเป็นไปได้ที่ EV อาจเป็นรถยนต์ที่ถอยหลังได้เร็วที่สุดในโลกในระหว่างการพัฒนา แต่บริษัทไม่ได้ออกแบบตามหลักอากาศพลศาสตร์ การระบายความร้อน หรือความเสถียรของ Nevera สำหรับความสำเร็จเรื่องการถอยหลังให้เร็วที่สุดในโลก แต่จากการจำลองแสดงให้เห็นว่ารถสามารถเร่งความเร็วถอยหลังได้มากกว่า 241 กม./ชม.
สิ่งที่ทีมงานยังไม่สามารถตอบได้ นั่นก็คือมันจะคงความเสถียร์ได้นานแค่ไหน? Goran Drndak นักขับทดสอบของ Rimac กล่าวว่า “ประสบการณ์การขับขี่ดังกล่าวต้องใช้เวลาพอสมควรก่อนที่จะคุ้นเคย” แต่เสริมว่า Nevera “ผ่านไปได้สบายๆ” เขาบอกว่าเขาระมัดระวังที่จะไม่ทำให้เสียการทรงตัวของรถ โดยค่อยๆ ขยับพวงมาลัยให้อยู่ในเป้าหมาย และคอยสังเกตจุดเบรกระหว่างที่พยายามจะเบรก
การสร้างสถิตินี้เกิดขึ้นที่สนามทดสอบ ATP ที่คุ้นเคยในเมืองพาเพนบวร์ก ประเทศเยอรมนี Rimac สร้างสถิติใหม่ 23 รายการในศูนย์แห่งนี้เมื่อต้นปีนี้ รวมถึงการวิ่งด้วยความเร็ว 0-249-0 ไมล์ต่อชั่วโมงที่เร็วที่สุดด้วย Nevera ทำได้ในเวลา 29.84 วินาที แต่ Koenigsegg Regera คว้ามันมาจาก Rimac ในอีกไม่กี่เดือนต่อมาด้วยเวลา 28.82 วินาที
สถิติใหม่นี้ถือเป็นสถิติล่าสุดสำหรับรถยนต์คันนี้ ซึ่งทำลายสถิติ Nurburgring lap time ด้วยการผลิต EV ที่เร็วที่สุดในสนามแข่ง จบหลักสูตรใน 7.5.298 นาที ตามมาด้วย Tesla Model S ใช้เวลา 7.25.231 นาที นอกจากนี้ยังสร้างสถิติเป็นรถ EV ที่เร็วที่สุดในงาน Goodwood Festival of Speed
Sources: motor1
