เรียกได้ว่าลอยลำคว้าชัยชนะได้อย่างสบาย ๆ ในหลายสนามที่ผ่านมาสำหรับ Max Verstappen แชมป์โลก Formula 1 คนล่าสุด ที่กำลังขยับเข้าใกล้การป้องกันแชมป์โลกไปได้ทุกขณะ
ใครจะไปคิดว่านักแข่งดัตช์จะมีช่วงเวลาในการคว้าชัยชนะที่สบาย ๆ เช่นนี้ เมื่อดูจากฟอร์มของทีมแข่ง Red Bull นับตั้งแต่เปิดฤดูกาล ซึ่งเรียกได้ว่าโดนปัญหาทางเทคนิคตัวรถเล่นงาน จนทำให้คะแนนตามหลังคู่แข่งอย่าง Ferrari ไปพอสมควร และเมื่อ Red Bull สามารถแก้ไขปัญหาความสม่ำเสมอของตัวรถ RB18 ได้แล้ว Verstappen ยังต้องเจอกับปัญหาคาแรคเตอร์ของตัวรถที่ดูจะไม่เข้ามือเขาเอาเสียเลยซ้ำเข้าไปอีก
ในทางตรงกันข้าม คาแรคเตอร์ที่มีส่วนหน้าของรถไม่แข็งแรง นั่นกลับไปเข้ามือเพื่อนร่วมทีมของนักแข่งดัตช์อย่าง Sergio Perez ทำให้นักแข่งเม็กซิกันสามารถคว้าชัยชนะได้ที่โมนาโค และช่วงเวลาหนึ่งเขาได้กลายเป็นตัวเต็งแชมป์โลกในปีนี้
แต่แล้วเมื่อฤดูกาลผ่านไป เราได้สังเกตเห็นความเปลี่ยนแปลงภายในทีมแข่ง Red Bull นักแข่งดัตช์เริ่มมีการแข่งขันที่แข็งแกร่งขึ้นเรื่อย ๆ ในขณะที่นักแข่งเม็กซิกันผลงานเริ่มดรอปลงไป
เมื่อดูจากประสิทธิภาพของรถเพียว ๆ F1-75 ของ Ferrari นั้นเป็นรถที่เร็วมากในการทำเวลาหนึ่งรอบ โดยเฉพาะเมื่อช่วงต้นฤดูกาล แต่เมื่อเวลาผ่านไป RB18 ของ Red Bull ได้ถูกปรับปรุงแก้ไข ทั้งในแง่ของความสม่ำเสมอและประสิทธิภาพ จนในตอนนี้ Ferrari แทบไม่เหลือความได้เปรียบใด ๆ หรือพูดได้ว่า Verstappen และ Red Bull นั้นได้ขยับขึ้นไปอีกขั้น
สิ่งที่เกิดขึ้นนั้น ถ้าว่ากันตามจริง มันไม่ใช่ว่าทีมแข่งได้ปรับแต่งตัวรถให้ไปเข้ามือ Verstappen จนทำให้ Perez ขับไม่ได้แต่อย่างใด สิ่งที่ทีมแข่งทำนั้นเป็นอะไรที่เรียบง่าย แต่ก็เป็นพื้นฐานของการออกแบบรถ นั่นคือ การลดน้ำหนัก
ว่ากันว่า ตัวแข่ง RB18 นั้นเป็นรถที่หนักที่สุดคันหนึ่งเมื่อเปิดฤดูกาลมา มันหนักกว่าน้ำหนักขั้นต่ำเกินกว่า 10 กิโลกรัม ซึ่งสำหรับการแข่งขัน F1 นั่นเป็นน้ำหนักที่สร้างความเสียหายอย่างมหาศาล
ทีมแข่งเคยมีการคำนวณคร่าว ๆ ออกมาว่า น้ำหนัก 10 กิโลกรัม ที่เพิ่มขึ้นมา นั่นหมายถึงเวลาต่อรอบที่จะเพิ่มขึ้นประมาณ 0.3 วินาที ดังนั้นถ้าหากคุณลดน้ำหนักตรงนั้นลงไปได้ เวลาของคุณก็จะกลับมาเองโดยอัตโนมัติ และนั่นเป็นสิ่งที่เชื่อว่า Red Bull ได้ทำลงไป คือการเอาน้ำหนักตัวรถออกไปแล้ว 10 กิโลกรัม นับตั้งแต่เปิดฤดูกาลมา
การที่น้ำหนักของรถแข่งลดลง นั่นทำให้ทีมแข่งสามารถเล่นกับการกระจายน้ำหนักบนตัวรถได้ และตรงนั้นเองที่ทำให้ทีมงานมีอิสระเพิ่มเติมในการปรับแต่งอาการของรถ เพียงแค่พวกเขาถ่ายโอนน้ำหนักไปยังส่วนท้ายของรถเพิ่มขึ้น นั่นก็เพียงพอแล้วที่จะทำให้ความคมของส่วนหน้ารถกลับมา และนั่นเป็นสิ่งที่ทำให้รถแข่งกลับมาเข้ามือ Verstappen อีกครั้ง
“รถแข่งนั้นหนักเกินไป” Verstappen กล่าวไว้ที่ Monza “มันเป็นอะไรที่ผิดมหันต์ที่ตัวรถนั้นหนักเกินไป นั่นเป็นเหตุผลให้มันอันเดอร์สเตียร์ตลอด และล้อหน้าล็อกหลายครั้ง”
“ในช่วงต้นของฤดูกาล เราไม่สามารถที่จะขยับน้ำหนักได้ และมันเป็นส่วนหนึ่งของเซตอัพรถ” Pierre Wache ผู้อำนวยการฝ่ายเทคนิคของ Red Bull กล่าว “แต่ผมคิดว่ามันเกิดจากทุกอย่างรวมกัน และเมื่อคุณหาประสิทธิภาพได้จากที่ไหนสักแห่งบนรถ มันได้ช่วยในเรื่องของเซตอัพ แล้วมันก็ไปเข้ามือของ Max”
“ในตอนนี้เราจึงต้องหาวิธีที่จะทำรถให้กับ Sergio เพื่อที่เขาจะได้ทำผลงานและกลับมาแข่งขันได้อีกครั้ง”
Wache ยังได้กล่าวอีกว่า สถานการณ์นั้นมันเข้าใจได้ง่ายมาก Perez นั้นไม่แฮปปี้กับอาการของรถอย่างที่เขาเคยรู้สึกเมื่อตอนต้นฤดูกาล สิ่งที่ยากคือ การหาวิธีแก้ไขที่จะไม่ทำให้รถแข่งช้าลง
“ปัจจัยหลักนั้นเป็นเรื่องเกี่ยวกับบาลานซ์ของตัวรถและความมั่นใจในตัวรถ” Wache กล่าว “เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงต้นปี ตัวรถนั้นมีสมดุลที่ดีกับเขามากกว่า Max และหลังจากที่ตัวรถได้ถูกพัฒนาในระหว่างฤดูกาล บาลานซ์นั้นก็ได้ขยับออกห่างจากเขา ผมคิดว่านั่นเป็นส่วนหนึ่ง (ที่ทำให้ Perez มีปัญหา)”
Wache ยอมรับว่า การเดินหน้าต่อไปอาจจะต้องยอมถอยหลังในแง่ของประสิทธิภาพ ยอมเสียเวลาต่อรอบที่เร็วที่สุด เพื่อให้ Perez รู้สึกดีกับรถมากขึ้น
“มันเป็นเรื่องยากที่จะพัฒนารถให้ได้ประสิทธิภาพสูงสุดในทางทฤษฎี คุณจะติดปัญหาในด้านของเครื่องมือเซตอัพเพื่อที่จะปรับสมดุลของตัวรถ นั่นหมายความว่าคุณอาจจะต้องยอมเสียสละประสิทธิภาพของตัวรถไปเล็กน้อยเพื่อแลกกับบาลานซ์” Wache กล่าว
อ้างอิง : motorsport.com