More

    10 รถกระบะ 4 ประตูยอดนิยมปี 2022

    หากใครที่มีแพลนกำลังอยากซื้อรถกระบะ 4 ประตูสักคัน เพื่อใช้งานให้เหมาะสมและคุ้มค่ากับความต้องการของคุณ วันนี้ Car2day ได้รวบรวม 10 รถกระบะที่กำลังได้รับความนิยมในปี 2022 นี้ มาให้คุณได้ศึกษาสมรรถนะ สเปก ประกอบการตัดสินใจในการซื้อ ชอบแบบไหน รุ่นไหน สามารถเข้าไปทดลองขับได้ที่ศูนย์บริการใกล้บ้านคุณได้เลย ทดลองเพื่อที่จะได้ประกอบการตัดสินใจอีกครั้ง มาดูกันว่า 10 รุ่นยอดนิยมนี้ จะมีรุ่นไหนกันบ้าง

    10. Mitsubishi Double Cab Triton Athlete 2022

    Mitsubishi Double Cab Triton Athlete 2022 รถกระบะสไตล์สปอร์ต ใหญ่ ดูทรงพลัง ต้อง Mitsubishi Triton Athlete 2022 การออกแบบให้สามารถลุยได้ทุกสถานการณ์ รูปทรงโฉบเฉี่ยว เร้าใจมากยิ่งขึ้น มาพร้อมเทคโนโลยีล้ำสมัย เพื่ออำนวยความสะดวก ทำให้สามารถตอบโจทย์ในทุกสภาพถนนและการบรรทุกของหนัก ทำให้เหมาะกับผู้ที่ชื่นชอบการใช้งานแบบสมบุกสมบันอย่างแน่นอน ภายในห้องโดยสารดีไซน์อย่างรถสปอร์ตจึงใช้แบบสีทูโทน เป็นเอกลักษณ์ที่โดดเด่น เครื่องยนต์ยังมีการใช้แบบ MIVEC (Mitsubishi Innovative Valve Timing Electronic Control) ทำให้มีแรงบิดดีขึ้น ได้แรงม้ามากขึ้น ช่วยเพิ่มอัตราเร่งดีในขณะขับ อีกทั้งยังสามารถช่วยลดมลพิษในอากาศ ที่สำคัญยังมีเทคโนโลยีขับเคลื่อน 4 ล้อ สามารถเปลี่ยนโหมดให้เหมาะสมกับสภาพถนนได้สัมผัส เช่น โหมดถนนปกติ, โหมดถนนเปียกลื่น, โหมดเส้นทางขรุขระ และโหมดเส้นทางวิบากที่มีระบบ Center Differential Lock ทำงานร่วมกับระบบล็อกเฟืองท้ายหลัง (Rear Differential Lock) ที่ควบคุมด้วยระบบไฟฟ้า เหมาะสำหรับทางที่วิบาก ลุยโคลน ขึ้นเขาสบายมาก

    ราคาเริ่มต้นที่ 985,000 บาท

    1. Isuzu D-Max X-Series Hi-Lander Double Cab

    Isuzu D-Max X-Series Hi-Lander Double Cab กระบะพันธ์แกร่งและเป็นค่ายยอดนิยมของคนที่เลือกรถกระบะในตลาดรถยนต์บ้านเรา มีการปรับดีไซน์โฉมใหม่ ให้ดูสปอร์ต เข้มขึ้น หล่อขึ้น ด้วยการแต่งไฟท้ายโทนสีเข้ม บวกกับการตกแต่งห้องโดยสารแบบทูโทนสีแดงดำ เพิ่มความพรีเมียมมากแบบสปอร์ตมากขึ้น  พร้อมกับยังมีการติดตั้งอุปกรณ์มาตรฐานเพิ่มเติมจากรุ่น Speed ได้แก่ กุญแจ Isuzu Genius Entry พร้อมปุ่ม Push Start, สปอร์ตบาร์พร้อมพื้นปูกระบะ, ชุดสเกิร์ต X-Series รอบคัน, ระบบ Cruise Control, ระบบควบคุมเสถียรภาพ ESC และล้ออัลลอยดีไซน์ใหม่สีดำ Glossy Black ขนาด 18 นิ้ว ด้วย นอกจากนี้ก็ยังมีเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด ระบบ Rev Tronic ที่เป็นแบบขับเคลื่อน 2 ล้อ สามารถรองรับน้ำมันเชื้อเพลิงได้สูงถึง B20 และให้กำลังสูงสุดถึง 150 แรงม้า

    ราคาเริ่มต้นที่ 843,000 บาท

    2. Isuzu D-MAX V-Cross 4x4 Double Cab

    Isuzu D-MAX V-Cross 4×4 Double Cab รุ่นยอดนิยมจากอีซูซุ ปี 2022 มีการปรับโฉมใหม่ให้ดูแกร่งมากขึ้น การตกแต่งกระจังหน้าแบบใหม่ Double Dimensions ด้วยสี Monotoneความโดดเด่นพิเศษที่ต่างจากรถกระบะอีซูซุรุ่นอื่น ๆ ก็คือ สามารถเป็นรถออฟโรดได้ เหมาะกับคนสายลุยที่ชอบรถออกต่างเมือง ภายในของห้องโดยสารมีการตกแต่งแบบผสมผสานความเท่และความหรูหราไว้อย่างลงตัว ช่วงล่างเกาะติดถนนแน่น รองรับน้ำหนักได้ดี ส่วนเครื่องยนต์นั้นยังมีการติดตั้งด้วย 3.0 Ddi Blue Power 4JJ3-TCX ให้กำลังสูงถึง 190 แรงม้า และยังจับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด แบบ Rev-Tronic พร้อมด้วยระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ มาพร้อมระบบ Terrain Command ทำงานด้วยการหมุนผ่านสวิตช์ที่ติดตั้งอยู่ภายในห้องโดยสาร ที่สำคัญยังมีการติดตั้งระบบ Eletronic Diff-Lock หรือระบบล็อกเฟืองท้ายที่ควบคุมด้วยไฟฟ้า รองรับน้ำมันเชื้อเพลิงสูงสุดถึง B20 คุ้มมากคันนี้

    ราคาเริ่มต้นที่ 877,000 บาท

    3. Toyota Hilux Revo GR Sport D-Cab 4x4

    Toyota Hilux Revo GR Sport D-Cab 4×4 รุ่นปรับโฉมใหม่ของปี 2022 มีสมรรถนะที่แรงและทรงพลังมากขึ้น สามารถใช้ขับได้ทั้งถนนทางเรียบและถนนแบบออฟโรด ซึ่งรุ่นนี้มีการตกแต่งสไตล์สปอร์ตที่ให้ความรู้สึกทันสมัย มีเอกลักษณ์ตามสไตล์โตโยต้า สำหรับแคปด้านหลังของรุ่นนี้อาจจะมีขนาดที่ไม่ใหญ่ แต่ก็สามารถนั่งได้สบายเช่นกัน ซึ่งจุดเด่นก็คือ เบาะที่นั่งของสามารถพับขึ้นได้แบบ 60:40 เพื่อเพิ่มพื้นที่เก็บของภายในได้ และยังมีเบาะคนขับปรับไฟฟ้าได้อีกด้วย ระบบความปลอดภัยยังมีระบบดึงรั้งกลับและผ่อนแรงดึงอัตโนมัติ สำหรับเบาะคู่หน้า, ระบบป้องกันล้อล็อก ABS และระบบกระจายแรงเบรก EBD ที่ถูกติดตั้งเป็นอุปกรณ์มาตรฐาน ทำให้รุ่นนี้สามารถใช้งานอเนกประสงค์ได้อย่างลงตัว พร้อมกับการโดยสารที่สะดวกสบายมากขึ้น

    ราคาเริ่มต้นที่  1,299,000 บาท

    4. Toyota Hilux Revo Prerunner Double Cab 2.4 High AT

    Toyota Hilux Revo Prerunner Double Cab 2.4 High AT มีการปรับเปลี่ยนดีไซน์ให้มีความดุดันมากขึ้น มาพร้อมกับการปรับให้มีการยกสูง สามารถใช้งานอเนกประสงค์ได้หลากหลาย พร้อมกับให้ความสะดวกสบายแก่การโดยสาร ขับขี่ได้ง่าย ช่วงล่างยึดเกาะถนนได้ดี การตกแต่งภายนอกของรถยนต์มีการใช้ไฟแบบ LED DRL และยังตกแต่งด้วยวัสดุโครเมียมในหลาย ๆ จุดรอบตัวรถด้วย ภายในห้องโดยสารยังมีเบาะที่สามารถปรับยกเพื่อช่วยเพิ่มพื้นที่การเก็บของ ทำให้สามารถจุสัมภาระได้เยอะขึ้น นอกจากนี้ยังมีการใช้เครื่องยนต์ใหม่แบบ GD Super Power ให้กำลังสูงสุดถึง 150 แรงม้า สามารถตอบโจทย์การใช้งานทั้งเรื่องความแรงและการประหยัดน้ำมันได้ ที่สำคัญยังมีระบบช่วงล่างใหม่แบบ Super Felx Suspension ทำให้ขับขี่ได้นุ่มนวลกว่ารถกระบะทั่วไป

    ราคาเริ่มต้นที่ 976,000 บาท

    5. Mazda BT-50 Double Cab

    Mazda BT-50 Double Cab กระบะดีไซน์หรูหรา รูปทรง SUV Mazda BT-50 Double Cab ที่มีความเรียบง่ายแต่ยังคงงดงาม ผสมผสานเข้ากับความแข็งแกร่งสไตล์รถกระบะ จึงทำให้รุ่นนี้เป็นที่น่าจดจำและถือว่าเป็นรถกระบะสไตล์ SUV ที่เป็นเอกลักษณ์ของค่าย ภายในห้องโดยสารยังเน้นความประณีตใส่ใจในทุกรายละเอียด โดยคัดสรรเลือกใช้เฉพาะวัสดุคุณภาพสูง มีการออกแบบโดยเน้นผู้ขับขี่เป็นศูนย์กลางตามหลัก Human-Machine Interface เพื่อให้ง่ายต่อการใช้งาน เบาะนั่งคนขับยังเป็นระบบไฟฟ้าที่สามารถปรับระดับได้ถึง 8 ทิศทาง ทำให้ช่วยลดอาการเมื่อยล้าเมื่อต้องขับทางไกลเป็นเวลานาน ที่สำคัญตัวถังของรุ่นนี้ยังมีความแข็งแกร่ง มีเสถียรภาพการขับขี่ที่ดีเยี่ยม  และยังสามารถรองรับการบรรทุกของได้มากขึ้นด้วยชุดแหนบด้านหลังที่ยาวถึง 1,370 มม.

    ราคาเริ่มต้นที่ 771,000 บาท

     

    6. Nissan Navara PRO-4X Double Cab

    Nissan Navara PRO-4X Double Cab รุ่นนี้โฉมใหม่ล่าสุดยังคงเป็นของปี 2021 แต่ด้วยเอกลักษณ์และความแข็งแกร่งของกระบะ Navara ทำให้รุ่นนี้ยังคงเป็นที่ต้องการในตลาดรถยนต์อยู่เรื่อย ๆ ซึ่งดีไซน์ของรุ่นนี้จะเน้นดีไซน์ที่ดูบึกบึนและทรงพลัง มีการตกแต่งไฟหน้าด้วย Quad-Eye LED ทำให้ส่องสว่างชัดเต็มทัศนวิสัย พร้อมภายในที่ลงตัวเป็นเอกลักษณ์ รับกับเบาะทรงสปอร์ต ช่วยให้นั่งสบาย ไม่หวั่นทั้งทางเรียบและทางลุยสามารถใช้งานได้สมบุกสมบัน ระบบความปลอดภัยยังมีการเพิ่มระบบ 360° SAFETY SHIELD ที่ผสานฟังก์ชันความปลอดภัยขั้นสุด ปกป้องรอบคันจากด้านหน้า ด้านข้าง และด้านหลัง ทำให้ขับขี่ได้มั่นใจทุกการเดินทาง ที่สำคัญห้องโดยสารยังมีความเงียบสงบ เพราะ กระจกรถรุ่นนี้เป็นแบบลดเสียงรบกวนจากภายนอกได้ หมดกังวลเรื่องเสียงรบกวนขณะขับเลย

    ราคาเริ่มต้นที่ 999,000 บาท

     

    7. MG Extender Double Cab

    MG Extender Double Cab  รถกระบะจากเมืองจีน ซึ่งดีไซน์ของรุ่นนี้จะมีความโดดเด่นตรงที่กระจังหน้าโครเมียมทรงแปดเหลี่ยมขนาดใหญ่ ขนาบข้างด้วยไฟหน้าแบบ 2 ชั้น ที่ปรับเลี้ยวตามองศาการหมุนพวงมาลัย พร้อมตกแต่งรูปลักษณ์ให้เป็นรถกระบะทรงออฟโรด ด้วยบันไดข้างสีดำ ทำให้ได้รถกระบะที่เป็นเอกลักษณ์สไตล์ MG โดยทางค่ายยังได้นำเสนอจุดเด่นเรื่องกระบะท้ายที่มีความยาวมากถึง 1,900 มิลลิเมตร ทำให้รุ่นนี้สามารถรองรับการบรรทุกสัมภาระได้มากกว่ารถกระบะรุ่นอื่น ๆ เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องขนสัมภาระจำนวนมากเป็นประจำ ส่วนภายในห้องโดยสารก็ยังมีการออกแบบที่ทันสมัย นั่งได้สบาย เบาะที่นั่งสามารถปรับเข้ากับสรีระได้ดี เบาะคู่หน้าสามารถปรับระดับด้วยไฟฟ้าเอนนอนได้มากถึง 150 องศา และเบาะหลังพับได้ 2 รูปแบบ เพิ่มฟังก์ชันการจุสัมภาระได้เป็นพิเศษ

    ราคาเริ่มต้นที่ 769,000 บาท

     

    8. Mitsubishi Triton Double Cab Ralliart

    Mitsubishi Triton Double Cab Ralliart รุ่นนี้มีความโดดเด่นเป็นพิเศษมากกว่ารุ่นอื่น ตรงที่มีการออกแบบให้ดูเหมือนสไตล์รถแข่ง เหมาะกับผู้ที่ต้องการใช้งานและสปอร์ตหนึ่งเดียว โดยรุ่นนี้ได้มีการพัฒนาต่อยอดมาจากรุ่น GLX 2.5 แต่มีการเพิ่มการตกแต่งด้วย Ralliart ชุดใหม่ ไม่ว่าจะเป็น กันชนหน้าสีดำ ครอบกระจกมองข้างพร้อมไฟเลี้ยวสีดำ ล้ออัลลอยสีดำลาย 5 ก้าน ขนาด 16 นิ้ว ชุดสติ๊กเกอร์ด้านข้างตัวรถลาย Ralliart โดยสีตัวรถจะมี 2 สีให้เลือก ได้แก่ สีขาว Solid White จับคู่หลังคาสีดำ และสีดำ Jet Black Mica ที่สำคัญรุ่นนี้ยังมีบังโคลงทั้ง 4 จุดสีแดงที่เป็นเอกลักษณ์ด้วย ส่วนในด้านห้องโดยสารยังคงรูปแบบเดิมตามาตรฐานของรุ่น GLX ส่วนในเรื่องของเครื่องยนต์จะมีให้เลือกเฉพาะเครื่องยนต์ดีเซล 4 สูบเทอร์โบ และอินเตอร์คูลเลอร์ ความจุ 2.5 ลิตรเท่านั้น และยังให้กำลังสูงสุด 128 แรงม้า เกียร์ธรรมดา 5 จังหวะและเป็นรุ่นขับเคลื่อนแบบ 2 ล้อ

    ราคาเริ่มต้นที่ 705,000 บาท

     

    9. Ford Ranger Raptor 2022

    Ford Ranger Raptor 2022 กระบะพันธุ์แกร่งในกลุ่มของ Ranger โดยสามารถวิ่งได้แรงกว่ารุ่นเก่า มาพร้อมกับเครื่องยนต์ลูกใหม่ เบนซิน V6 3.0 ลิตร เทอร์โบคู่ กำลังสูงสุด 397 PS ที่ 5,650 รอบต่อนาที และแรงบิด 583 นิวตันเมตร ที่ 3,500 รอบต่อนาที และยังมีรุ่นเครื่องยนต์ ดีเซล 4 สูบเรียง 2.0 ลิตร เทอร์โบคู่ให้เลือกด้วยเช่นกัน อีกทั้งท่อไอเสียของรุ่นนี้ยังมีระบบวาล์วเพื่อควบคุมอัตราการไหลของไอเสีย และยังช่วยควบคุมโทนเสียงตามโหมดความดัง 4 รูปแบบ ได้แก่ โหมดเงียบ โหมดปกติ โหมดสปอร์ต และโหมดบาฮา ไม่เพียงเท่านั้นยังมีระบบ Anti-Lag หรือระบบค้างบูสท์เทอร์โบเอาไว้ หลังปิดคันเร่ง 3 วินาที ใส่มาให้ด้วย เพื่อช่วยให้เครื่องยนต์มีความลื่นไหลในการเติมคันเร่งครั้งต่อไปเพื่อออกจากโค้ง หรือการทำ Power Slide แต่จะทำงานเฉพาะในระบบ Bajaj เท่านั้น ที่สำคัญยังมีชุดเกียร์ออโตเมติก 10 สปีด ทำงานร่วมกับระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ แบบ Full Time 4WD ที่ผู้ขับสามารถปรับการทำงานเป็นแบบขับเคลื่อน 2 ล้อได้ในภายหลัง และยังเพิ่มระบบ eDiff-Lock ทั้งด้านหน้าและด้านหลังมารให้ด้วย ซึ่งหากใครที่เน้นการขับรถสไตล์ออฟโรด

    ราคาเริ่มต้นที่ 1,869,000 บาท

    และนี่ก็คือรถกระบะ 4 ประตูทั้ง 10 รุ่น ยอดนิยมในปี 2022 หากใครชอบคันไหน รุ่นไหน ก็สามารถไปทดลองขับกันได้ที่ศูนย์บริการใกล้บ้านคุณ ก่อนการตัดสินใจซื้อ เพื่อความชอบให้ตรงกับใจ ความคุ้มค่าในการใช้งาน


    บทความอื่น ๆ

    ABOUT THE AUTHOR

    Latest Posts