More

    Volkswagen คืนชีพไมโครบัสด้วย ID. Buzz ไฟฟ้า

    เป็นเวลากว่า 30 ปีทีเดียวที่เราได้รอคอยการกลับมาของไมโครบัสของ Volkswagen และในวันนี้พวกเขาเปิดตัวแล้วกับ ID. Buzz และ ID. Buzz Cargo ที่ขับเคลื่อนด้วยพลังไฟฟ้า

    โมเดลฐานล้อมาตรฐานได้ถูกเปิดตัวออกมาและจะถูกส่งขายไปยังยุโรปในช่วงไตรมาส 3 ในปีนี้ โดยจะเป็นเวอร์ชั่น 5 ที่นั่ง และใช้แบตเตอรี่ขนาด 82 kWh

    สำหรับลูกค้าฝั่งสหรัฐอเมริกาจะต้องรอไปจนถึงปี 2024 ซึ่ง ID.Buzz จะถูกนำมาขายที่นี่ในเวอร์ชั่นฐานล้อยาวเท่านั้น และมีคิวเปิดตัวในปีถัดไป

    ในเบื้องต้น ID. Buzz จะถูกจำหน่ายในยุโรปเฉพาะรุ่น 5 ที่นั่ง ซึ่ง VW กล่าวว่ารุ่น 6 ที่นั่ง ฐานล้อมาตรฐาน จะมีกำหนดวางจำหน่ายในภายหลัง ในขณะที่รุ่นฐานล้อยาวจะตามมาในปีถัดไปและจะมีถึง 7 ที่นั่ง ด้วยผัง 2-3-2 ส่วนรุ่น Cargo จะมีให้เลือกทั้งแบบที่นั่งคนขับและผู้โดยสารรวมเป็นแถวยาวที่นั่งเดียว และแบบแยก 2 ที่นั่ง

    VW ID. Buzz

    ทั้ง ID. Buzz และ ID. Buzz Cargo มีขนาดกว้าง 1,985 mm ยาว 4,712mm หรือสั้นกว่า VW T6.1 อยู่ 192 mm โดยที่ ID. Buzz และ T6.1 ใช้ฐานล้อยาวเท่ากันที่ 2,988 mm ส่วนความสูงนั้น ID. Buzz มีความสูงอยู่ที่ 1,937 mm ซึ่งเตี้ยกว่ารุ่น Cargo อยู่ 1 mm เนื่องจากชาสซีส์ที่แตกต่างกัน

    VW ยังไม่มีการเปิดเผยถึงระยะทางวิ่งต่อการชาร์จของโมเดล ID. Buzz ออกมา พวกเขาให้ข้อมูลเพียงแค่ว่ามันจะใช้แบตเตอรี่ 82 kWh สำหรับรุ่นที่จะเปิดตัวในยุโรป โดยที่มีกำลังจากมอเตอร์ไฟฟ้า 201 hp และแรงบิด 310 Nm ต่อเข้ากับเพลาหลัง ทำความเร็วสูงสุดได้ 145 km/h ส่วนในรุ่นที่ให้ระยะทางวิ่งไกลขึ้น VW ก็ยังไม่มีการเปิดเผยข้อมูลออกมาเช่นกัน เรารู้แค่เพียงว่าพวกเขาจะนำมาขายในปีถัดไป

    โมเดลยุโรปนั้นจะสามารถชาร์จไฟได้แบบ 2 ทิศทาง โดยการชาร์จแบบธรรมดาจะใช้ไฟฟ้า AC 11 kW หรือหากต้องการชาร์จเร็วก็จะใช้ไฟฟ้า DC 170 kW ซึ่งจะช่วยให้ชาร์จไฟจาก 5% เป็น 80% ได้ภายใน 30 นาที

    โมเดลที่จะขายนี้ VW จะใช้ระบบ “Plug & Charge” เพื่อกำจัดความยุ่งยากในการชำระเงินหรือความต้องการในการพกบัตรเครดิต การเรียกเก็บเงินจะเป็นไปตามสัญญา “We Charge” กับ VW ซึ่งจะใช้เวลาเพียงไม่กี่วินาที และมีผู้ให้บริการหลายรายได้ทำการลงทะเบียนเรียบร้อยแล้ว

    VW ID. Buzz

    ในด้านรูปลักษณ์ภายนอก เราจะเห็นตรา VW ขนาดใหญ่อยู่ทั้งด้านหน้าและหลังรถ นอกจากนั้นเราจะเห็นจุดเด่นอีกอย่างคือกระจกรถขนาดใหญ่รอบคัน ซึ่งมันทำให้ผู้โดยสารภายในรู้สึกโล่งโปร่งสบาย

    ตัวรถจะมาในสีทูโทน ด้านบนนั้นจะเป็นสีขาว Candy White ส่วนด้านล่างจะมีให้เลือกทั้งหมด 4 สี คือ Lime Yellow, Starlight Blue, Energetic Orange, และ Bay Leaf Green

    สเป็คที่สูงกว่าของรุ่น Passenger จะได้ล้ออัลลอยขอบ 18-21 นิ้ว ส่วนรุ่นพื้นฐานของ Passenger และ Cargo จะเป็นล้อกระทะขอบ 18 นิ้ว

    ในส่วนของภายในนั้นก็ดูกว้างขวางอย่างที่ VW อยากให้มันเป็น มันมีช่องเก็บของมากมาย อีกทั้งคอนโซลกลางที่อยู่ระหว่างเบาะคู่หน้านั้นยังสามารถขยับและถอดออกได้อีกด้วย

    คอนเซ็ปภายในของ ID. Buzz มุ่งไปในทิศทางรักษ์โลก ชุดประดับด้วยหนังถูกเปลี่ยนเป็นสารสังเคราะห์ และมีการใช้วัสดุรีไซเคิลเข้ามาร่วมด้วย พวงมาลัยถูกหุ้มด้วยโพลียูรีเทนที่ให้ความรู้สึกเหมือนหนัง ในขณะที่วัสดุที่ใช้หุ้มเบาะ แผ่นปูพื้น และแผ่นบุหลังคา ทำมาจากพลาสติครีไซเคิลที่เก็บมาจากทะเล 10% และอีก 90% มาจากขวด PET

    ค็อกพิทนั้นประกอบด้วยจอดิจิตอล 10 นิ้ว จับคู่กับระบบอินโฟเทนเมนต์ 10 นิ้ว ที่สามารถแทนที่ด้วยตัวเลือก 12 นิ้ว ที่น่ายินดีคือ พวกเขาให้ระบบชาร์จไฟแบบไร้สาย (พร้อมด้วยระบบเชื่อมต่อแอปไร้สาย) มาเป็นอุปกรณ์มาตรฐาน และมีการให้พอร์ต USB-C มาอีกหลายช่อง

    ด้านหลังนั้นจะเป็นประตูเลื่อน ส่วนเบาะนั่งนั้นสามารถปรับพับแบบ 40:60 ได้ และเมื่อพับเบาะหลังลงแล้วจะมีพื้นที่ความจุสัมภาระถึง ในขณะที่รุ่นสูงสุดนั้นเบาะนั่งด้านหน้าจะให้ระบบปรับเบาะไฟฟ้าที่จดจำตำแหน่งได้พร้อมด้วยฟังก์ชั่นการนวด

    ฝั่งยุโรปนั้นจะเริ่มเปิดจองในเดือนพฤษภาคม 2022 และจะเปิดตัวในไตรมาสที่ 3 ในขณะที่ฝั่งอเมริกาเหนือนั้นจะเปิดตัวในปีหน้าซึ่งยังไม่มีการระบุช่วงเวลาที่แน่นอน และจะออกวางจำหน่ายในปี 2024

    อ้างอิง : carscoops.com , cnbc.com

    ABOUT THE AUTHOR

    Latest Posts