ทำตลาดเมืองไทยมาครบหนึ่งปีเต็มสำหรับ BMW i4 เก๋งประตูไร้กรอบขับเคลื่อนด้วยพลังไฟฟ้าล้วนหลังยุติการจำหน่ายรุ่นเริ่มต้นเดิม i4 eDrive40 M Sport
งานนี้กลับมาอีกครั้งด้วยรุ่นใหม่ BMW i4 eDrive35 M Sport Gran Coupé สี่ประตูที่ผสมผสานความโอ่อ่ากว้างขวางภายในตัวรถเข้ากับการใช้งานจริง ช่วงหน้าของรถที่สั้นลง เสาทรงเพรียว ประตูพร้อมหน้าต่างแบบไร้ขอบ หลังคาท้ายลาดที่ออกแบบมาอย่างโฉบเฉี่ยว พร้อมระบบไฟหน้าแบบ LED พร้อมระบบปรับการทำงานไฟสูงอัตโนมัติ และกระจังหน้าทรงไตคู่ที่มาพร้อมกับกล้องที่แฝงตัวอยู่ภายใน เซ็นเซอร์แบบเรดาร์และอัลตราโซนิก ล้วนแล้วแต่เป็นคุณสมบัติเด่นในส่วนหน้าของตัวรถ
พร้อมการตกแต่งภายนอกด้วยชุดตกแต่ง M Sport พร้อมวัสดุสีเงาดำ คาลิเปอร์เบรกดีไซน์ M Sport สปอยเลอร์ท้ายดีไซน์ M ความสะดวกสบายของผู้ขับขี่ได้รับการยกระดับให้ดียิ่งขึ้นด้วยระบบเปิด-ปิดฝากระโปรงท้ายอัตโนมัติด้วยระบบไฟฟ้า และระบบปลดล็อกประตูอัจฉริยะ นอกจากนั้น ล้อ M aerodynamic น้ำหนักเบาขนาด 18 นิ้ว แบบสลับสี พร้อมยางหน้า 245/45 R18 และยางหลัง 255/45 R18 ช่วยเพิ่มรูปลักษณ์ภายนอกโฉบเฉี่ยวอีกด้วย
ภายในห้องโดยสารเน้นการใช้งานสำหรับผู้ขับขี่ เสริมด้วยบรรยากาศแห่งความหรูหราระดับพรีเมียม พร้อมพื้นที่ใช้สอยกว้างขวาง พร้อมตกแต่งด้วยอลูมิเนียมลาย ‘Mesheffect’ เบาะนั่งปรับไฟฟ้าพร้อมระบบจำตำแหน่ง แผงหน้าปัดรถยนต์หุ้มหนัง Sensatec ระบบปรับอากาศอัตโนมัติแบบ 3 โซน และชุดไฟสร้างบรรยากาศภายในห้องโดยสาร ช่วยเสริมที่สุดแห่งความเพลิดเพลินและความสะดวกสบายในระหว่างการขับขี่
ระบบปฏิบัติการ BMW Operating System 8 ได้รับการออกแบบมาโดยเน้นการใช้งานหน้าจอสัมผัสแบบโค้ง BMW Curved Display และการสั่งการด้วยเสียงผ่านระบบผู้ช่วยส่วนตัว BMW Intelligent Personal Assistant ที่ถูกพัฒนามาให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น หน้าจอดิจิทัล BMW Curved Display มาพร้อมจอแสดงข้อมูลขนาด 12.3 นิ้ว และจอควบคุมระบบสัมผัสขนาด 14.9 นิ้ว หน้าจอโค้งด้วยองศาที่รับกับมุมสายตาของผู้ขับขี่
นอกจากนี้ BMW Live Cockpit Plus ติดตั้งมาเป็นมาตรฐานพร้อมระบบเครื่องเสียง HiFi loudspeaker ให้ผู้รักเสียงเพลงได้เพลิดเพลินไปกับคุณภาพเสียงที่คมชัดยิ่งขึ้น ระบบเชื่อมต่อสมาร์ทโฟนยังช่วยให้ผู้ขับขี่เข้าถึงแอปพลิเคชันโปรดและความบันเทิงอย่างไร้รอยต่อในขณะเดินทาง นอกจากนี้ BMW lconicSounds Electric ยังมาพร้อมกับเสียงประกอบต่าง ๆ ที่สร้างสรรค์ผ่านความร่วมมือระหว่างบีเอ็มดับเบิลยูและ Hans Zimmer นักประพันธ์เพลงประกอบภาพยนตร์ชื่อดัง
ประสบการณ์การขับขี่แบบสปอร์ตยังมาพร้อมเสียงอันทรงพลังที่ตอบสองในจังหวะการเร่งเครื่องซึ่งเป็นเอกลักษณ์เฉพาะด้วยเทคโนโลยี eDrive เจเนอเรชั่นที่ 5 ประกอบด้วยแบตเตอรี่แรงดันสูงพร้อมด้วยเทคโนโลยีเซลล์แบตเตอรี่ล่าสุด โดยมีความจุพลังงานแบตเตอรี่แรงดันสูงที่ 70.2 kWh ผสมผสานมอเตอร์ไฟฟ้าให้กำลัง 286 แรงม้า แรงบิด 400 นิวตันเมตร เข้ากับระบบขับเคลื่อนล้อหลังแบบคลาสสิก
มอบระยะวิ่งไกลสูงสุดถึง 483 กม./ชาร์จหนึ่งครั้ง ใช้อัตราการใช้ไฟฟ้ารวม 18.7 – 15.8 กิโลวัตต์ชั่วโมง/100 กิโลเมตร ตามมาตรฐาน WLTP และระยะทางวิ่งสูงสุด 490 กม./ชาร์จหนึ่งครั้ง อัตราการใช้ไฟฟ้ารวม 15.2 กิโลวัตต์ชั่วโมง/100 กิโลเมตร ตามมาตรฐาน NEDC อัตราเร่ง 0 – 100 กม./ชม. ได้ 6 วินาที สามารถชาร์จไฟฟ้าแบบกระแสตรง (DC) สูงสุดได้ที่ 180 kW ใช้เวลาประมาณ 35 นาที ในการชาร์จไฟจาก 0 – 80% และกระแสสลับ (AC) สูงสุด 11 kW ใช้เวลา 7 ชม. ในการชาร์จไฟจาก 0 – 100%
ยกระดับความปลอดภัยในขณะขับขี่และเมื่อจอดรถโดดเด่นด้วยระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติพร้อมฟังก์ชั่น Stop&Go และระบบช่วยการขับขี่ มาพร้อมกับช่วยนำรถเข้าที่จอดอัตโนมัติ ช่วยเตือนอาการเหนื่อยล้าขณะขับขี่ ควบคุมเสถียรภาพการขับขี่อัตโนมัติ (ASC) ควบคุมการยึดเกาะถนน (DTC) ควบคุมแรงดันเบรกแบบแปรผัน (DBC) ป้องกันล้อล็อกขณะเบรก (ABS) สร้างเสียงจำลองเตือนผู้ใช้ถนนรอบข้าง เซนเซอร์ควบคุมระบบความปลอดภัยเมื่อเกิดการชน และระบบ Teleservices
BMW i4 eDrive35 M Sport ใหม่ มีให้เลือก 4 สี คือ สีดำ Black Sapphire, สีขาว Mineral White, สีเทา M Brooklyn Grey และสีน้ำเงิน M Portimao Blue ในราคารวมแพ็คเกจบำรุงรักษา BSI Standard เพียง 3,899,000 บาท
