Toyota ญี่ปุ่นเปิดตัว Toyota Prius MY2025 แถมยังเปิดตัวรุ่นพิเศษ Toyota Prius Night Shade นำรุ่นเริ่มต้น G PHEV มาตกแต่งเสริมหล่อขายคู่กัน
Toyota Prius Night Shade ตกแต่งเข้มด้วยโทนสีดำทั้งคันในร่างลิฟท์แบ็ก 5 ประตู เจเนอเรชันที่ 5 รหัส XW60
กระจังหน้าแบบ Hammerhead กริตเตอร์ขอบใหญ่ทึบสีดำเงามีปีกซ้ายขวาดีไซน์เอกลักษณ์สีเดียวกับตัวรถพร้อมตราโลโก้สามห่วงหล่อด้วยไฟหน้า LED พร้อมไฟ DRL แบบ LED ในโคมเดียวกันแนวใหม่รูปตัว C กลมกลืนกับชุดฝากระโปรงหน้าชุดกันชนหน้าออกแบบลงตัวคิ้วเสริมกันชนหน้าสีดำเงา ด้านข้างดีไซน์ตัวรถดูเพรียวลงขึ้นหลังคารถลาดลงขึ้นกว่าเดิม เสา B สีดำเงา ที่เปิดประตูดึงก้านสีดำ กระจกมองข้างพร้อมไฟเลี้ยวสีดำ แถมที่เปิดประตูในส่วนผู้โดยสารตอนหลังออกแบบให้ที่จับติดกระจกเสา C คิ้วขอบล้อสีดำ
ด้านหลังมาในแบบไฟท้าย LED พาดเต็ม รูปตัว A โดยไส้ในของชุดไฟท้ายออกแบบมาเป็นแนวเรียวยาว พร้อมตราชื่อรุ่น Prius ติดเว้นช่องไฟดูสวยงามขึ้น รับกับชุดกันชนท้ายตกแต่งกรอบป้ายทะเบียนสีดำเงาตัวใหญ่ ล้ออัลลอยขนาดใหญ่ขึ้นเป็น 19 นิ้ว สีดำ พร้อมยาง Bridgestone ECOPIA EP510 195/50R19 และตราสัญลักษณ์ โลโก้สามห่วง ชื่อรุ่นและตรา PHEV สีดำ ใช้พื้นฐาน TNGA GA-C หรือ Toyota New Global Architecture เจเนอเรชันที่สอง โดยตัวรถใหญ่ขึ้นตั้งแต่
- ความยาว 4,600 มิลลิเมตร
- ความกว้าง 1,780 มิลลิเมตร
- ความสูง 1,430 มิลลิเมตร
- ฐานล้อ 2,750 มิลลิเมตร
- ความจุถังน้ำมัน 40 ลิตร
ภายในปรับเล็กน้อยด้วยโทนภายในสีดำเข้ม คอนโซลหน้าตกแต่งสีดำเข้มมาพร้อมเบาะนั่งลวดลายพิเศษแบบสปอร์ตหุ้มด้วยวัสดุผ้าคุณภาพสูงโดยเบาะนั่งฝั่งคนขับปรับไฟฟ้า 6 ทิศทางพร้อมจอสัมผัส 8 นิ้ว แผงมาตรวัดดิจิทัล TFT LCD ขนาด 7 นิ้วในชุดคอนโซลหน้าพวงมาลัยมัลติฟังก์ชันสามก้านยกมาจากรุ่น bZ4X พร้อมเบาะนั่งดีไซน์ใหม่ทรงสปอร์ตหุ้มผ้าสีดำ เบาะนั่งคนขับปรับด้วยไฟฟ้า 8 ทิศทาง เบาะหลังพับได้แบบ 60:40 ปรับเอนได้หนึ่งระดับหุ้มวัสดุหนังสังเคราะห์ ติดตั้งไฟสร้างบรรยากาศ Ambient Light มาให้ หลังคาพาโนรามิกคู่แบบตายตัว เครื่องปรับอากาศอัตโนมัติ Dual Zone
ทางด้าน รุ่นปกติ MY2025 ปรับปรุงเทคโนโลยีการสื่อสารแบบไร้สายเพื่ออำนวยความสะดวกในการเดินทางนั่นคือระบบเก็บค่าผ่านทางอิเล็กทรอนิกส์ ETC 2.0 เป็นออปชันมาตรฐานในรุ่น G กับ Z ยกเว้นรุ่น X ออปชันใหม่กระจกมองหลังดิจิตอลและจอสัมผัสขนาด 12.3 นิ้วรองรับระบบนำทางในจอ มีในรุ่น Z และ X
ขุมพลังรุ่น Plug In Hybrid PHEV ยังคงเดิมด้วยเบนซินขนาด 2.0 Dynamic Force Hybrid ให้กำลังสูงสด 151 แรงม้าที่ 6,000 รอบต่อนาที แรงบิด 188 นิวตันเมตรที่ 4,400- 5,200 รอบต่อนาที จับคู่กับมอเตอร์ไฟฟ้าด้านหน้า 163 แรงม้า แรงบิด 208 นิวตันเมตร พร้อมความจุแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนขนาดใหญ่ขึ้น 11.63 kWh ทำงานร่วมกันให้พลังมากสุด 223 แรงม้า คู่กับเกียร์อัตโนมัติ E-CVT วิ่งไกลสุดในโหมดไฟฟ้า 87 กิโลเมตร ประหยัดน้ำมัน 26.0 กิโลเมตรต่อลิตร
รุ่นนี้ทาง Toyota เคลมว่าถ้าเติมน้ำมันเต็มถังและชาร์จไฟเต็มจะทำให้วิ่งไกลสุดรวม 1,250 กม.แถมยังมี Vehicle-2-Load (V2L) เปลี่ยนรถยนต์ให้สามารถเป็นแหล่งจ่ายไฟให้กับอุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้าได้ 1,500 W มีฟังก์ชั่น “regenerative boost” หรือ One Pedal ซึ่งมีประโยชน์ในการขับขี่ ไม่ว่าจะเบรกหรือชะลอความเร็วและสามารถชาร์จพลังงานกลับในสภาพถนนการขับขี่ คู่กับเกียร์อัตโนมัติ E-CVT
พร้อมช่วงล่างอิสระ 4 ล้อทั้งแมคเฟอร์สันสตรัทสำหรับด้านหน้าและด้านหลังแบบดับเบิลวิชโบนทำให้มีการตอบสนองที่ดีขึ้นเมื่อเข้าโค้งและมีเสถียรภาพที่ดีขึ้นสำหรับการขับขี่ในแนวตรงและความปลอดภัย Toyota Safety Sense และ Toyota Teammate รวมถึง Advanced Park
Toyota Prius Night Shade G ขับเคลื่อนล้อหน้า เปิดขายญี่ปุ่นในราคา 3,947,300 Yen หรือราว 899,000 บาท ไม่รวมภาษีนำเข้าของไทย แต่ถ้านำเข้าไทยราคารวมภาษีนำเข้าจะอยู่ที่ 1,689,000 บาท
ที่มา Carwatch