More

    Toyota เผยยอดขายปี 64 อยู่ที่ 239,723 คัน พร้อมลุยตลาดอีวีในปีเสือ

    Toyota แถลงยอดจำหน่ายรถยนต์ Toyota ทุกรุ่นในปี 64 ด้วยตัวเลข 239,723 คัน ตั้งเป้าปี 65 อยู่ที่ 284,000 คัน และพร้อมเปิดตัวรถไฟฟ้า

    ถึงแม้ในปี 2564 ที่ผ่านมา Toyota เจ้าพ่อตลาดรถยนต์รวมอันดับ 1 ในเมืองไทย โดนผลกระทบเหมือนกันทุกค่ายทั้งเรื่อง โควิด-19 และการขาดแคลนชิ้นส่วนการผลิต เช่น ปัญหาชิปขาดตลาดมีส่วนทำให้ยอดขายลดลงจากปี่ที่แล้ว 1.9% อยู่ที่ 239,723 คัน ส่วนแบ่งการตลาด 31.6% แบ่งเป็นดังนี้

    – รถยนต์นั่ง                                   62,403 คัน ลดลง 8.4%       ส่วนแบ่งการตลาด 24.8%

    – รถเพื่อการพาณิชย์                         177,320 คัน เพิ่มขึ้น 0.7%   ส่วนแบ่งการตลาด 35.0%

    – รถกระบะ 1 ตัน (รวมรถ PPV)            151,501 คัน  เพิ่มขึ้น 1.2%  ส่วนแบ่งการตลาด 38.5%

    – รถกระบะ 1 ตัน (ไม่รวมรถPPV)         128,639 คัน ลดลง 1.0%     ส่วนแบ่งการตลาด  37.7%

    Toyota

     

    โดย มร. โนริอากิ ยามาชิตะ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด เผยว่า สำหรับยอดขายในปี 2564 นั้น เรายังคงครองส่วนแบ่งทางการตลาดเป็นอันดับ 1 ของยอดขายรถยนต์ทั้งหมด ซึ่งหากว่ากันตามตรง ถือว่าต่ำกว่าที่เราคาดการณ์ไว้ แต่ถ้าเราดูยอดขายของปีที่แล้วจะเห็นได้ว่าสถานการณ์ของเราเริ่มฟื้นตัวดีขึ้นตั้งแต่ไตรมาสที่ 2 เป็นต้นมา ถ้าลองดูที่ยอดขายของโตโยต้าในระหว่างช่วงไตรมาสที่ 2 ถึงไตรมาสที่ 4 จะเห็นได้ว่าส่วนแบ่งทางการตลาดของเราอยู่ที่ 32.5% ซึ่งเป็นระดับที่ไกล้เคียงกับในปี 2562 หรือช่วงก่อนที่โรคโควิด-19 จะระบาด

    Toyotaโดย Toyota Hilux REVO  มีส่วนแบ่งทางการตลาดอยู่ที่ 39.1% ซึ่งสูงกว่าของปี 2562 ในขณะที่ ATIV และ Yaris สามารถครองอันดับ 1 ในตลาดรถ Eco Car ส่วนตลาดรถยนต์เอสยูวี มียอดขายป็นอันดับ 1 ถึง 2 ปีซ้อน ด้วยยอดขายที่สูงเป็นประวัติการณ์ของ Corolla Cross ส่วน Fortuner ก็มียอดขายเป็นอันดับ 1 ในตลาดรถกระบะดัดแปลงต่อเนื่องมาเป็นเวลา 10 ปี ในขณะเดียวกัน CAMRY ก็ครองอันดับ 1 ในตลาดรถยนต์ขนาดกลาง และรถตู้ HIACE ก็ครองอันดับ 1 ตลอดกาลเช่นกันสำหรับในตลาดรถตู้ ซึ่งที่ผ่านมา Toyota พัฒนาผลิตภัณฑ์ให้ดีต่อเนื่อง ตลอดจนการดำเนินกิจกรรมทางการตลาดที่สอดคล้องกับวิถีชีวิตแบบใหม่ เช่น การขายผ่านช่องทางออนไลน์

    Toyota

    และในปี 2565 มร. ยามาชิตะ กล่าวเสริมว่า สำหรับเราตั้งเป้ายอดขายอยู่ที่ 284,000 คัน หรือเพิ่มขึ้น 18.5% โดยครองส่วนแบ่งทางการตลาดอยู่ที่ 33% แบ่งเป็น

    – รถยนต์นั่ง                     81,000 คัน    เพิ่มขึ้น 29.8%         ส่วนแบ่งการตลาด 27.7%

    – รถเพื่อการพาณิชย์         203,000 คัน    เพิ่มขึ้น 14.5%          ส่วนแบ่งการตลาด 35.8%

    – รถกระบะ 1 ตัน             175,932 คัน   เพิ่มขึ้น 16.1%       ส่วนแบ่งการตลาด 40.6% (รวมรถ PPV)

    – รถกระบะ 1 ตัน            149,000 คัน   เพิ่มขึ้น + 15.8%     ส่วนแบ่งการตลาด 39.8% (ไม่รวมรถ PPV)

    ToyotaToyota

    ในด้านการส่งออกรถยนต์และการผลิตของโตโยต้าในปี 2564 ได้ส่งออกรถยนต์สำเร็จรูปไปราว 292,000 คัน หรือเพิ่มขึ้น 35.5% จากปี 2563 โดยยอดรวมการผลิตรถยนต์สำหรับการขายภายในประเทศและการส่งออกในปี 2564 มีจำนวนทั้งสิ้น 514,000 คัน หรือเพิ่มขึ้น 16.1% จากปี 2563″และคาดว่าความต้องการของตลาดต่างประเทศจะเพิ่มสูงขึ้น โดยเราตั้งเป้าปริมาณการส่งออกทั้งหมดของปี 2565 อยู่ที่ 371,000 คัน หรือเพิ่มขึ้น 27.2% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว และเราตั้งเป้าการผลิตรถยนต์ทั้งหมดของปี 2565 อยู่ที่ ราว 647,000 คัน หรือเพิ่มขึ้น 25.9% จากปีที่ผ่านมา

    Toyota

    มร. ยามาชิตะ ยังกล่าวเพิ่มเติมว่า เมื่อวันที่ 14 ธันวาคม 2564 คุณอากิโอะ โตโยดะ กรรมการผู้จัดการใหญ่ โตโยต้า มอเตอร์ คอร์ปอเรชั่น ได้ประกาศไว้ว่า Toyota มีกลยุทธ์มุ่งสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอน โดยเฉพาะอย่างยิ่งคือกลยุทธ์ด้านยานยนต์ไฟฟ้าพลังงานแบตเตอรี่ ท่านได้ประกาศไว้ว่าโตโยต้าจะผลิตรถยนต์ไฟฟ้าพลังงานแบตเตอรี่ครบทั้ง 30 รุ่น ภายในปี 2030 รวมไปถึงรถซีรีส์ bZ จำนวน 5 โมเดล มุ่งมั่นที่จะขายรถยนต์ไฟฟ้าพลังงานแบตเตอรี่ให้ได้ทั้งสิ้น 3.5 ล้านคัน ทั้งนี้ ได้ทุ่มเงินลงทุน 1.2 ล้านล้านบาทเพื่อพัฒนารถยนต์ไฟฟ้าพลังงานแบตเตอรี่ โดยที่เงิน 0.6 ล้านล้านบาทนั้นเป็นการลงทุนด้านแบตเตอรี่ และยังลงทุนอีก 1.2 ล้านล้านบาท สำหรับรถยนต์ไฟฟ้าแบบไฮบริด รถยนต์ไฟฟ้าแบบปลั๊กอินไฮบริด และรถยนต์ไฟฟ้าแบบเซลล์เชื้อเพลิง ภายในปี 2030”

    Toyota

    โดยเรามีแผนที่จะทำการแนะนำ Toyota bZ4X ซึ่งถือเป็นรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นแรกของซีรีส์ bZ ออกสู่ตลาดภายในปีนี้ โดยเป็นรุ่นแรกของค่ายสามห่วงและเป็นรุ่นที่ 3 ของกลุ่ม Toyota หลังจากแนะนำ LEXUS UX300e ซึ่งเป็นรถยนต์ไฟฟ้าพลังงานแบตเตอรี่ และ LEXUS NX450h+  ซึ่งเป็นรถยนต์ไฟฟ้าแบบปลั๊กอินไฮบริด พร้อมส่งเสริมให้มีการใช้ชิ้นส่วนที่ผลิตในประเทศให้มากยิ่งขึ้น เพื่อผลักดันให้ประเทศไทยเป็นฐานการผลิตหลักสำหรับการประกอบรถยนต์ไฟฟ้าอีกหลากหลายรุ่นต่อไปในอนาคต

    ToyotaToyota

    ด้านทิศทางการดำเนินธุรกิจในประเทศไทยของ Toyota มร.ยามาชิตะ กล่าวถึงทิศทางการดำเนินธุรกิจว่า โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย ดำเนินธุรกิจในประเทศไทยมาครบ 60 ปี และเรากำลังเตรียมพร้อมก้าวเข้าสู่อนาคตที่สดใสยิ่งขึ้น เราขอให้คำมั่นว่าจะมอบความสุขให้กับประชาชนชาวไทยและ ‘เติบโตเคียงคู่ไปกับสังคมไทย’ โดยเราได้ออกแบบโลโก้ฉลองครบรอบ 60 ปีที่มาพร้อมกับแท็กไลน์ ‘Move Your World’ หรือในภาษาไทยคือ ‘ร่วมขับเคลื่อนอนาคต’ และเราจะนำเสนอยานยนต์พลังงานไฟฟ้าเพื่อมุ่งสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอน ตลอดจนสร้างสรรค์เทคโนโลยีการเชื่อมต่อเพื่อให้ลูกค้าได้รับการบริการที่ยอดเยี่ยมสมบูรณ์แบบ”

     

     

     

     

     

     

    ABOUT THE AUTHOR

    Latest Posts