More

    รีวิว! DFSK GLORY 560 เอสยูวี 7 ที่นั่งพลังเทอร์โบที่ราคาน่าคบ

    ถึงจะมาเงียบๆแต่ก็ได้รับการตอบรับดีสำหรับ DFSK หรือ DONGFENG ที่หวนกลับมาอีกครั้งท่ามกลางการแข่งขันที่ดุเดือด

    การกลับมาครั้งนี้ของ DFSK หรือ DONGFENG มาพร้อมการปรับเปลี่ยนรูปแบบการขายจากเดิมคุ้นเคยกับรถมินิทรั๊ค ขยายกลุ่มมาที่กลุ่มครอบครัวยุคใหม่ คนหนุ่มสาวที่มองหารถไว้ใช้งานในชีวิตประจำวันสักคันในราคาย่อมๆ โดยทาง อีวี ฮาลิโคนิก ไม่รอช้า ประเดิมตลาดด้วย DFSK GLORY i-AUTO เอสยูวีดีไซน์ทันสมัยในราคา 899,000 บาท และล่าสุดกับ DFSK GLORY 560 เอสยูวี ไซส์ใหญ่ พื้นที่จุสัมภาระกว้างนั่งได้ 7 ที่นั่งในราคารถซีดาน

    Design & Exterior

    DFSK

    หน้าตาเจ้า DFSK GLORY 560 ในร่าง B-SUV ที่ใหญ่กว่าเจ้าอื่นๆในพิกัดเดียวกัน แม้ว่าการออกแบบดีไซน์อาจนำรถยี่ห้ออื่นๆมาผสมผสานจนลงตัว เริ่มที่ด้านหน้ากับกระจังหน้าโครเมียมคาดยาวเป็นเส้นแนวนอนพร้อมโลโก้ DFSK ขนาดใหญ่ แบบ Sporty Wing โดยเฉพาะกระจังหน้าอาจคล้ายกับ Suzuki XL7 ประกบไฟหน้า Projector ที่รวมทั้งไฟเลี้ยวไฟหรี่และไฟสูงอยู่ในโคมเดียวกัน ชุดกันชนหน้าสีเดียวกับตัวรถเสริมเข้มด้วยช่องระบายอากาศสีดำ ขนาบข้างซ้าย-ขวา ด้วย ไฟ Daytime แบบ LED พร้อมไฟตัดหมอกหน้า ด้านข้างอาจมีคล้ายกับ Ford EcoSport โดยเฉพาะเส้นสายแนวนอนลากยาวไปตั้งแต่ประตูหน้าจนถึงเสา D ใต้เส้นสายแนวนอนมีที่เปิดประตูโครเมี่ยมมีปุ่มเล็กๆ Keyless Entry ตรงก้านที่เปิดประตูสองฝั่งสามารถล็อก-ปลดล็อกได้ที่ปุ่มเล็กๆหรือตัว กุญแจรีโมท Smart Key  กระจกมองข้างสีเดียวกับตัวรถปรับ-พับด้วยระบบไฟฟ้าพร้อมไฟเลี้ยวที่สามารถพับอัตโนมัติกรณีล็อกรถได้ กรอบโครเมี่ยมด้านล่างตรงประตูหน้า-หลังอัพความหรูขึ้นมาอีกระดับ ล้ออัลลอย 5 ก้านคู่ทรงสปอร์ตสีทูโทนขนาด 17 นิ้ว ดีไซน์คล้ายกับ Nissan X-Trail T32 พร้อมยางขนาด 215/60 R17 และราวหลังดีไซน์เล็กกะทัดรัด

    DFSK

    ด้านท้ายด้วยตัวกระจกท้ายที่มีขนาดค่อนข้างเล็กทำให้การมองเห็นด้านท้ายยังพอมีอยู่บ้าง ฝาท้ายดีไซน์ออกเหลี่ยมๆประดับด้วยไฟท้ายธรรมดาสีขาวแดงประกบ คิ้วตกแต่งป้ายทะเบียนท้ายแบบโครเมี่ยม เสาอากาศครีบฉลามตามสมัยนิยม เข้มกับกันชนท้ายสีด ใส่ไฟตัดหมอกหลังไว้เป็นออพชั่นมาตรฐาน พร้อม Parking Sensor หลัง 4 จุด ทำงานร่วมกับกล้องมองหลังที่คุณภาพกล้องพอไปวัดไปวาได้

    DFSK

    ถึงจะเป็นรถจีนแต่นำเข้ามาจากอินโดนีเซียทำให้มีความเชื่อมั่นในคุณภาพกับมิติตัวรถที่ใหญ่ตั้งแต่ความยาว 4,515 มม. ความกว้าง 1,815 มม. ความสูง 1,735มม. ระยะฐานล้อ 2,690 มม. ระยะความสูงใต้ท้องรถ 200 มม. น้ำหนักรถ 2,005 กก. ความจุถังน้ำมัน 50 ลิตร

    Interior & Convenience

    DFSK

    ภายในห้องโดยสารเป็นแบบ 3 ตอน 7 ที่นั่งใหญ่โอ่โถ่ง พอๆกับคู่แข่งระดับเดียวกันทั้ง Mitsubishi Xpander Cross Suzuki XL7 ด้วยเบาะนั่งคู่หน้าดีไซน์ที่โอบกระชับพร้อมหมอนพนักพิงศีรษะทรงใหญ่ออกแบบยื่นมาจนดันหัวไปบ้าง โดยฝั่งคนขับปรับสูง-ต่ำด้วยแมนนวล 6 ทิศทาง และคนนั่ง 4 ทิศทางหุ้มด้วยหนังสังเคราะห์ทั้งชิ้นสีดำเดินด้ายสีแดง มาถึงเบาะนั่งแถวที่สองที่สามารถปรับพับได้แบบ 40/60 รวมถึงเลื่อนหน้า-หลังเพื่อเพิ่มพื้นที่ในการวางขา แต่ด้วยตำแหน่งเบาะที่เซ็ตความสูงได้พอดีจึงมีพื้นที่เฮดรูมไว้พอสมควรและมีที่วางแก้วในชุดที่ท้าวแขนของเบาะตอนสอง การพับเบาะตอนสองนั้นมีความแปลกกว่าชาวบ้านเพราะเบาะฝั่ง 40 จะสามารถเลื่อนเข้าไปนั้งในเบาะแถวสามได้แต่เบาะฝั่ง 60 กลับทำไม่ได้ ซึ่งตรงนี้อยากให้สามารถปรับเลื่อนเข้าไปนั่งแถวสามได้สองฝั่งและการขึ้นลงกับไม่มีแผน่กันลื่นเข้ามาให้ ซึ่งตรงนี้ควรต้องมี ด้านเบาะแถวสามพับได้แบบ 50/50 แต่การนั่งนั้นเป็นธรรมเนียมของเบาะนั่งแถวนี้ที่นั่งได้แค่เด็กตัวเล็กๆ ผู้ใหญ่อย่างเราคงบ่นกันแน่ๆทั้งที่วางขาเล็กพื้นที่เฮดรูมติดหลังคา แต่สำหรับการบรรทุกของด้านท้ายมีพื้นใหญ่ ด้วยความยาว 1,810 มม. เมื่อพับเบาะตอนสองกับตอนสามแล้ว ความกว้าง 1,300 มม. ความสูง 760 มม.

    DFSK

    แผงคอนโซลหน้าออกแบบเข้มโทนสีดำใช้งานง่ายหยิบจับง่ายกับฟังก์ชั่นที่จัดวางอย่างเหมาะสม ด้วยมาตรวัดเรืองแสงสีน้ำเงินกับจอแสดงข้อมูลการขับขี่ MID พวงมาลัยหุ้มหนังมัลติฟังก์ชั่น 3 ก้าน ปรับสูง-ต่ำได้แต่เข้า-ออกนั้นกลับทำไม่ได้และไม่มี Cruise Control คอนโซลกลางมาพร้อมจอทัชสกรีนแบบ 8 นิ้ว แบบลอยตัว ความละเอียดชัดแบบ HD สามารถฟังเพลงเชื่อมต่อมือถือผ่าน Bluetooth เท่านั้น เชื่อมต่อแบบ Apple Car Play กับ Android Auto ยังเชื่อมต่อไม่ได้ ช่องแอร์ตรงกลางดีไซน์หกเหลี่ยมคล้ายกับ Mazda CX-5 ถัดลงมาเป็นแผงสวิตช์ควบคุมการทำงานของจอสัมผัสกับเครื่องปรับอากาศแยกการทำงานหน้า-หลังพร้อมช่องแอร์ด้านหลัง คันเกียร์ดีไซน์ก้านโตหุ้มหนัง และมีเบรกมือไฟฟ้าที่ไร้ Auto Hold เข้ามาช่วยแต่ยังใจดีให้กล่องคอนโซลกลางใส่ของได้จุใจ กับที่วางแก้วน้ำที่ใส่ได้สองช่อง กับออพชั่นที่คุ้นเคยทั้ง ปุ่ม Push Start กระจกไฟฟ้า 4 บาน โดยเฉพาะคนขับกดลงกดลง Auto แต่กดขึ้น Auto ไม่ได้ พร้อมเซ็นทรัลล็อกเมื่อรถเคลื่อนตัวในความเร็วเหมาะสมก็จะล็อกให้ทันที

    Engine & Transmission

    DFSKDFSK

    ขุมพลังที่มาประจำการใน B-SUV คันนี้ เป็นขุมพลังเดียวกันกับ DFSK GLORY i-AUTO ด้วยเครื่องยนต์เบนซินเทอร์โบชาร์จ 1.5 ลิตร รุ่น SFG15T กำลังสูงสุด 150 แรงม้าที่ 5,600 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 220 นิวตันเมตรที่ 1,800 – 4,000 รอบต่อนาที จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ CVT ขับเคลื่อนล้อหน้า ให้ค่า CO2 เพียง 190 กรัม/กม.

    เอสยูวี 7 ที่นั่งจากเมืองจีนคันนี้ให้กำลังความแรงที่ถือว่าพอตัว ตอบสนองค่อนข้างไว ด้วยความดีของพลัง Turbo ที่ให้แรงบิดมากถึง 220 นิวตันเมตร ที่มี Flat Torque ช่วงกว้างสามารถนำพารถหนัก 2 ตัน วิ่งฉิวไปอย่างสบายๆและไม่อืด แต่ว่าอัตราสิ้นเปลืองถึงจะไม่ได้วัดเพราะเราทดสอบกันสั้นๆ แต่ก็พอรับรู้การกินน้ำนันที่ค่อนข้างจะเอาเรื่องอยู่ ส่วนรอบของการทำงาน รอบเครื่องยนต์ในช่วงความเร็ว 90 -120 กม./ชม. ทำผลงานสูงสุดเกิน 2,000 รอบ/นาที ตั้งแต่ 1,700 1,900 2,100 และ 2,400 รอบ/นาที ตามลำดับ

    ระบบเกียร์ CVT ที่มาใส่ในรถคันนี้ให้ความต่อเนื่องในการเปลี่ยนเกียร์ค่อนข้างดีไม่กระตุกพร้อม Manual Mode +/- ที่สามารถใช้ได้ในตอนขึ้นลงทางชันก็ยังให้ความสมูท

    Handling & Ride

    DFSKด้วยความเป็นรถขับเคลื่อนล้อหน้า ทำให้มีความคล่องตัวเโดยความดีความชอบยกให้กับพวงมาลัยพาวเวอร์ไฟฟ้า EPS ที่น้ำหนักเบาในย่านความเร็วต่ำใช้ในเมืองแต่ว่าจะเพิ่มน้ำหนักขึ้นในช่วงความเร็วสูงตั้งแต่ 70 กม./ชม. สำหรับช่วงล่างหน้าเป็นระบบแม็คเฟอร์สันอิสระพร้อมเหล็กกันโคลง ส่วนด้านหลังเป็นแบบเทอร์ชอนบีมพร้อมเหล็กกันโคลง เซ็ตมาแบบแข็งหน่อยๆมีความนุ่มนวลบ้างแต่โดยรวมถือว่าอยู่ในเกณฑ์ที่รับได้ ส่วนระบบเบรกที่มีดิสก์เบรก 4 ล้อการทำงาน ต้องมีน้ำหนักในการกดแป้นมากขึ้นถึง 40 % รถจะหยุดทันที ระยะการเบรกอาจยาวไปหน่อยถ้ากดแป้นตั้งแต่ 10-30 % อาจไม่กระชับเท่าไหร่ เพราะตัวรถหนักราว 2 ตันต้นๆ

    Safety & Feature

    DFSK

    DFSK GLORY 560 ภายใต้คอนเซ็ปท์ FAMILY B-SUV ให้ระบบความปลอดภัยพื้นฐานที่คู่แข่งระเดียวกันมีให้ไม่ว่าจะเป็น ระบบช่วยเบรคอิเล็กทรอนิกส์ (EBA) ควบคุมการลื่นไถล (TCS) ควบคุมการทรงตัวของรถ (ESP) ป้องกันการไหลทางลาดชัน (HHC) เซ็นเซอร์จอดรถพร้อมกล้องมองหลัง ถุงลมนิรภัยคู่หน้า เบรก ABS + กระจายแรงเบรก EBD ดิสก์เบรก 4 ล้อ ตัดสตาร์ทพร้อมเสียงเตือนภัยเมื่อถูกจารกรรม และระบบปลดล็อคอัตโนมัติกรณีเกิดการปะทะเป็นต้น

    Verdict

    DFSK

    ถึงจะเป็นน้องใหม่ที่กลับมาทำตลาดอีกครั้ง DFSK หรือ DONGFENG แต่มาครั้งนี้วางตำแหน่งเป็น New Normal SUV – ชีวิตวิถีใหม่ที่ใช่สำหรับคุณทางเลือกที่เหมาะสมที่สุดกับการใช้รถ ด้วยราคาที่จับต้องได้ และใครๆก็ใช้ได้ หน้าตาภายนอกดูดีรับได้ ถึงแม้จะยำงานดีไซน์ของค่ายอื่นมารวมกัน หลังคารถที่สูงช่วยให้การมองเห็นได้ชัดเจนขึ้น การเก็บเสียงที่ทำดีในเกณฑ์ปานกลางถึงแม้ตอนเร่งแซงได้ยินเสียงการทำงานเทอร์โบที่ดังมาก แม้กระทั่งชุดมาตรวัดไม่มีบอกอัตราสิ้นเปลืองน้ำมัน, ไม่มี Cruise Control, กระจกไฟฟ้า ขึ้นลง auto, ลำโพง 6 ตัวที่ดันเสียงแตกฝั่งคนขับ แต่ยังสบายด้วยเบาะนั่ง 7 ที่นั่ง โอ่โถงโล่งไม่แพ้คู่แข่ง กับพลัง Turbo ที่แรงเอาเรื่องและกินน้ำมันเอาเรื่องไม่แพ้กันตามประสาเครื่องมีหอยด้วยค่าตัวช่วงแนะนำ 749,000 บาท (ปรับขึ้นเป็น 789,000 บาท ในภายหลัง)  แถมให้แพกเกจ บำรุงรักษาฟรี 5 ปี หรือ 100,000 กิโลเมตร แบบหายห่วงขับขี่ใช้รถได้อย่างไร้กังวล กับ DFSK GLORY 560

    ขอขอบคุณ บริษัท อีวี ฮาลิโคนิก จำกัด  ที่ให้ความอนุเคราะห์รถยนต์ DFSK GLORY 560 มารีวิวครั้งนี้

    ABOUT THE AUTHOR

    Latest Posts