More

    รถแข่ง F1 จะไปไหนต่อหลังจบฤดูกาล?

    เชื่อว่านี่เป็นสิ่งที่หลายคนอยากรู้ ในการแข่งขัน Formula 1 นักแข่งต้องต่อสู้แย่งชิงอันดับกันอย่างหนักหน่วง หลายครั้งจึงมักเกิดการชนจนนำไปสู่การที่ต้องผลิตชิ้นส่วนสำรองหลายๆ ชิ้น หนึ่งในนั้นคือชาสซีส์ที่บางทีมอาจมีมากถึง 7 ชาสซีส์ นั่นแปลว่าพวกเขาอาจมีรถได้มากถึง 7 คัน/ปี ซึ่งทำให้พวกเขาต้องหาพื้นที่จัดเก็บรถที่เป็นความทรงจำของพวกเขา โชคยังดีที่มีตัวเลือกหลายทางทีเดียวสำหรับรถเก่าเหล่านี้

    พิพิธภัณฑ์

    เมื่อฤดูกาลจบลง ทีมที่ไม่ใช่ทีมผู้ผลิตอย่าง Haas, Alfa Romeo, Alpha Tauri, Williams, Aston Martin, และ McLaren จะต้องคืนเครื่องยนต์, ชุดเกียร์, และชิ้นส่วนอื่นๆ ที่พวกเขาเช่ามาจากค่ายผู้ผลิต นั่นทำให้ทีมเหล่านี้เหลือแต่ชาสซีส์เปลือยเปล่าซึ่งทำให้มันมักจะถูกนำไปจัดแสดงในพิพิธภัณฑ์ หรืออย่าง McLaren พวกเขาจัดสรรพื้นที่ใน McLaren Technology Center โรงงานออกแบบและผลิตของพวกเขาให้กลายเป็นพิพิธภัณฑ์ขนาดย่อม

    F1 Car at McLaren Technology Center

    นอกจากนั้น McLaren ยังมีโกดังเก็บรถพิเศษชื่อว่า Unit 2 ซึ่งในนั้นมีรถแข่งที่ปลดประจำการแล้วของพวกเขาอยู่ราวๆ 75 คัน รวมถึงรถต้นแบบที่ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ Lamborghini ที่ Ayrton Senna ได้ขับทดสอบ

    ในปี 2012 Sauber ได้ทำการจัดแสดงรถแข่ง BMW-Sauber F1.08 ที่ถูกผ่าครึ่งสมมาตร เผยให้เห็นถึงภายในที่เต็มไปด้วยชิ้นส่วนอัดแน่นในบอดี้

    นอกจากนั้นยังมีรถเก่าบางส่วนที่ถูกนำไปจัดแสดง หรือถูกยืมไปใช้ในการประชาสัมพันธ์ของสปอนเซอร์

    เดโมรัน

    เป็นสิ่งที่หลายๆ ทีมทำกันให้แฟนๆ เห็นเป็นประจำ พวกเขามักจะจับรถเก่ามาเปลี่ยนสีให้เป็นรถปัจจุบัน และติดตั้งเครื่องยนต์ V8 เสียงสนั่นลั่นทุ่งที่แฟนๆ ชื่นชอบ แล้วนำไปวิ่งโชว์ตัวตามสถานที่ต่างๆ เป็นการประชาสัมพันธ์ไปในตัว เช่น ก่อนการแข่งขันที่ซาอุดิอารเบียครั้งแรก Red Bull นำรถ 2012 RB8 ไปวิ่งโชว์ตัวที่ถนนในเจดดาห์

    RB8 at Jeddah Street

    ของขวัญสำหรับนักแข่ง

    เนื่องด้วยความสัมพันธ์ที่ดีและความสำเร็จที่มีร่วมกันมา บางทีมจึงได้มอบรถคันสำคัญของพวกเขาให้กับนักแข่งที่ร่วมสร้างความสำเร็จกันมา เช่น Benetton ได้มอบรถปี 1994 และ 1995 ให้กับ Michael Schumacher ผู้ที่ขับมันคว้าแชมป์โลกมาใน 2 ปีนั้น โดยในตอนนี้รถทั้ง 2 คันนั้นถูกจัดแสดงห่างไปเพียงไม่กี่ไมล์จากบ้านเกิดของเขา

    สำหรับ Fernando Alonso เลือกที่จะให้รถ Renault ปี 2005 และ 2006 ที่เขาใช้คว้าแชมป์โลกมา ไปจัดแสดงอยู่ในพิพิธภัณฑ์ของเขาเองในสเปน ในขณะที่ Charles Leclerc พูดติดตลกว่า รถปี 2019 ที่เขาได้รับมาจาก Ferrari นั้นใหญ่เกินไปสำหรับห้องนั่งเล่นของเขา เขาจึงได้บริจาครถคันนั้นให้กับพิพิธภัณฑ์ไป

    Charles Leclerc's SF90

    ของสะสมส่วนตัว

    ถ้าหากคุณเป็นคนที่มีเงินเหลือหลักร้อยล้านและมีความหลงใหลอย่างแรงกล้าในรถแข่ง F1 คุณอาจจะสนใจประมูลหรือซื้อมันมาในครอบครองเองเสียเลย อย่างที่เกิดขึ้นในปี 2013 เมื่อรถ Mercedes ปี 1954 ของ Juan Manuel Fangio ถูกซื้อไปในราคา 19.3 ล้านปอนด์ และนั่นทำให้มันกลายเป็นรถแข่ง F1 ที่แพงที่สุดที่เคยถูกประมูลมา

    นอกจากนั้นนักแข่ง F1 เองก็ยังอยากได้รถแข่งระดับตำนานไว้ครอบครอง อย่างที่ Sebastian Vettel ได้ซื้อรถ Williams FW14B ซึ่งเป็นคันที่ Nigel Mansell ใช้คว้าแชมป์โลกในปี 1992

    Nigel Mansell's 1992 Car

    ทดสอบ

    รถแข่งคันเก่านั้นสามารถนำไปใช้ในการทดสอบสำหรับนักแข่งรุ่นใหม่หรือการทดสอบยางปิเรลลี และเพื่อไม่ให้มีการได้เปรียบเสียเปรียบเกิดขึ้น ทางทีมจำเป็นจะต้องใช้รถแข่งที่ปลดประจำการไปแล้วไม่ต่ำกว่า 2 ปี

    Mercedes F1 Mule Car

    การแข่งขันรถคลาสสิค

    ช่วงเวลาของพวกมันใน F1 นั้นอาจหมดลงแล้ว แต่ใช่ว่าชีวิตของพวกมันจะจบสิ้น ยังคงมีอีเวนท์การแข่งขันรถคลาสสิคให้พวกมันได้ลงอวดโฉมอยู่ เช่น Goodwood Revival หรือ Historic Grand Prix of Monaco

    Maserati F1

    อะไหล่สำรอง

    ในรถแข่งหนึ่งคันนั้นมีชิ้นส่วนมากกว่า 80,000 ชิ้น นั่นหมายความว่ามีอะไหล่มากมายที่รอการนำกลับมาใช้ ดังนั้นถ้าไม่ได้ผิดกติกาอะไร ชิ้นส่วนเก่าเหล่านี้สามารถนำมาใช้ในรถแข่งคันใหม่ของทีมได้ อีกทั้งยังสามารถเก็บชิ้นส่วนไว้เป็นอะไหล่สำรองในการวิ่งทดสอบหรือเดโมรันได้ นอกจากนั้นทางทีมยังมีการขายชิ้นส่วนบางส่วนให้เป็นของที่ระลึกสำหรับแฟนๆ อีกด้วย เช่น ล้อแม็กที่มักจะถูกนำมาทำเป็นโต๊ะรับรองแขก

    อ้างอิง : wtf1.com , twitter.com/mclarenf1 , en.wheelz.me , twitter.com/VisitMonaco , twitter.com/Maserati_HQ

    ABOUT THE AUTHOR

    Latest Posts