More

    Stellantis พัฒนาแบตเตอรี่ใหม่ รับพลังงานไม่ผ่านตัวแปลง ขนาดเล็กลง ประสิทธิภาพมากขึ้น

    ด้วยการรวมอินเวอร์เตอร์เข้ากับแบตเตอรี่ Stellantis เชื่อว่าจะสามารถสร้าง EV ที่มีขนาดเล็กลง มีประสิทธิภาพมากขึ้น และมีระยะทางที่ยาวขึ้น ได้ก่อนปี 2030

    โดยความร่วมมือกับศูนย์วิจัยวิทยาศาสตร์แห่งชาติฝรั่งเศส (CNRS) Stellantis และ Saft ได้สร้างสิ่งที่พวกเขาอธิบายว่าเป็นแบตเตอรี่ต้นแบบ “ปฏิวัติ” ซึ่งการออกแบบใหม่ที่รวมฟังก์ชันเครื่องชาร์จและอินเวอร์เตอร์ไว้ในแบตเตอรี่ ทำให้ระบบส่งกำลังมีประสิทธิภาพมากขึ้น เชื่อถือได้มากขึ้น และมีค่าใช้จ่ายน้อยลง

    Stellantis New Battery Design

    การออกแบบยังคงทำงานร่วมกับเซลล์เคมีลิเธียมไอออน แต่รวมฟังก์ชันเพิ่มเติมไว้ในแบตเตอรี่ด้วย ผลจากการวิจัยกว่า 4 ปี ในที่สุด Intelligent Battery Integrated System (IBIS) ก็พร้อมที่จะแสดงเทคโนโลยีนี้ให้โลกเห็นแล้ว

    Stellantis New Battery Design

    Stellantis กล่าวว่าระบบควบคุมที่ซับซ้อนของ IBIS ช่วยให้สามารถผลิตไฟฟ้ากระแสสลับที่สามารถตรงเข้าสู่มอเตอร์ไฟฟ้าโดยไม่ต้องใช้อินเวอร์เตอร์ หมายความว่าสามารถลดพื้นที่ของระบบการชาร์จในรถยนต์ไปได้ส่วนหนึ่ง ทำให้เหลือพื้นที่ในห้องโดยสารมากขึ้นสำหรับผู้โดยสาร และน้ำหนักที่ลดลง

    Stellantis New Battery Design

    ระบบ IBIS ยังสามารถใช้กับแอปพลิเคชันแบบอยู่กับที่

    กล่าวว่าระบบ IBIS ยังมีความสามารถในการลดต้นทุนของระบบส่งกำลัง EV ลดขั้นตอนการผลิตให้ง่ายขึ้น และทำให้น้ำหนักของตัวรถลดลง รถสามารถเดินทางได้ไกลขึ้นในการชาร์จหนึ่งครั้ง นอกจากนี้ เทคโนโลยีนี้อาจมีประโยชน์ในสถานีชาร์จแบตเตอรี่ และพาวเวอร์แบงค์

    Stellantis New Battery Design

    Ned Curic หัวหน้าฝ่ายวิศวกรรมและเทคโนโลยีของ Stellantis กล่าวว่า “เส้นทางสู่การใช้พลังงานไฟฟ้า ขับเคลื่อนด้วยนวัตกรรมและความเป็นเลิศด้านการวิจัยที่ใช้เทคโนโลยีล่าสุดเพื่อตอบสนองความต้องการที่แท้จริงของลูกค้ารถยนต์ไฟฟ้าของเรา ซึ่งประกอบไปด้วย ระยะทางที่ไกล ความกว้างขวาง ราคาที่สามารถจ่ายได้ และการปรับปรุงประสิทธิภาพต่างๆ เพื่อช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ด้วยการปรับปรุงประสิทธิภาพ ระบบแบตเตอรี่ที่ปฏิวัติวงการนี้อาจเป็นก้าวสำคัญในความมุ่งมั่นของ Stellantis ในการจัดหาเทคโนโลยีที่มีประโยชน์ ใช้งานง่าย และล้ำสมัยให้กับทุกคน”

    Stellantis New Battery Design

    Stellantis กล่าวว่า ทุกฝ่ายกำลังทำงานเพื่อให้มีเทคโนโลยีสำหรับการผลิตก่อนสิ้นปี 2030 เมื่อเทคโนโลยีได้รับการทดสอบแล้ว ขั้นตอนต่อไปของการเดินทางคือการสร้างรถต้นแบบที่ใช้งานได้เต็มรูปแบบซึ่งสามารถทดสอบและพัฒนาได้บนสนามทดสอบและถนนเปิด

    สามารถดูวีดีโอเพื่อพูให้เข้าใจมากขึ้นที่นี่

    Source : Carscoop

    ABOUT THE AUTHOR

    Latest Posts