พึ่งจะเปิดสเปกญี่ปุ่นไม่ทันไรสำหรับ Subaru Forester เจเนอเรชันที่ 6 ล่าสุดออสเตรเลียก็เปิดสเปกเช่นกันและบอกได้เลยว่าไม่น้อยหน้าพี่ยุ่น
Subaru Forester เจเนอเรชันที่ 6 มาในรหัส SL ด้วยหน้าตาไม่ต่างจากเจนที่ 5 มากเท่าไหร่ในร่างเอสยูวีทรงลุยขับเคลื่อน 4 ล้อ
เริ่มที่กระจังหน้าทรงห้าเหลี่ยมพร้อมตราดาวลูกไก่ขนาดใหญ่ เส้นแนวนอนลากยาวไปถึงไฟหน้า LED ทรงขอบมีปีก พร้อมไฟ Daytime แบบ LED horizontal อยู่บนโคมไฟ รับกับกันชนหน้าทรงสปอร์ต พร้อมไฟตัดหมอกหน้า LED ทรงสามเหลี่ยม ด้านข้างยังคล้ายกับเจนที่ 5 ตั้งแต่กระจกมองข้างทรงสปูน ราวหลังคาแบบบิ๊วอิน เสาอากาศครีบฉลาม พร้อมคิ้วชายล่างสีดำ
ด้านท้ายติดตั้งไฟท้าย LED สอดรับกับคิ้วป้ายกรอบป้ายทะเบียนส่วนบนแบบแนวยาว และฝาท้ายเปิด-ปิดด้วยระบบไฟฟ้า พร้อมการเปิด-ปิดฝาท้ายด้วยเท้า Hands-Free Power Rear Gate ล้ออัลลอยลายเข้มขนาด 19 นิ้ว พร้อมยางซีรีส์แก้มสูง 235/50R19 จาก Bridgestone TURANZA EL45 ขนาด 18 นิ้วพร้อมยาง 225/55R18 จาก Falken “ZIEX ZE001 A/S” รับกับซุ้มล้อทรงเหลี่ยม ตัวรถใหญ่ทั้งคันสร้างจากพื้นฐาน Subaru Global Platform ตั้งแต่
- ความยาว 4,655 มิลลิเมตร
- ความกว้าง 1,828 มิลลิเมตร
- ความสูง 1,730 มิลลิเมตร
- ฐานล้อ 2,670 มิลลิเมตร
- ระยะต่ำสุดจากพื้น 220 มิลลิเมตร
ภายในคล้ายกับ Subaru LEVORG หรือ Subaru WRX Wagon ด้วยแผงคอนโซลหน้าดีไซน์คุ้นเคยแต่โดดเด่นด้วยการออกแบบหนังสัมผัสลายนรังผึ้งฝั่งซ้ายในแผงคอนโซลหน้าพร้อมการเดินด้ายอย่างประณีต รวมถึงชุดแผงประตู พร้อมจอสัมผัสแนวตั้งขนาด 11.6 นิ้วแบบ tablet-style infotainment display พร้อมระบบนำทาง รองรับการเชื่อมต่อไร้สายทั้ง Apple CarPlay และ Android Auto
ระบบเสียงรอบคัน 10 ลำโพง จากแบรนด์คุณภาพ Harman Kardon มาตรวัดดิจิทัลสี Full LCD ขนาด 12.3 นิ้ว มีช่องเสียบ USB ทั้ง Type-A และ Type-C พวงมาลัยมัลติฟังก์ชันหุ้มหนัง 3 ก้าน ชุดแป้นเหยียบคันเร่งและเบรกทำจากอะลูมิเนียม เบรกมือไฟฟ้า พร้อม Auto Hold และที่ชาร์จมือถือไร้สาย
เบาะนั่งหุ้มกึ่งหนังแท้ปรับไฟฟ้าคู่หน้าพร้อมระบบความจำฝั่งคนขับโดยคนขับปรับได้ 8 ทิศทาง เบาะหลังสามารถพับได้เพื่อเพิ่มพื้นที่ในการขนของแบบ 40:20:40 พร้อมพื้นที่สัมภาระท้ายขนาด 838 ลิตรกรณีไม่พับเบาะและพับเบาะมีพื้นที่มากขึ้นถึง 2,107 ลิตร โดยมีวัสดุหุ้มเบาะแบบหนังกลับ Ultrasuede ผสมหนังสังเคราะห์ กับผ้ากำมะหยี่กันน้ำหก
สเปกออสเตรเลียพกขุมพลังขนาด 2.5 ลิตรในตระกูล FB25DI พร้อมฉีดน้ำมันเชื้อเพลิงตรง Direct Injection ที่มากันถึง 2 ทางเลือกด้วยใหม่ขุมพลังสูบนอน Boxer Hybrid ผสานกับมอเตอร์ไฟฟ้าและแบตเตอรี่เข้าไว้ด้วยกันจึงเป็นที่มาของขุมพลังอีกขั้นในตระกูล e-Boxer ฟูลไฮบริด (แบบ S:HEV หรือ Strong Hybrid) สร้างกำลังสูง 160 แรงม้าที่ 5,600 รอบต่อนาที แรงบิด 209 นิวตันเมตรที่ 4,000-4,400 รอบต่อนาทีในภาคเครื่องยนต์
พร้อมระบบทรานแอกเซิลที่มีมอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัว ประกอบด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าตัวแรกทำหน้าที่เป็นเจเนอเรเตอร์และมอเตอร์ตัวที่สองเป็นมอเตอร์ขับเคลื่อนแบบ AC “MC2″120 แรงม้า แรงบิด 270 นิวตันเมตร ร่วมกับแบตเตอรี่ Lithium Ion มีความจุ 1.1 kWh
เมื่อทำงานร่วมกันได้แรงม้าสูงสุด 197 แรงม้า วิ่งไกลกว่า 1,000 กิโลเมตรด้วยน้ำมัน 1 ถังสำหรับระบบ Hybrid (S:HEV หรือ Strong Hybrid-Full Hybrid) ชุดแบตเตอรี่ไฮบริดติดตั้งที่ด้านท้ายของตัวรถส่วนมอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัวโดยตัวแรกจะอยู่ที่ท้ายเครื่องยนต์อาจเป็นมอเตอร์ไฟฟ้าที่ Fly Wheel ส่วนตัวที่ 2 อยู่ในชุดเกียร์ และสามารถขับเคลื่อน 4 ล้อได้ในโหมดขับขี่ EV
จะทำงานแบบ Series Parallel Hybrid ขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้าในช่วงความเร็วต่ำด้านเครื่องยนต์จะติดเพื่อชาร์จไฟ ติดเพื่อขับเคลื่อนในความเร็วกลางถึงสูงช่วงเดินทางและมอเตอร์ไฟฟ้าสามารถทำงานเสริมร่วมกับเครื่องยนต์สร้างอัตราเร่งที่ทันใจ ด้วยการมาของขุมพลังนี้น้ำหนักรถเพิ่มจากเดิม 136 กิโลกรัม โดยน้ำหนักรถคันนี้ไม่ถึง 1,814 กิโลกรัม
ทางด้านสันดาปล้วนใช้ขุมพลังเบนซินสูบนอน BOXER ที่ใหญ่กว่าญี่ปุ่นขนาด 2.5 ลิตร ให้กำลังสูงถึง 182 แรงม้าที่ 5,800 รอบต่อนาที แรงบิด 238 นิวตันเมตรที่ 3,400-4,600 รอบต่อนาที ทั้ง 2 ความแรงจับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ LINEARTRONIC CVT 8 สปีด
มีระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ แบบสมมาตรตลอดเวลา Symmetrical all-wheel drive เสริมระบบ X-MODE ช่วยในส่งถ่ายกำลังระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ ให้ทำงานอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นทั้งโหมด SNOW/DIRT, Normal และ DEEP SNOW/MUD
พร้อมระบบกระจายแรงบิด (Active torque vectoring) ช่วยให้ผู้ขับขี่สามารถควบคุมยานพาหนะได้อย่างมั่นใจ เร้าใจขึ้นด้วยโหมดการขับขี่ SI-Drive ทั้งโหมด Intelligent และ Sport พร้อมระบบความปลอดภัย EyeSight X Safety ไม่ว่าจะเป็น
- Autonomous Emergency Steering ระบบบังคับพวงมาลัยฉุกเฉินอัตโนมัติ ช่วยหักหลบจากรถหรือวัตถุที่อยู่ด้านหน้า เพื่อหลีกเลี่ยงการชน (ระบบทำงานที่ความเร็วไม่เกิน 80 กิโลเมตรต่อชั่วโมง)
- Adaptive Cruise Control (ACC) with Lane Centering Function ไปและหยุดตามคันหน้าอัตโนมัติ พร้อมระบบควบคุมรถให้อยู่กลางเลน ช่วยรักษาทิศทางของรถ
- Lane Departure Warning include Lane Departure Prevention เตือนเมื่อรถออกนอกเลนพร้อมระบบบังคับรถกลับเข้าเลน หากระบบตรวจจับว่ารถกำลังคร่อมเส้นแบ่งเลน จะดึงพวงมาลัยนำรถกลับเข้ากลางเลนโดยอัตโนมัติ (ระบบทำงานที่ความเร็วตั้งแต่ 60 กิโลเมตรต่อชั่วโมงขึ้นไป)
- Pre-Collision Braking ช่วยเบรกอัตโนมัติ ทำงานร่วมกับ Adaptive Cruise Control พัฒนาให้ล้ำหน้าขึ้นอีกขั้น ช่วยปกป้องความปลอดภัยได้ในสถานการณ์การขับขี่
- Subaru Rear Vehicle Detection (SRVD) ตรวจจับวัตถุด้านหลัง เรดาร์เซนเซอร์จะตรวจจับวัตถุที่อยู่ด้านหลังรถ และส่งสัญญาณเตือนผู้ขับหากจะเปลี่ยนเลนบนถนนหรือถอยหลังในที่จอดรถ
- High Beam Assist (HBA) ไฟหน้าอัจฉริยะปรับสูง-ต่ำอัตโนมัติ เป็นฟังก์ชันใหม่ที่ให้มาเพื่อเพิ่มทัศนวิสัยที่ปลอดภัย โดยเฉพาะเวลากลางคืน
ถุงลมนิรภัย 9 จุดรอบคัน กล้องมองภาพรอบคัน Surround-view camera เตือนการเมื่อยล้าขณะขับขี่ Driver monitoring system
Subaru Forester เจนใหม่เตรียมขายออสเตรเลียปลายปีนี้มี 6 รุ่นย่อยทั้ง Hybrid AWD 3 รุ่นทั้งรุ่นปกติ, รุ่น Sport และรุ่น Touring ส่วนรุ่นเบนซิน AWD 3 รุ่นทั้งรุ่นปกติ, รุ่น Premium และรุ่น Sport
ทางด้านเมืองไทยขายพร้อมกับ Subaru CROSSTREK e-Boxer ภายในปีนี้นอกจากนี้ยังเตรียมนำเข้ารุ่นปัจจุบันอีก 3 รุ่นทั้ง Subaru BRZ, WRX และ Outback มาขาย
ตามกลยุทธ์การเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายที่ชัดเจนเมื่อเปลี่ยนถ่าย Business Model จากที่จำหน่ายรถ CKD เป็นหลักไปสู่การจำหน่ายรถ CBU หรือรถนำเข้าเป็นโอกาสที่ได้ส่งต่อคุณภาพต้นฉบับจากประเทศแม่ (Home of Origin) สู่ผู้ใช้รถคนไทยและกลยุทธ์เรื่องราคาที่มั่นใจว่าระดับราคาดีที่สุดในตลาดรถนำเข้าจากญี่ปุ่นของทาง ทีซี ซูบารุ (ประเทศไทย) ผู้จัดจำหน่ายอย่างเป็นทางการในไทย
ที่มา CarExpert