More

    พิษไฟแนนซ์ฉุดตลาดรถ Q1 ปี 67 ลดลง 24.6% รวม 1.6 แสนคัน

    เศรษฐกิจชะลอตัว กำลังซื้อยังคงจำกัด ความเข้มงวดในการปล่อยสินเชื่อฉุดตลาดรถยนต์ไตรมาสที่หนึ่งของปี 2567 ลดลง 24.6% รวม 163,756 คัน

    ประกอบด้วย รถยนต์นั่ง 65,615 คัน ลดลง 15.4% รถยนต์เพื่อการพาณิชย์ 98,141 คัน ลดลง 29.7% และรถกระบะขนาด 1 ตัน มียอดขายที่ 56,425 คัน ลดลง 44.4%

    ในส่วนของเดือนมีนาคม 2567 ด้วยยอดขายรวม 56,099 คัน ลดลง 29.8% ประกอบด้วย รถยนต์นั่ง 22,342 คัน ลดลง 25.1% รถยนต์เพื่อการพาณิชย์ 33,757 คัน ลดลง 32.6% และรถกระบะขนาด 1 ตัน มียอดขายที่ 19,648 คัน ลดลง 45.5%

    ช่วงเดือน มีนาคม 2567 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมาซึ่งยอดขายที่ลดลง เป็นผลมาจากการชะลอตัวอย่างต่อเนื่องของภาคเศรษฐกิจโดยรวม ส่งผลให้กำลังซื้อยังคงจำกัด และควบคู่ไปกับความเข้มงวดในการปล่อยสินเชื่อของสถาบันการเงิน

    ทั้งนี้ ตลาดรถยนต์นั่ง มีอัตราการเติบโตลดลงที่ 25.1% และตลาดรถยนต์เพื่อการพาณิชย์ มีอัตราการเติบโตลดลงที่ 32.6% เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว

    ในขณะเดียวกัน HEV มียอดขาย 12,689 คัน เพิ่มขึ้น 68.9% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว ดันตลาด xEV เดือนมีนาคมเติบโตขึ้น 19.5% ในส่วนของ BEV​ ยอดขายเดือนมีนาคมอยู่ที่ 5,167 คัน ลดลง 25.6%* และ PHEV ยอดขาย 897 ลดลง 27.1%*

    *เทียบกับเดือนเดียวกันปีที่แล้ว

    BIMS​​ตลาดรถยนต์ในเดือนเมษายนมีแนวโน้มที่จะดีขึ้น เนื่องจากกระแสการท่องเที่ยวในประเทศมีแนวโน้มดีขึ้น จากช่วงเทศกาลสงกรานต์ สามารถเพิ่มเม็ดเงินหมุนเวียนภายในประเทศ และถือเป็นหนึ่งในปัจจัยบวกต่อเศรษฐกิจในภาพรวม และรวมถึงการเริ่มส่งมอบรถยนต์ใหม่ที่จองในงาน บางกอก มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 45 เป็นปัจจัยบวกและเริ่มส่งผลดีต่อตลาดรถยนต์

    ปริมาณการจำหน่ายรถยนต์ เดือนมีนาคม 2567

    Toyota

    1. ตลาดรถยนต์รวม ปริมาณการขาย 56,099 คัน ลดลง 29.8%

    อันดับที่ 1 โตโยต้า ​21,582​ คัน​   ลดลง​ 16.1% ​ส่วนแบ่งตลาด 38.5%

    อันดับที่ 2 อีซูซุ​​         8,861​คัน   ลดลง ​48.3 %​ ส่วนแบ่งตลาด 15.8%

    อันดับที่ 3 ฮอนด้า     ​8,219​ คัน  ลดลง ​19.3% ​ส่วนแบ่งตลาด 14.7%

    อันดับที่ 4 มิตซูบิชิ     3,012 คัน ลดลง   26.0%  ส่วนแบ่งตลาด 5.4%

    อันดับที่ 5 ฟอร์ด        1,745 คัน ลดลง   57.2%  ส่วนแบ่งตลาด 3.1%

    BYD

    1. ตลาดรถยนต์นั่ง ปริมาณการขาย 22,342 คัน ลดลง 25.1%

    อันดับที่ 1 โตโยต้า​ 6,606​ คัน​   ลดลง ​33.6% ​ส่วนแบ่งตลาด 29.6%

    อันดับที่ 2 ฮอนด้า​  4,869​ คัน ​  ลดลง ​31% ​ส่วนแบ่งตลาด 21.8%

    อันดับที่ 3 มิตซูบิชิ​  2,039 ​คัน   ​เพิ่มขึ้น​ 14% ​ส่วนแบ่งตลาด 9.1%

    อันดับที่ 4 เอ็มจี     1,393 คัน   เพิ่มขึ้น​ 19.1% ​ส่วนแบ่งตลาด 6.2%

    อันดับที่ 5 ซูซูกิ        932 คัน   ลดลง​ 14.4% ​ส่วนแบ่งตลาด 4.2%

    Toyota

    3. ตลาดรถเพื่อการพาณิชย์ ปริมาณการขาย 33,757 คัน ลดลง 32.6%

    อันดับที่ 1 โตโยต้า ​14,976 คัน ​  ลดลง ​5% ​ส่วนแบ่งตลาด 44.4%

    อันดับที่ 2 อีซูซุ​​        8,861 คัน​    ลดลง ​48.3% ​ส่วนแบ่งตลาด 26.2%

    อันดับที่ 3 ฮอนด้า​    3,350 คัน​   เพิ่มขึ้น ​7% ​ส่วนแบ่งตลาด 9.9%

    อันดับที่ 4 ฟอร์ด      1,744 คัน   ลดลง 57.2%  ส่วนแบ่งตลาด 5.2%

    อันดับที่ 5 มิตซูบิชิ      973 คัน    ลดลง 57.4%  ส่วนแบ่งตลาด 2.9%

    ISUZU

    1. ตลาดรถกระบะขนาด 1 ตัน (Pure Pick up และรถกระบะดัดแปลง PPV*) ปริมาณการขาย 19,648 คัน ลดลง 45.5%

    อันดับที่ 1 โตโยต้า ​8,629 คัน​   ลดลง ​34.1% ​ส่วนแบ่งตลาด 43.9%

    อันดับที่ 2 อีซูซุ       ​​7,865 คัน​ ลดลง​ 50.4% ​ส่วนแบ่งตลาด 40%

    อันดับที่ 3 ฟอร์ด ​    1,744 คัน​ ลดลง ​57.2% ​ส่วนแบ่งตลาด8.9%

    อันดับที่ 4 มิตซูบิชิ      972 คัน ลดลง 57.2%  ส่วนแบ่งตลาด 4.9%

    อันดับที่ 5 นิสสัน        325 คัน ลดลง 42.8%  ส่วนแบ่งตลาด 1.7%

    *ปริมาณการขายรถกระบะดัดแปลง (PPV) ปริมาณการขาย 3,436 คัน ลดลง 46.7%

    อันดับที่ 1 โตโยต้า 1,262 คัน​   ลดลง ​46.1% ​ส่วนแบ่งตลาด 36.7%

    อันดับที่ 2 อีซูซุ ​​      1,160 คัน​  ลดลง​ 50.0% ​ส่วนแบ่งตลาด 33.8%

    อันดับที่ 3 ฟอร์ด         ​682 คัน​ ลดลง 42.4% ​ส่วนแบ่งตลาด19.8%

    อันดับที่ 4 มิตซูบิชิ  298 คัน    ลดลง 35.9%  ส่วนแบ่งตลาด 8.7%

    อันดับที่ 5 นิสสัน      34 คัน     ลดลง 74%  ส่วนแบ่งตลาด 1.0%

    Ford

    1. ตลาดรถกระบะ Pure Pick up ปริมาณการขาย 16,212 คัน ลดลง 45.3%

    อันดับที่ 1 โตโยต้า​ 7,367 คัน​  ลดลง ​31.5% ​ส่วนแบ่งตลาด 45.4%

    อันดับที่ 2 อีซูซุ​​       6,705 คัน​ ลดลง​ 50.4%​ ส่วนแบ่งตลาด 41.4%

    อันดับที่ 3 ฟอร์ด​     1,062 คัน ลดลง ​63.3% ​ส่วนแบ่งตลาด 6.6%

    อันดับที่ 4 มิตซูบิชิ      674 คัน ลดลง 62.7%  ส่วนแบ่งตลาด 4.2%

    อันดับที่ 5 นิสสัน         291 คัน ลดลง 33.4%  ส่วนแบ่งตลาด 1.8%

     

    สถิติการจำหน่ายรถยนต์เดือนมกราคม – มีนาคม 2567

    Honda

    1. ตลาดรถยนต์รวม ปริมาณการขาย 163,756 คัน ลดลง 24.6%

    อันดับที่ 1 โตโยต้า ​58,810 คัน ​ลดลง 21.7% ​ส่วนแบ่งตลาด 35.9%

    อันดับที่ 2 ฮอนด้า ​25,104 ​คัน ​ลดลง ​3.3%​  ส่วนแบ่งตลาด 15.3%

    อันดับที่ 3 อีซูซุ​    24,444 ​คัน ลดลง 48.2% ​ส่วนแบ่งตลาด 14.9%

    อันดับที่ 4 บีวายดี  10,047 คัน เพิ่มขึ้น 81.3%  ส่วนแบ่งตลาด 6.1%

    อันดับที่ 5 มิตซูบิชิ    7,587 คัน ลดลง   30.8%  ส่วนแบ่งตลาด 4.6%

    MG

    1. ตลาดรถยนต์นั่ง ปริมาณการขาย 65,615คัน ลดลง 15.4%

    อันดับที่ 1 โตโยต้า​ 16,631 คัน ​ลดลง 40.8% ​ส่วนแบ่งตลาด 25.3%

    อันดับที่ 2 ฮอนด้า ​14,198 ​คัน ​ลดลง 20.2% ​ส่วนแบ่งตลาด 21.6%

    อันดับที่ 3 บีวายดี   7,975 คัน ส่วนแบ่งตลาด  12.2%

    อันดับที่ 4 มิตซูบิชิ   4,954 คัน​ ลดลง 5.1% ​ส่วนแบ่งตลาด 7.6%

    อันดับที่ 5 เอ็มจี       3,830 คัน ลดลง   3.7%   ส่วนแบ่งตลาด  5.8%

    Mitsubishi

    1. ตลาดรถเพื่อการพาณิชย์ ปริมาณการขาย 98,141 คัน ลดลง 29.7%

    อันดับที่ 1 โตโยต้า​ 42,179 คัน​ ลดลง 10.3% ​ส่วนแบ่งตลาด 43%

    อันดับที่ 2 อีซูซุ​ ​       24,444 คัน​ ลดลง 48.2% ​ส่วนแบ่งตลาด 24.9%

    อันดับที่ 3 ฮอนด้า      ​10,906 คัน​เพิ่มขึ้น 33.4% ​ส่วนแบ่งตลาด 11.1%

    อันดับที่ 4 ฟอร์ด          5,931 คัน  ลดลง 46.3 %  ส่วนแบ่งตลาด 6.0%

    อันดับที่ 5 มิตซูบิชิ        2,633 คัน​ ลดลง 54.2% ​ส่วนแบ่งตลาด 2.7%

    Nissan

    1. ตลาดรถกระบะขนาด 1 ตัน (Pure Pick up และรถกระบะดัดแปลง PPV*) ปริมาณการขาย 56,425 คัน ลดลง 44.4%

    อันดับที่ 1 โตโยต้า​ 25,248 คัน ​ลดลง 35.7%​ส่วนแบ่งตลาด 44.7%

    อันดับที่ 2 อีซูซุ​​       21,481 คัน ​ลดลง 50.6% ​ส่วนแบ่งตลาด38.1%

    อันดับที่ 3 ฟอร์ด​      5,931 คัน​ ลดลง 46.3%​ส่วนแบ่งตลาด 10.5%

    อันดับที่ 4 มิตซูบิชิ   2,624 คัน ลดลง 54.1%  ส่วนแบ่งตลาด 4.7%

    อันดับที่ 5 นิสสัน         872 คัน ลดลง 34.7%  ส่วนแบ่งตลาด 1.5%

    *ปริมาณการขายรถกระบะดัดแปลง (PPV) ปริมาณการขาย 9,814 คัน ลดลง 46.2%

    อันดับที่ 1 โตโยต้า 3,648 คัน​   ลดลง 45.8% ​ส่วนแบ่งตลาด 37.2%

    อันดับที่ 2 อีซูซุ ​​      3,168 คัน​  ลดลง​ 48.9% ​ส่วนแบ่งตลาด 32.3%

    อันดับที่ 3 ฟอร์ด      2,139 คัน​ ลดลง 39.9% ​ส่วนแบ่งตลาด 21.8%

    อันดับที่ 4 มิตซูบิชิ       732 คัน  ลดลง 47.7%  ส่วนแบ่งตลาด 7.5%

    อันดับที่ 5 นิสสัน          127 คัน  ลดลง 63.3%  ส่วนแบ่งตลาด 1.0%

    BYD

    1. ตลาดรถกระบะ Pure Pick up ปริมาณการขาย 46,611 คัน ลดลง 44%

    อันดับที่ 1 โตโยต้า​ 21,600 คัน ​ลดลง 33.6% ​ส่วนแบ่งตลาด 46.3%

    อันดับที่ 2 อีซูซุ​ ​      18,313 คัน​ ลดลง 50.9%​ ส่วนแบ่งตลาด 39.3%

    อันดับที่ 3 ฟอร์ด​        3,792​ คัน ​ลดลง 49.3% ​ส่วนแบ่งตลาด 8.1%

    อันดับที่ 4 มิตซูบิชิ       1,892 คัน  ลดลง 56.3% ส่วนแบ่งตลาด 4.1%

    อันดับที่ 5 นิสสัน          745 คัน  ลดลง 24.7%  ส่วนแบ่งตลาด 1.6%

     

    ABOUT THE AUTHOR

    Latest Posts