More

    คันไหนดี! BYD ATTO 3 VS MG ZS EV สองเอสยูวีไฟฟ้านจากแดนมังกร

    ตลาดรถยนต์ไฟฟ้าได้ต้อนรับสมาชิกใหม่ที่บุกตลาดเมืองไทยอย่างเป็นทางการกับ BYD ภายใต้ Rêver Automotive ของกลุ่มพรประภารุ่นใหม่

    BYD

    ที่ได้เปิดตัวพร้อมราคาจำหน่ายไปเมื่อวันที่ 10 ตุลาคม ที่ผ่านมาพร้อมประกาศกร้าวส่งมอบรถได้ทันที 5,000 คันในปีนี้ ทำให้คู่แข่งร่วมชาติต่างตั้งรับพร้อมสู้กับ BYD อย่างเต็มรูปแบบ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเจ้าตลาดรถยนต์ไฟฟ้าอย่าง MG กับ MG ZS EV เอสยูวีไฟฟ้า ที่ยืนหยัดขายดีมาตลอดสามปี จนตอนนี้ปรับโฉมปรับหล่อไปแล้ว ยังมียอดส่งมอบค้างอยู่จำนวนหนึ่ง สอดรับกับภาครัฐเปิดแคมเปญส่งเสริมคนไทยหันมาใช้รถไฟฟ้ามากขึ้นด้วยส่วนลดตั้งแต่ 150,000 บาทเป็นต้นมา ทำให้สองค่ายนี้ต่างช่วงชิงความได้เปรียบงัดไม้ตายอย่าหล่างเพื่อมัดใจลูกค้าชาวไทยให้สำเร็จ ทำให้เราจับสองเอสยูวีหรือครอสโอเวอร์มาเป็นคู่มวยเอกครั้งนี้

    ภายนอกหล่อเท่คนละแบบ

    BYD

    BYD ATTO 3 หรืออีกชื่อ BYD Yuan Plus มาในร่างเอสยูวีที่เปี่ยมไปด้วยสมรรถนะ เทคโนโลยี ตลอดจนสุดดีไซน์โฉบเฉี่ยวคล่องตัวหล่อด้วยกระจังหน้าแบบปิดทึบขอบกระจังหน้าห่อหุ้มด้วยเส้นโครเมียมคาด ไฟหน้าแบบ Crystal LED Combination มาพร้อมระบบไฟส่องนําทางหลังจากดับเครื่องยนต์ (Follow Me Home Light)แถมยังปรับไฟสูงอัตโนมัติ High Beam Assist (HMA) และมีไฟส่องสว่างเวลากลางวันแบบ LED Daytime Running Light (DRL) ในโคมเดียวกันในชุดกันชนหน้าทูโทนสีพร้อมสีดำในรูปแบบช่องระบายอากาศ ด้านข้างตกแต่งด้วยกรอบกระจกโครเมียม เสา C ขนาดใหญ่ขึ้นรูปลายคลื่นน้ำสีเงินคล้ายเกล็ดมังกร หลังคารถแบบพาโนรามิกซันรูฟ ไฟท้ายแบบ LED ดีไซน์ปีกนกพร้อมฝาท้ายเปิด-ปิดประตูท้ายด้วยระบบไฟฟ้าแบบ One-Touch อีกหนึ่งออปชันที่เหนือกว่า MG ZS EV และล้ออัลลอยขนาด 18 นิ้วพร้อมยาง 215/55R18

    MG

    MG ZS EV รุ่น X ปรับโฉมดูดีดูสมาร์ทกว่ารุ่นเดิมลงตัวในทุกด้านเรียบง่ายแต่แฝงด้วยความสปอร์ตถึงภายนอกจะคล้าย MG ZS รุ่นเครื่องยนต์สันดาป ตั้งแต่ กระจังหน้า และกันชนหน้าแบบ GRILLE-LESS DESIGN ทรงปิดทึบ พร้อมขยับที่ชาร์จไปไว้ที่ ด้านซ้ายของ โลโก้ MG ขนาดใหญ่ ไฟหน้าแบบ LED พร้อมไฟส่องสว่างสำหรับการขับขี่ตอนกลางวัน (Daytime Running Lights) ล้ออัลลอยดีไซน์ใหม่ ขนาด 17 นิ้ว พร้อมฝาครอบล้อแบบ Aero Wheel Cover พร้อมยางขนาด 215/55 R17 ไฟท้ายแบบ และไฟเบรกดวงที่ 3 แบบ LED สปอยเลอร์หลังพร้อม ราวหลังคาและหลังคารถแบบพาโนรามิกซันรูฟ

    มิติตัวรถBYD

    BYD ATTO 3 สร้างจากพื้นฐาน BYD’s e-platform 3.0 ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มสำหรับรถไฟฟ้าโดยเฉพาะมาพร้อมมิติตัวรถทรงท้ายตัด 5 ประตูยกสูงตั้งแต่ความยาว 4,455 มม. ความกว้าง 1,875 มม. ความสูง 1,615 มม. ฐานล้อ 2,720 มม. ความสูงใต้ท้องรถ 175 มม. น้ำหนักรถ 1,750 กก.

    MG

    ทางด้าน MG ZS EV รุ่น X ยกพื้นฐานมาทั้งหมดจาก MG ZS รุ่นปกติ แต่ปรับตัวตนให้เป็นเอสยูวไฟฟ้าด้วยมิติตัวรถตั้งแต่ความยาว 4,323 มม. ความกว้าง 1,809 มม. ความสูง 1,649 มม. ฐานล้อ 2,585 มม. ความสูงใต้ท้องรถ 161 มม. น้ำหนักรถ 1,610 กก.

    ถึงเอสยูวีไฟฟ้าสองยี่ห้อสองรุ่นจะมาในแนวท้ายตัด 5 ประตู แต่ด้วยความตั้งใจของเหล่าวิศวกรทั้งสองค่ายที่ออกแบบรถมาในรูปแบบนี้ทำให้ BYD ATTO 3 ได้เปรียบ MG ZS EV เกือบทุกมิติตั้งแต่ความยาวมากกว่า ZS EV 132 มม. กว้างกว่า 66 มม. ฐานล้อยาวกว่า 135 มม. ความสูงใต้ท้องรถสูงกว่า 14 มม. และน้ำหนักรถหนักกว่า 140 กก. ยกเว้นความสูงที่ MG ZS EV สูงกว่า BYD ATTO 3 เพียง 34 มม.

    ภายใน ATTO 3 หรูกว่าล้ำอนาคตกว่า

    BYD

    ด้วยความเป็นรถยนต์ขับเคลื่อนด้วยระบบไฟฟ้าแท้ๆทำให้การจัดการเรื่องภายในนั้นมีความได้เปรียบกว่ารถไฟฟ้าที่มาจากพื้นฐานรถสันดาปโดยเฉพาะห้องโดยสารของ BYD ATTO 3 อาจจะสบายกว่า MG ZS EV ด้วยเบาะหลังพับได้แบบ 60:40 พร้อมพื้นที่สัมภาระมากถึง 1,340 ลิตรเมื่อพับเบาะลงและ 440 ลิตรกรณีไม่พับเบาะ เบาะไฟฟ้าคู่หน้าปรับไฟฟ้า 6 ทิศทางสำหรับคนขับและ 4 ทิศทางสำหรับคนนั่ง หรูหราด้วยออปชันประจำรถทั้ง คอนโซลหน้าทรงเท่ พวงมาลัยมัลติฟังก์ชัน 3 ก้านปรับได้ 4 ทิศทางพร้อมสวิตช์ควบคุมเครื่องเสียง และสวิตช์ควบคุมหน้าจอ หน้าจอสัมผัสขนาดใหญ่ 12.8 นิ้ว หมุนจอได้ทั้งแนวตั้งและแนวนอน เชื่อมต่อ Apple Car Play Android Auto พร้อมลำโพง Dirac HD Sound 8 จุด ที่ชาร์จมือถือไร้สาย เชื่อมต่ออัจฉริยะ BYD DiLink มาตรวัดดิจิทัล 5 นิ้ว แสดงผลการขับขี่ สวิตช์เปลี่ยนเกียร์แบบ Finger-touched electronic shift รูปทรงช่องแอร์ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากดัมเบลเท่ไม่เหมือนใคร ก้านมือจับประตูล้ำสมัยแบบ Grip Style โดดเด่นแปลกตาด้วยสายกั้นสัมภาระสีแดงที่แผงประตู พร้อมความสะดวกสบายทั้งช่องจ่ายไฟ 12V 120w 1 จุด ที่คอนโซลกลาง มีช่องเสียบ USB ทั้ง ช่อง USB-A และ USB-C อย่างละ 1 พอร์ต ที่คอนโซลกลาง และช่อง USB-A และ USB-C อย่างละ 1 พอร์ต สำหรับผู้โดยสารตอนหลัง

    กุญแจแบบคีย์การ์ดพร้อมระบบ Keyless Start กระจกไฟฟ้า 4 บานแบบ One-touch พร้อมระบบป้องกันการหนีบ Anti-Pinch ระบบเครื่องปรับอากาศแบบอัตโนมัติ ระบบกรองอากาศ PM 2.5 พร้อม CN95 Filter และไฟ Ambient Light บริเวณมือจับประตู ปรับสีได้ 31 สี กะพริบตามจังหวะเพลง คนชอบเสียงดนตรีต้องชอบแน่ๆเพราะคันนี้ ออกแบบ ภายใต้แนวคิด Electric Interior ผสานอย่างลงตัวกับดีไซน์ Music Streamline Design ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากเครื่องดนตรีเพื่อให้ความรู้สึกผ่อนคลาย

    MG

    ส่วน MG ZS EV รุ่น X เรียบหรู แฝงความพรีเมียมด้วยคอนโซลหน้าลายคาร์บอนไฟเบอร์ และเบาะหนังดำเดินด้ายแดง พร้อมวัสดุบุนุ่มแบบ Soft Touch และฟังก์ชันการใช้งานที่ครบครันตั้งแต่ ระบบชาร์จโทรศัพท์แบบไร้สาย Wireless Charger พวงมาลัยมัลติฟังก์ชัน 3 ก้าน ควบคุมเครื่องเสียงพร้อมปุ่มรับ-วางสายโทรศัพท์ หน้าจอแสดงผลอัจฉริยะแบบดิจิตอล ขนาด 7 นิ้ว หน้าจอสีระบบสัมผัสดีไซน์ใหม่ ขนาด 10 นิ้ว ระบบเชื่อมต่อมัลติมีเดีย Apple CarPlay และสมาร์ทโฟนระบบ Android ลำโพง 6 จุด เบาะนั่งคนขับปรับไฟฟ้า 6 ทิศทาง เบาะผู้โดยสารด้านหน้าปรับ 4 ทิศทาง พื้นที่เก็บสัมภาระปรับได้ 2 ระดับ โดยมีพื้นที่จุของ 448 ลิตร แต่เมื่อพับเบาะลง 60/40 จะมีพื้นที่มากขึ้นเป็น 1,166 ลิตร ระบบปรับอากาศแบบอัตโนมัติพร้อม ช่องแอร์สำหรับผู้โดยสารตอนหลังและระบบกรองอากาศ PM 2.5 กระจกมองหลังตัดแสง ที่พักแขนด้านหลัง ระบบกุญแจรีโมทอัจฉริยะ (Smart Key) พร้อม Push Start

    มี i-SMART เชื่อมต่อทุกอย่างให้ง่ายและสะดวกสบายยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็น ตรวจสอบสถานะรถยนต์ และระบบเตือนความผิดปกติของรถยนต์ ตรวจสอบสถานะแบตเตอรี่ การชาร์จ และสถานีชาร์จ ช่วยค้นหาศูนย์บริการ นัดหมาย และบันทึกการดูแลรักษารถยนต์ตามระยะ สามารถสั่งการทำงานได้ทั้ง กุญแจดิจิทัล ระบบสั่งการผ่านเสียงภาษาไทย ระบบควบคุมการทำงานของระบบปรับอากาศผ่านทางสมาร์ทโฟน ระบบวางแผนการเดินทาง Travel Plan และตั้งค่าการเดินทางแบบ Team Travel ระบบโทรออก รับสายกรณีฉุกเฉิน ระบบโทรอัตโนมัติกรณีฉุกเฉิน Emergency Call พิเศษด้วยสั่งการชาร์จ สถานี MG Super Charge ผ่านทางสมาร์ทโฟน และเชื่อมต่ออย่างทันสมัยกับ ระบบนำทาง Navigation พร้อมรายงานการจราจรแบบ Real Time ช่วยค้นหาร้านอาหาร และที่พักบนแผนที่นำทาง เล่นเพลงออนไลน์แบบสตรีมมิ่ง เรียกดูข้อมูลข่าวสาร เหตุการณ์ปัจจุบัน และอัปเดทข้อมูลพยากรณ์อากาศ และอัปเกรดระบบต่าง ๆ ผ่านออนไลน์ (FOTA)

    ขุมพลังไฟฟ้า ATTO 3 แรงกว่าอย่างเห็นๆ

    BYD

    แน่นอนที่สุดว่าเมื่อผู้ท้าชิงอย่าง BYD ATTO 3 ใหม่กว่าสดกว่า ถึงทำตลาดโลกไปปีนึงเต็มๆ และทาง Rêver Automotive ใจกล้า สั่งรุ่นท็อป Extended Range มาขาย ด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าเดี่ยวขับเคลื่อนล้อหน้าแบบ Permanent magnet synchronous motor ด้วยความจุแบตเตอรี่ BYD Blade Battery 60.48 kWh ให้กำลังมากถึง 201 แรงม้า แรงบิด 310 นิวตันเมตร วิ่งไกลสุดต่อการชาร์จ 480 กม. ตามมาตรฐาน NEDC พร้อมเกียร์อัตโนมัติแบบ Single Speed

    ให้อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ทำได้ 7.3 วินาที ความเร็วสูงสุด 166 กม./ชม. พร้อมระบบชาร์จเร็ว DC – CCS 2 (80kW) สามารถชาร์จได้เร็วสุด 30 นาที 30-80% และชาร์จแบบ AC Type 2 (7kW) เร็วสุด 8.5 ชั่วโมง รองรับหัวชาร์จ แบบ AC 3 ขา  พร้อมระบบ V2L (Vehicle To Load) จ่ายไฟฟ้าได้ 2.2 kW (2,200 W เท่ากับ MG ZS EV) และดึงพลังงานจากระบบเบรกกลับมาใช้ใหม่ (Regenerative braking)

    BYD

    โดยจุดเด่นของแบตเตอรี่นี้ ผ่านการทดสอบมาตรฐานความปลอดภัย Nail Penetration Test มั่นใจได้ว่าปลอดภัยหากได้รับความเสียหายอย่างรุนแรง ด้วยรูปทรงเซลล์แบตเตอรี่ที่มีลักษณะคล้ายใบมีดวางเรียงตัวกัน จึงมีพื้นที่ว่างในการเพิ่มจำนวนเซลล์ เพื่อเพิ่มพลังงานให้มากขึ้นด้านอายุการใช้งานยาวนานด้วย แบตเตอรี่ Blade Battery LFP และยังมีระบบการจัดการความร้อนอัจฉริยะทำความร้อนและระบายความร้อนที่แบตเตอรี่โดยตรง (Direct Cooling and Direct Heating) เพิ่มประสิทธิภาพในการระบายความร้อนได้ถึง 20% ลดการสูญเสียพลังงานเสริมด้วยระบบปั๊มความร้อน (Heat Pump System) ช่วยให้ทำงานได้ในช่วงอุณหภูมิที่กว้างตั้งแต่ -30 ถึง 60 องศาเซลเซียสทนทานทุกสภาพอากาศ แถมได้เปรียบ MG ZS EV ด้วยช่วงล่างอิสระสี่ล้อด้านหน้าแบบ MacPherson Strut ด้านหลัง Multi-Link และดิสก์เบรก 4 ล้อ พวงมาลัยไฟฟ้า Electric Power Assisted Steering (EPAS) รัศมีวงเลี้ยวแคบสุด 5.25 ม.

    MG

    ในขณะที่  MG ZS EV รุ่น X มาพร้อมแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ Lithium-Ion มีความจุ 50.3 kWh และ มอเตอร์ไฟฟ้าแบบ Permanent Magnet Synchronous Motor ให้กำลังสูงสุด 177 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 280 นิวตันเมตร มีอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. อยู่ที่ 8.6 วินาที และด้วยแบตเตอรี่ขนาดใหญ่กับแรงดันเบตเตอรี่ 384 Volt สามารถขับขี่ได้ระยะทางสูงสุดถึง 403 กิโลเมตร ต่อการชาร์จเต็ม 1 ครั้ง (NEDC) อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ทำได้ 8.6 วินาที ความเร็วสูงสุด 175 กิโลเมตร/ชั่วโมง พร้อมระบบ Liquid Cooling System ช่วยระบายความร้อนให้ทั้งมอเตอร์ไฟฟ้า และแบตเตอรี่ทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพตามมาตรฐานความปลอดภัย IP67 ในการป้องกันน้ำและฝุ่น

    MGMG

    พร้อมระบบ KERS (Kinetic Energy Recovery System) สามารถชาร์จในระหว่างขับขี่กลับเข้าแบตเตอรี่ (Regenerative) เลือกระดับการชาร์จพลังงานกลับได้ถึง 3 ระดับ พร้อมโหมดการขับขี่ 3 รูปแบบ ได้แก่ โหมด Eco โหมด Normal และโหมด Sport รองรับการชาร์จแบบเร็วด้วยไฟกระแสตรง (DC 30% – 80%) ใช้เวลา 30 นาทีและการชาร์จไฟบ้านกระแสสลับแบบ AC 0-100% ใช้เวลา 7.15 ชม.

    สิ่งที่เหนือกว่า ORA Good Cat 500 ULTRA ตรงที่ การจ่ายกระแสไฟ V2L (Vehicle to Load) จ่ายพลังงานจากรถสู่อุปกรณ์ไฟฟ้าอื่น ด้วยกำลังสูงสุดถึง 2,200 วัตต์ โดยระยะเวลาในการชาร์จ ขึ้นอยู่กับระดับแบตเตอรี่คงเหลือและกำลังของเครื่องอัดประจุไฟฟ้า ซึ่งเท่ากับ BYD ATTO 3 ระบบพวงมาลัย Rack and Pinion ควบคุมด้วยไฟฟ้า (EPS) ที่มีรัศมีวงเลี้ยวแคบสุด 5.6 ม. ดิสก์เบรก 4 ล้อ พร้อมระบบช่วงล่างหน้า MacPherson Strut พร้อมเหล็กกันโคลง และระบบช่วงล่างหลัง Torsion Beam

    ความปลอดภัยจัดเต็มทั้งคู่

    BYDBYD ATTO 3 ให้ความปลอดภัยจัดเต็มทั้ง ถุงลมนิรภัย 7 จุด รอบคันติดตั้งในตำแหน่ง คู่หน้า ด้านข้าง ม่านนิรภัยและใต้เข่าคนขับ, แจ้งเตือนคาดเข็มขัดนิรภัยที่นั่งงคู่หน้า, ตรวจวัดแรงดันลมยาง (TPMS), จุดยึดเบาะนั่งเด็กแบบ ISOFIX, เบรกป้องกันล้อล็อก Anti-Lock Braking System (ABS), เบรกมือไฟฟ้า Electronic Parking Brake (EPB), ควบคุมความเร็วขณะลงทางลาดชัน Hill Descent Control (HDC), กล้องมองภาพรอบคัน 360 องศา, ป้องกันการไหลของรถโดยไม่ต้องเหยียบเบรก Auto Vehicle Hold (AVH)

    ควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน Adaptive Cruise Control พร้อมฟังก์ชัน Stop and Go (ACC-S&G), ช่วยเบรกอัตโนมัติ Automatic Emergency Braking (AEB), เตือนการชนด้านหน้า Forward Collision Warning (FCW), เตือนการชนด้านหลัง Rear Collision Warning (RCW), เตือนจุดอับสายตา Blind Spot Monitoring (BSD), เตือนก่อนเปิดประตู Door Open Warning (DOW), เตือนเมื่อรถออกนอกเลน Lane Departure Warning (LDW), ช่วยควบคุมรถให้อยู่ในช่องทางเดินรถ Lane Keeping Assist (LKA), เตือนขณะถอย Rear Cross Traffic Alert (RCTA) เตือนเมื่อมีรถผ่านในจุดอับสายตาขณะถอยหลัง Rear Cross Traffic Brake (RCTB) จุดยึดเบาะนั่งเด็กแบบ ISOFIX

    MG

    MG ZS EV รุ่น X ครบครันไม่แพ้กันแต่มากรุ่น ZS เครื่องยนต์สันดาปตั้งแต่ระบบช่วยเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติ AEB (Autonomous Emergency Braking) ช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลนพร้อมปรับองศาพวงมาลัยหากออกนอกเลน ELK (Emergency Lane Keeping System) ผสานรวมระบบ LDP (Lane Departure Prevention) กับ LKA (Lane Keep Assist) เข้าไว้ด้วยกัน

    ควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน ACC (Adaptive Cruise Control), เปิด-ปิดไฟสูงอัตโนมัติ IHC (Intelligent High-beam control), ควบคุมความเร็วอัตโนมัติเมื่อความเร็วต่ำ TJA (Traffic Jam Assist), ช่วยเตือนเมื่อเสี่ยงต่อการชนรถยนต์คันหน้าขณะขับขี่ FCW (Forward Collision Warning), ช่วยเตือนเมื่อรถออกนอกเลน LDW (Lane Departure Warning) ช่วยเตือนเมื่อต้องการเปลี่ยนเลน LCA (Lane Change Assist) ,ช่วยเตือนมุมอับสายตา BSD (Blind Spot Detection) และ ช่วยเตือนขณะถอยหลัง RCTA (Rear Cross Traffic Alert)

    ความปลอดภัยพื้นฐานตั้งแต่ โครงสร้างตัวถังนิรภัย FSF (Full Space Frame) จุดยึดเบาะนั่งเด็กแบบ ISOFIX ระบบล็อกประตูอัตโนมัติ Speed Sensing Door Lock) เข็มขัดนิรภัยคู่หน้าแบบดึงรั้งกลับ ถุงลมนิรภัยคู่หน้า ด้านข้างและม่านถุงลมนิรภัย รวม 6 จุด ระบบกุญแจนิรภัยแบบ Immobilizer และระบบไฟส่องนำทางหลังจากดับเครื่อง (Follow Me Home Light) เบรกมือไฟฟ้า EPB (Electronic Parking Brake) พร้อมป้องกันการไหลของรถโดยไม่ต้องเหยียบเบรกค้าง AVH (Auto Vehicle Hold) กล้องมองภาพรอบทิศทางแบบ 3 มิติ (3D Around View Monitor) พร้อมสัญญาณเตือนระยะถอยหลัง และ ระบบตรวจสอบความผิดปกติของลมยาง (TMPS)

    สีภายนอกและราคาตัวรถ

    BYDBYD ATTO 3 ขายรุ่นเดียวมาในราคาปกติ 1,459,000 บาท แต่ราคาพิเศษซึ่งเป็นราคาจากการสนันสนุนของภาครัฐฯ อยู่ที่ 1,199,900 บาท ส่วนต่าง 259,100 บาท มีทั้งหมด 5 สีได้แก่ สีฟ้า Lagoon, สีเขียว Emerald, สีเทา Graphite, สีแดง Solar และ สีขาว Frost

    MG

    MG ZS EV รุ่น X มาในราคาปกติ 1,269,000 บาท แต่ราคาพิเศษซึ่งเป็นราคาจากการสนันสนุนของภาครัฐฯ อยู่ที่ 1,023,000 บาท ส่วนต่าง 246,000 บาท พร้อมสีตัวถังทั้งหมด 5 สี ได้แก่ ได้แก่ สีน้ำเงิน (Como Blue) สีเงิน (Cosmic Silver) สีแดง (Scarlet Red) สีดำ (Black Knight) และสีขาว (Arctic White)

    ด้วยส่วนต่างของราคาทั้งสองยี่ห้อสองรุ่นอยู่ที่ 176,900 บาท เป็นราคาหลังหักส่วนลดของโครงการที่ภาครัฐออกมาทำให้ได้เห็นรถทั้งสองรุ่นถูกกว่าเดิม แต่ด้วยสถานการณ์โลกที่กำลังดำเนินอยู่ตั้งแต่สงครามรัสเซีย-ยูเครน ปัญหาชิปและเบตเตอรี่ที่ขาดแคลน ผนวกกับยอดจองล้นหลามของรถยนต์ไฟฟ้าบางยี่ห้อ

    BYD

    ลูกค้าที่จอง MG ZS EV ไปตั้งแต่งาน Bangkok Motor Show 2022 เริ่มทยอยส่งมอบกันไปและถ้าจองตั้งแต่เมษายนเป็นต้นไปจะรับรถช่วงปลายปีนี้ตามลำดับ ซึ่งก็ต้องดูกันว่ามีที่ไหนหลุดจองและรับรถเร็วสำหรับคนใจร้อนอยากได้รถทันทีทันใด แต่สำหรับ BYD ATTO 3 จะเปิดรับจอง ทดลองขับตั้งแต่ 1 พฤศจิกายน โดย BYD การันตีว่าส่งมอบรถได้ทันที 5,000 คันในปีนี้ งานนี้รักใครชอบใคร สัมผัสและทดลองขับเพื่อประกอบการตัดสินใจกันได้เต็มที่กับว่าที่รถยนต์คู่ใจคันใหม่ของคุณ

    ABOUT THE AUTHOR

    Latest Posts