More

    2022 Mercedes-Benz C-Class จากหรูใหญ่ S-Class สู่หรูเล็กเจนใหม่ เข้าไทยปีหน้า

    เปิดตัวที่ต่างประเทศไปแล้วสำหรับ Mercedes-Benz C-Class เก๋งหรูเจเนอเรชั่นที่ 6 ที่มีแผนจะเปิดตัวในประเทศไทยอย่างเป็นทางการ

    โดยการเปิดตัวนั้นจะเปิดตัวในช่วงปลายปีนี้ แต่ด้วยเหตุผลบางประกาศจึงต้องเลื่อนเปิดตัวไปเป็นปีหน้าจากข้อมูลที่ทาง ฐานเศรษฐกิจได้แจ้งเอาไว้ แต่ยังไง Mercedes-Benz C-Class เจนใหม่นี้จะเปิดตัวในรูปแบบรถประกอบในประเทศไทยแน่นอนสำหรับแบรนด์รถหรูจากเยอรมนี ใหม่หมดโฉบเฉี่ยวมากขึ้นคล้ายพี่ใหญ่รุ่น S-Class เมื่อมองจากภายนอก อาจจะเห็นว่าด้านหน้ามีการปรับโฉมใหม่ต่างจากเจเนเรชั่นก่อน พร้อมเอกลักาณ์เด่นไม่ว่าจะเป็น กระจังหน้า diamond-pattern grille เส้นตัดแบ่งเส้นเดียวอันเป็นเอกลักษณ์ประกบกับไฟหน้าแบบ Digital Light LED ปรับโคมไฟให้เล็กและเรียวขึ้นพร้อมความสว่างที่กว้างไกลกว่าเดิม ชุดกันขนหน้าดีไซน์เน้นความสปอร์ต ด้านหลังดีไซน์ไฟท้าย LED ที่สวยงามพร้อมกันชนหลังดีไซน์เท่ กรอบท่อไอเสียคู่ 2 ฝั่ง พร้อมล้ออัลลอยขนาดใหญ่ที่มีหลายแบบตั้งแต่ 17-19 นิ้ว

    ภายในจะมีพื้นที่กว้างกว่ารุ่นก่อนๆ เนื่องจากฐานล้อได้ขยายออกไป 25 มม. เป็น 2,865 มม. จะมีความยาวกว่ารุ่นก่อน 65 มม. และกว้างกว่า 10 มม. ทำให้ห้องโดยสารมีพื้นที่ด้านบน ด้านข้าง มากขึ้น ด้านหลังความจุที่เก็บของไม่ได้เปลี่ยนไป แบบ 455 ลิตร แถมความสง่างามถอดแบบจากรุ่นพี่ S-Class เช่นกัน ไม่ว่าจะเป็น มาตรวัดดิจิทัลขนาดใหญ่ 12.3 นิ้ว พร้อมพวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่น 3 ก้าน คอนโซลกลางแบบจอสัมผัสแนวตั้งขนาดใหญ่ OLED 11.9 นิ้ว รวมการทำงานของเครื่องปรับอากาศแยกอุณหภูมิ กับระบบความบันเทิง MBUX (Mercedes-Benz User Experience) เอาไว้ด้วยกัน พร้อมระบบสั่งงานด้วยเสียงพร้อมคำทักทายสุดเก๋กับคำว่า “Hey Mercedes” กับเบาะหนังแท้คุณภาพ และไฟสร้างบรรยากาศ Ambient Lights

    สำหรับเมืองไทยแน่นอนว่าจะจำหน่าย 2 ขุมพลังหลักทั้งเครื่องยนต์ดีเซลเทอร์โบ 2.0 ลิตร OM654 M พัฒนาใหม่พร้อมระบบ Mild Hybrid สร้างและจ่ายไฟฟ้าเพื่อเลี้ยงระบบไฟฟ้าของรถที่ใช้แรงดันไฟฟ้า 48 โวลต์ได้ โดยเป็นระบบมอเตอร์ไฟฟ้าแบบพิเศษพร้อม EQ Boost ให้กำลังถึง 20 แรงม้า แรงบิด 200 นิวตันเมตร และให้กำลังมากถึง 200 แรงม้าที่ 4,200 รอบ/นาที แรงบิด 440 นิวตันเมตรที่ 1,800-2,800 รอบ/นาที หรืออาจจะใช้รหัสเดิม OM654 2.0 ลิตร 194 แรงม้าที่ 3,800 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 400 นิวตันเมตรที่ 1,600-2,800 รอบ/นาที สำหรับรุ่น C 220 d

    ส่วนเครื่องยนต์เบนซินเทอร์โบนั้น ยังเป็นขนาด 2.0 ลิตร รหัส M274 DE 20 AL 4 สูบ 211 แรงม้าที่ 5,500 รอบ/นาที แรงบิด 350 นิวตันเมตร ที่ 1,200-4,000 รอบ/นาที ทำงานคู่กับมอเตอร์ไฟฟ้าเพิ่มพลังถึง 122 แรงม้า แรงบิด 440 นิวตันเมตร เมื่อทำงานร่วมกันจะแรงม้าสูงสุด 320 แรงม้าที่ 4,500-5,500 รอบ/นาที แรงบิดสูงถึง 700 นิวตันเมตร กับแบตเตอรี่ลิเธียม-ไอออนที่มีขนาดความจุ 13.5 kWh หรืออาจเป็นรหัสใหม่ M254 2.0 ลิตร 200 แรงม้า ให้แรงบิดสูง 320 นิวตันเมตร จับคู่กับมอเตอร์ไฟฟ้า ให้กำลัง 129 แรงม้า ทำแรงบิดสูงสุด 440 นิวตันเมตร พร้อมแบตเตอร์รี่ใหม่ขนาด 25.4 กิโลวัตต์ชั่วโมง สามารถชาร์จไฟได้เต็ม ใน 30 นาที ด้วย DC Charger สูงสุด 55 KW และมี AC Charger 11 KW ในโหมดไฟฟ้าล้วนสามารถวิ่งไกลสุด 100 กม. และทำความเร็วได้สูงสุด 140 ก.ม./ช.ม. ในรุ่น C300 e โดยทุกขนาดเครื่องยนต์จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 9 อัตโนมัติ 9 สปีด 9G-TRONIC เลือกได้ทั้งแบบขับเคลื่อนล้อหลัง Mercedes-Benz C-Class เจนใหม่พร้อมเปิดตัวอย่างเป็นทางการที่ไทยช่วงปีหน้านี้

    ที่มา ฐานเศรษฐกิจ

    ABOUT THE AUTHOR

    Latest Posts