นักแข่งและทีมจะต้องเสียค่าธรรมเนียมในการเข้าร่วมการแข่งขัน Formula 1 และในปีนี้ จำนวนเงินที่พวกเขาเหล่านั้นต้องจ่ายทั้งหมด รวมเป็นเงิน 26.7 ล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นจำนวนที่ Max Verstappen ใช้คำว่า ‘ไร้เหตุผล’
ค่าธรรมเนียมแรกเข้า หรือ ค่าสมัครแข่งขัน F1 นั้น จะถูกจัดเก็บโดย FIA ซึ่งมันจะแบ่งออกเป็น 2 ส่วนด้วยกันคือ ค่าธรรมเนียมพื้นฐาน และ ค่าธรรมเนียมตามผลงาน ซึ่งจะใช้คะแนนสะสมเป็นเกณฑ์ในการจัดเก็บ
ค่าธรรมเนียมพื้นฐานนั้น ตามกฎข้อบังคับด้านการกีฬาในปี 2023 ทีมแข่งทุกทีมจะต้องจ่ายเงินเป็นจำนวน 617,687 ดอลลาร์ บวกกับค่าธรรมเนียมตามผลงาน ซึ่งค่าธรรมเนียมตามผลงานในปีนี้เพิ่มขึ้นเป็น 7,441 ดอลลาร์/แต้ม จากเดิม 6,926 ดอลลาร์/แต้ม สำหรับทีมแข่งที่คว้าแชมป์โลก และ 6,174 ดอลลาร์/แต้ม จากเดิม 5,770 ดอลลาร์/แต้ม สำหรับอีก 9 ทีมที่เหลือ
สำหรับค่าธรรมเนียมของนักแข่งนั้น มันไม่ได้มีการเปิดเผยอย่างเป็นทางการออกมา แต่สื่อ Motorsport.com เข้าใจว่า ในปี 2023 ค่าธรรมเนียมตามผลงานได้เพิ่มขึ้นถึง 30% จากเดิม 1,623 ดอลลาร์/แต้ม ไปเป็น 2,100 ดอลลาร์/แต้ม ในขณะที่ค่าธรรมเนียมพื้นฐานมีการจัดเก็บอยู่ที่ 16,236 ดอลลาร์
เมื่อรวมค่าธรรมเนียมทั้ง 2 ส่วน จากทั้งทีมแข่งและนักแข่ง FIA จึงมีการจัดเก็บค่าธรรมเนียมสมัครแข่งขันที่แพงที่สุดในประวัติศาสตร์ F1 ด้วยจำนวนเงิน 26,699,573 ดอลลาร์
แน่นอนว่า Red Bull เป็นทีมที่โดนค่าธรรมเนียมหนักที่สุด เพราะพวกเขาคว้าแชมป์โลกทั้งประเภททีมและนักแข่ง ซึ่งถ้าหากนับว่าทีมเป็นผู้รับผิดชอบค่าใช้จ่ายทั้งหมด ทีมแข่งจากมิลตันคีนส์จะต้องจ่ายเงินเกือบ 8 ล้านดอลลาร์ เลยทีเดียว
“ผมได้รับบิลมาเมื่อวันก่อน และมันเป็นตัวเลขที่เหลือเชื่อมาก” Christian Horner ทีมบอส Red Bull กล่าว “ผมไม่คิดว่ามันเป็นเรื่องที่ถูกต้องที่เราต้องจ่ายอะไรเยอะขนาดนั้น”
ในอีกฝั่งหนึ่งของตารางคะแนนสะสม Williams จ่ายเงินรวมเพียงแค่ประมาณ 7 แสนดอลลาร์ เท่านั้น ซึ่งมันรวมค่าธรรมเนียมของทั้ง Alex Albon และ Logan Sargeant แล้ว
ในอดีต FIA จะใช้รายได้จากแหล่งต่าง ๆ เพื่อผลักดันการวิจัยด้านความปลอดภัย เช่น HANS หรือ Halo อย่างไรก็ตาม ไม่มีความชัดเจนในการใช้จ่ายของ FIA ถูกเผยแพร่ออกสู่สาธารณะแต่อย่างใด ซึ่งนั่นทำให้ทีมและนักแข่งบางคนแสดงความสงสัยต่อความโปร่งใสในเรื่องดังกล่าว
อ้างอิง : motorsport.com