More

    Honda Civic e:HEV เก๋งฟูลไฮบริดเปิดที่ไทยที่แรกของโลกขายจริงมิถุนายนนี้

    Honda เลือกไทยเป็นที่แรกของโลกเปิดตัว Honda Civic e:HEV ที่มาพร้อมขุมพลังฟูลไฮบริดในร่างสปอร์ตพรีเมียมซีดาน

    Honda

    Honda Civic e:HEV ยนตรกรรมสปอร์ตพรีเมียมซีดานมาพร้อมกับเทคโนโลยีการขับเคลื่อนขุมพลังฟูลไฮบริดที่จะมาขับเคลื่อนกลุ่มรถยนต์คอมแพคท์ให้ก้าวล้ำไปอีกขั้น พร้อมตอบสนองการขับขี่ในชีวิตประจำวันด้วยดีไซน์สปอร์ต โฉบเฉี่ยว และหรูหรามากยิ่งขึ้นชัดเจนด้วยโลโก้ H Mark ตกแต่งกรอบสีฟ้า และสัญลักษณ์ e:HEV ที่ด้านท้าย โดดเด่นด้วยกระจังหน้าและกันชนหน้าสไตล์สปอร์ต และมือจับประตูด้านนอกสีเดียวกับตัวรถตกแต่งด้วยโครเมียม ไฟหน้า Projector ตกแต่งด้วยโครเมียมพร้อมไฟ Daytime แบบ LED ไฟตัดหมอกคู่หน้าและไฟท้ายแบบ LED สไตล์เอกลักษณ์เฉพาะตัว เสาอากาศแบบครีบฉลาม และล้ออัลลอยขนาด 17 นิ้วสีใหม่พร้อมยาง 215/50R17

    ยกระดับความสปอร์ตพรีเมียมในรุ่น e:HEV RS ด้วยดีไซน์สุดเอกซ์คลูซีฟรอบคัน  โดดเด่นด้วยกระจังหน้าตกแต่งด้วยโครเมียม และกันชนหน้าดีไซน์สปอร์ต พร้อมสัญลักษณ์ RS ไฟหน้า LED ตกแต่งด้วยโครเมียมพร้อมไฟส่องสว่างสำหรับการขับขี่ในเวลากลางวันแบบ LED ไฟตัดหมอกคู่หน้าและไฟท้ายแบบ LED  กระจกมองข้างสีดำ มือจับประตูด้านนอกสีดำตกแต่งด้วยโครเมียม เสาอากาศแบบครีบฉลามสีดำ สปอยเลอร์หลังสีดำพร้อมสัญลักษณ์ RS ด้านท้าย และล้ออัลลอยดีไซน์ใหม่ ขนาด 18 นิ้ว พร้อมยาง 235/40ZR18

    Honda

    ภายในห้องโดยสารสะท้อนความสปอร์ตพรีเมียม ด้วยเบาะหนังกลับและวัสดุสังเคราะห์ตกแต่งด้วยด้ายสีแดง แป้นเหยียบคันเร่งและเบรกแบบสปอร์ตภายในห้องโดยสารกว้างขวาง เบาะนั่งด้านหลังแยกพับแบบ 60:40 เพื่อเพิ่มพื้นที่สัมภาระ พร้อมเทคโนโลยีอำนวยความสะดวกล้ำสมัยที่จะเชื่อมต่อคุณและรถยนต์ให้เป็นหนึ่งเดียวด้วยฟังก์ชันและเทคโนโลยีที่หลากหลาย* สำหรับรุ่น e:HEV RS  อาทิ ระบบควบคุมประตูแบบอัจฉริยะพร้อม Honda Smart Key Card ดีไซน์เรียบหรู พกพาสะดวก ให้คุณล็อกและปลดล็อกรถได้อย่างสะดวกสบาย เพียงแค่พกการ์ดไว้กับตัว มาตรวัดพร้อมหน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่แบบ TFT ขนาด 10.2 นิ้ว ระบบเครื่องเสียงหน้าจอสัมผัสขนาด 9 นิ้ว แบบ Advanced Touch รองรับการเชื่อมต่อ Apple CarPlay แบบไร้สาย และ Android Auto พร้อมระบบสั่งการด้วยเสียง Siri อุปกรณ์ชาร์จไฟแบบไร้สาย (Wireless Charger) ระบบสตาร์ทเครื่องยนต์พร้อมเครื่องปรับอากาศด้วยกุญแจรีโมท ระบบปรับอากาศอัตโนมัติแบบปรับอุณหภูมิแยกอิสระซ้าย-ขวา ช่องปรับอากาศและช่องเชื่อมต่อ USB 2 ตำแหน่งสำหรับผู้โดยสารตอนหลัง และ Honda CONNECT เทคโนโลยีเชื่อมต่อรถยนต์ที่ทำงานผ่านแอปพลิเคชันบนสมาร์ตโฟน เป็นต้น

    สำหรับรุ่น e:HEV EL+ อาทิ มาตรวัดพร้อมหน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่แบบ TFT ขนาด 7 นิ้ว ระบบเครื่องเสียงหน้าจอสัมผัสขนาด 9 นิ้ว แบบ Advanced Touch รองรับการเชื่อมต่อ Apple CarPlay แบบไร้สายและ Android Auto พร้อมระบบสั่งการด้วยเสียง Siri ระบบสตาร์ทเครื่องยนต์พร้อมเครื่องปรับอากาศด้วยกุญแจรีโมท ระบบปรับอากาศอัตโนมัติ เป็นต้น

    Honda

    มาพร้อมขุมพลังขับเคลื่อนแบบฟูลไฮบริด e:HEV คาดว่ายกชุดมาจากเก๋งรุ่นพี่ Honda Accord e:HEV ด้วยรหัส LFB1 พร้อมระบบ i-MMD (Sport Hybrid Intelligent Multi Mode Drive) 2.0 ลิตร Direct Injection Atkinson-Cycle 145 แรงม้าที่ 6,200 รอบ/นาที แรงบิด 175 นิวตันเมตรที่ 3,500 รอบ/นาที ในภาคเครื่องยนต์ จับคู่กับมอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัว ให้กำลัง 184 แรงม้าที่ 5,000-6,000 รอบ/นาที แรงบิด 315 นิวตันเมตรที่ 0-2,000 รอบ/นาที และแบตเตอรี่ลิเธียม-ไอออน ให้กำลังสูงสุดทั้งระบบได้ถึง 215 แรงม้า​ แต่เมื่อมาในร่าง​ Civic​ แล้วอาจลดเหลือ​ 184​ แรงม้า​ แรงบิด​ 315​ นิวตันเมตร​ ตามสเปคยุโรปที่เปิดไปตั้งแต่วันที่​ 23​ มีนาคม พร้อมด้วยเกียร์อัตโนมัติอัตราทดแปรผันต่อเนื่องไฟฟ้า (E-CVT) สามารถปรับเปลี่ยนโหมดการขับขี่ได้อย่างชาญฉลาด เหมาะสมกับการขับขี่ในทุกสถานการณ์ โดยมีทั้งหมด 3 โหมด ได้แก่ โหมดการขับขี่ด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า (EV Drive Mode) โหมดการขับขี่ด้วยระบบไฮบริด (Hybrid Drive Mode) และโหมดการขับขี่ด้วยเครื่องยนต์ (Engine Drive Mode)

    Honda

    พร้อมการขับขี่ที่เลือกได้ตามสไตล์ 3 โหมด ได้แก่ ECON Mode – โหมดการขับขี่แบบประหยัด พร้อมปรับการทำงานของเครื่องยนต์ให้สัมพันธ์กับการ ขับขี่เพื่ออัตราการประหยัดเชื้อเพลิงมากขึ้น Normal Mode – โหมดการขับขี่แบบปกติ สำหรับการขับขี่ใช้งานโดยทั่วไป เพิ่มเติมด้วย Sport Mode – โหมดการขับขี่แบบสปอร์ต ที่การทำงานของเครื่องยนต์ตอบสนองการเร่งได้ดียิ่งขึ้นเพื่อการขับขี่ที่สนุกเร้าใจ

    Honda

    มาพร้อมเทคโนโลยีความปลอดภัยอัจฉริยะ Honda SENSING ทำงานผ่านกล้องมุมมองกว้างด้านหน้า ช่วยตรวจจับรถยนต์และคนเดินถนนได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยมีการทำงานหลัก ๆ ดังนี้ ระบบเตือนการชนพร้อมระบบช่วยเบรก (Collision Mitigation Braking System: CMBS) ควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน พร้อมระบบปรับความเร็วตามรถยนต์คันหน้าที่ความเร็วต่ำ (Adaptive Cruise Control with Low-Speed Follow: ACC with LSF) ช่วยควบคุมรถให้อยู่ในช่องทางเดินรถ (Lane Keeping Assist System: LKAS) เตือนและช่วยควบคุมเมื่อรถออกนอกช่องทางเดินรถ (Road Departure Mitigation System with Lane Departure Warning: RDM with LDW) ปรับไฟสูงอัตโนมัติ (Auto High-Beam: AHB) เตือนเมื่อรถคันหน้าเคลื่อนที่ (Lead Car Departure Notification System: LCDN)

    Honda

    พร้อมด้วยเทคโนโลยีเพื่อความปลอดภัยล้ำสมัย อาทิ ระบบแสดงภาพมุมอับสายตาขณะเปลี่ยนเลน (Honda LaneWatch) ระบบช่วยเตือนความเหนื่อยล้าขณะขับขี่ (Driver Attention Monitor) กล้องส่องภาพด้านหลังปรับมุมมอง 3 ระดับ (Multi-angle Rearview Camera) เบรกมือไฟฟ้า (Electric Parking Brake) และ Auto Brake Hold ระบบล็อกรถอัตโนมัติเมื่อกุญแจรีโมทอยู่ห่างจากตัวรถ (Walk Away Auto Lock) เตือนคาดเข็มขัดนิรภัยผู้โดยสารด้านหน้า พร้อมเตือนผู้โดยสารด้านหลัง (Front Passenger and Rear Seat Belt Reminder) และไฟเตือนเบาะนั่งด้านหลัง (Rear Seat Reminder) เป็นต้น

    Honda

    Honda Civic e:HEV ใหม่ มีสีภายนอกให้เลือกทั้งหมด 6 สี ได้แก่ สีแดงอิกไนต์ (เมทัลลิก) เฉพาะรุ่น e:HEV RS สีดำคริสตัล (มุก) สีขาวแพลทินัม (มุก) สีเทาเมทิเออรอยด์ (เมทัลลิก) สีเงินลูนาร์ (เมทัลลิก) และสีฟ้ามอร์นิงมิสต์ (เมทัลลิก) เฉพาะรุ่น e:HEV EL+ และสีภายใน มีทั้งหมด 2 สี ได้แก่ สีดำ และสีเทาเบจ ซึ่งขึ้นอยู่กับสีภายนอก โดยรุ่น e:HEV RS สีภายในจะเป็นสีดำเท่านั้น โดยราคาจำหน่ายประมาณการ ดังนี้

    • รุ่น e:HEV RS ราคาประมาณการไม่เกิน 1,270,000 บาท
    • รุ่น e:HEV EL+ ราคาประมาณการไม่เกิน 1,150,000 บาท

    สัมผัส Honda Civic e:HEV ใหม่ ได้ที่บูทฮอนด้า ในงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 43 อาคารชาเลนเจอร์ อิมแพ็ค เมืองทองธานี ตั้งแต่วันที่ 24 มีนาคม – 3 เมษายน  โดยสามารถจองสิทธิ์ได้ในงานหรือที่โชว์รูมทั่วประเทศ ตั้งแต่วันที่ 24 มีนาคม -31 พฤษภาคม  โดยจะทำการเปิดตัวและจำหน่ายอย่างเป็นทางการในเดือนมิถุนายน นี้

     

    ABOUT THE AUTHOR

    Latest Posts