ในตอนนี้ Subaru กำลังง่วนอยู่กับการอัปเดต ‘EyeSight’ ระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ที่มีชื่อเสียงของค่าย 7 ดาวเหนือ
ระบบใหม่ที่ถูกอัปเดตจะเริ่มใช้งานตั้งแต่ปี 2025 เป็นต้นไป และเตรียมที่จะใช้ AI ในการปรับปรุงการจดจำของคอมพิวเตอร์ โดยมันจะเป็นการต่อยอดจากระบบกล้องสเตอริโอที่มีอยู่ของทางค่าย และจะถูกสร้างขึ้นที่ Subaru Lab ศูนย์พัฒนาปัญญาประดิษฐ์ ในย่านชิบูย่าของโตเกียว
ในขณะที่มีการพูดเกี่ยวกับระบบ EyeSight ที่ได้รับการปรับปรุงเมื่อเร็ว ๆ นี้ ผู้อำนวยการ Subaru Lab และผู้จัดการโปรแกรมอาวุโส Eiji Shibata กล่าวว่า ทางค่ายผู้ผลิตรถยนต์ไม่ได้มุ่งเน้นไปที่การขับขี่แบบอัตโนมัติ แต่ได้เน้นไปที่การปรับปรุงด้านความปลอดภัยแทน
“แนวทางของ Subaru คือ การหาวิธีลดจำนวนผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุจากการจราจรให้เหลือศูนย์โดยเร็วที่สุด แทนที่จะเป็นการมุ่งเน้นไปที่การขับขี่แบบอัตโนมัติ” Shibata ระบุ
Toru Saito รองผู้อำนวยการของ Subaru Lab ยังได้กล่าวเสริมว่า ทางค่ายผู้ผลิตรถยนต์ยังไม่มีแผนที่จะนำเซนเซอร์ Lidar มาใช้ในระบบขับขี่อัตโนมัติในตอนนี้
ตามคำกล่าวของ Saito การใช้กล้องร่วมกับ AI เป็นวิธีแก้ปัญหาที่ดีกว่า และได้ภาพ 3 มิติที่ดีขึ้น เนื่องจากกล้องทั้ง 2 ตัว จะสามารถจำแนกวัตถุจากมุมต่าง ๆ ได้
“การใช้กล้องสเตอริโอมีประโยชน์อย่างมากในการเชื่อมต่อกับ AI” Saito กล่าวกับสื่อ Auto News “ค่ายผู้ผลิตรถยนต์รายอื่น ๆ ก็ดำเนินการตามแนวทางที่หลากหลายแตกต่างกันออกไป เช่น ใช้เรดาร์ กล้องมองข้างเดียว และ Lidar แต่กล้องสเตอริโอสามารถที่จะทำสิ่งที่เทคโนโลยีของทั้ง 3 อย่างข้างต้นนี้ทำได้พร้อมกัน”
Subaru ยังได้วางแผนที่จะเริ่มใช้คุณสมบัติช่วยในการจอดรถอัตโนมัติขั้นสูงใหม่ ในระบบ EyeSight เจนเนอเรชันถัดไป โดย Shibata ให้ข้อสังเกตว่า อุบัติเหตุในที่จอดรถนั้นคิดเป็น 1 ใน 3 ของอุบัติเหตุบนถนนทั้งหมด
รายละเอียดเกี่ยวกับแผนการพัฒนา EyeSight ของ Subaru จะตามมาเพิ่มเติมในไม่ช้า หลังจากที่ทางบริษัทเปิดเผยว่าได้ขายรถที่ติดตั้งระบบปัจจุบันไปแล้วกว่า 5 ล้าน คัน โดยระบบนี้เปิดตัวครั้งแรกในเดือนพฤษภาคม 2008 และ ณ ปัจจุบันมีการติดตั้งระบบนี้ในรถยนต์ Subaru ถึง 91 เปอร์เซ็นต์ ของรถยนต์ Subaru ทุกรุ่นที่ถูกจำหน่ายทั่วโลก
อ้างอิง : carscoops.com