More

    Ford Everest 2023 อเนกประสงค์หรูเจนใหม่เพื่อทุกการผจญภัย

    อเนกประสงค์เรือธงของค่าย Ford เปิดตัวอย่างเป็นทางการกับFord Everest เจนใหม่ ที่มาพร้อมกับรูปลักษณ์เด่นสง่าและเทคโนโลยีเหนือชั้น

    Ford

    Ford Everest เจนใหม่ ผสานสมรรถนะเพื่อการผจญภัยเข้ากับความสะดวกสบายอันเหนือระดับ และเทคโนโลยีเพื่อผู้ขับขี่ในรูปแบบของรถยนต์นั่งอเนกประสงค์ที่พร้อมลุย หรูหรา และสนุกในทุกการเดินทางรูปโฉมภายนอกได้รับการพัฒนาให้มีความแข็งแกร่ง ดุดัน พร้อมลุยทุกเส้นทาง เริ่มที่ ระยะฐานล้อที่กว้างและระยะระหว่างล้อหน้าและหลังที่เพิ่มขึ้นทำให้สร้างสรรค์รูปลักษณ์ที่ดูล้ำสมัยและบึกบึนมากขึ้นบนไฟหน้า Matrix LED ใหม่รูปตัว C และลายเส้นอันทรงพลังบนกระจังหน้า ส่วนหน้าของรถยังมีการผสมผสานขององค์ประกอบที่มีทั้งแนวตั้งและแนวนอน สื่อถึงเสถียรภาพในการขับขี่ที่เหนือชั้น  เส้นด้านข้างตัวถังทอดยาวจากด้านหน้าจรดท้ายรถเน้นการออกแบบตัวถังที่สะดุดตา ฐานล้อที่กว้างทำให้ซุ้มล้อใหญ่โดดเด่น เพิ่มความแข็งแกร่งและทันสมัยให้กับรถ

    Ford

    ราวหลังคาของเอเวอเรสต์เป็นมากกว่าการออกแบบเพื่อความสวยงาม แต่นี่คืออุปกรณ์ที่ออกแบบมาเพื่อการผจญภัยโดยเฉพาะ รองรับน้ำหนักได้มากถึง 350 กิโลกรัมขณะรถจอดอยู่กับที่ และรับน้ำหนักได้มากถึง 100 กิโลกรัมขณะรถเคลื่อนที่ มอบการใช้งานแบบอเนกประสงค์ยิ่งขึ้นเพื่อบรรทุกสิ่งของ เช่น จักรยาน เรือแคนู กล่องสัมภาระ ไปจนถึงเต็นท์บนหลังคารถ พร้อมจุดยึดที่รองรับการใช้งานหลากหลายเหมาะสำหรับการติดตั้งหรือใช้อุปกรณ์เสริมต่างๆ ไฟท้าย LED ดีไซน์ใหม่ ส่วนล้ออัลลอยมีให้เลือกทั้งขนาด 17 นิ้ว พร้อมยาง 265/70 R17 ขนาด 18 นิ้ว พร้อมยาง 255/65 R18 และใหญ่สุด 20 นิ้ว พร้อมยาง 265/50 R20 และราวหลังคาออกแบบใหม่ Built-In

    Ford

    ภายในห้องโดยสารแตกต่างโดยสิ้นเชิงเมื่อขึ้นไปนั่งในรถคือความเงียบของห้องโดยสาร เงียบพอที่จะพูดคุยกับครอบครัวหรือเพื่อนฝูงได้ง่ายๆ และใช้เวลาอันมีค่าระหว่างเดินทางไปด้วยกันรวมถึงพัฒนาอุปกรณ์และการตกแต่งภายในห้องโดยสาร โดยนำแรงบันดาลใจมาจากบ้านสมัยใหม่ การใช้วัสดุตกแต่งที่ให้ความรู้สึกหรูหรา และติดตั้งไฟสร้างบรรยากาศในทุกส่วนที่จะทำให้เกิดประโยชน์สูงสุดพร้อมสอดรับกับฟังก์ชั่นอื่นๆหลายส่วน ตั้งแต่แผงหน้าปัดด้านหน้าที่วางเต็มความกว้างของพื้นที่ คอนโซลกลางพร้อมที่วางแก้วน้ำ 2 ตำแหน่ง และที่วางแก้วน้ำแบบพับเก็บได้สำหรับเบาะคู่หน้า ระบบการชาร์จแบบไร้สาย เกียร์อัตโนมัติแบบ Electronic Shifter หุ้มด้วยหนังสวยงามจับถนัดมือ พร้อมเบรกไฟฟ้า เบาะนั่งคนขับปรับไฟฟ้า 10 ทิศทาง สามารถปรับอุณภูมิและระบายอากาศได้ เบาะนั่งผู้โดยสารตอนหน้าปรับไฟฟ้า 8 ทิศทาง รองรับการจดจำการตั้งค่าส่วนตัวของผู้ขับขี่และผู้โดยสาร และเบาะนั่งแถว 2 ยังสามารถปรับอุณภูมิได้ ขึ้นอยู่กับแต่ละรุ่นย่อย

    เบาะนั่งแถวที่ 3 เข้า-ออกได้ง่ายขึ้น ด้วยการออกแบบให้เบาะนั่งแถวที่ 2 ขยับมาด้านหน้ามากกว่าเดิม นอกจากนี้ ผู้โดยสารทุกคนยังมีพื้นที่เก็บสัมภาระ และชาร์จอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ของตนเองได้ด้วยการติดตั้งปลั๊กไฟทั้ง 3 แถว เบาะนั่งแถวที่ 2 ปรับเลื่อนได้ และพับได้แบบแบ่ง 60:40 ส่วนเบาะนั่งแถวที่ 3 ซึ่งทำให้รถจุผู้โดยสารได้ 7 คน แบ่งที่นั่งในอัตราส่วน 50:50 และพับได้แบบไฟฟ้าสำหรับบางรุ่น ที่สำคัญเบาะแถวที่ 2 และ 3 ยังพับได้แบบแบนราบเพื่อการบรรทุกสัมภาระยาวๆ ได้อย่างปลอดภัย

    พร้อมวิธีการป้องกันไม่ให้ของตกเมื่อเปิดประตูท้ายรถ โดยสร้างขอบเล็กๆ ที่เรียกกันเองในทีมว่า “จุดดักแอปเปิ้ล” (Apple catcher) บริเวณด้านหลังของที่เก็บสัมภาระ และยังมีที่เก็บของใต้พื้นรถเพื่อความเป็นระเบียบของห้องโดยสาร

    Ford

    นอกจากความประณีตและความสะดวกสบายยิ่งขึ้นแล้วยังให้ความสำคัญกับการยกระดับอุปกรณ์เชื่อมต่อการสื่อสารและเทคโนโลยีอันทันสมัย ด้วยแผงมาตรวัดดิจิทัลขนาด 8 หรือ 12.4 นิ้วขึ้นอยู่กับแต่ละรุ่นย่อย และยังมีหน้าจอแบบสัมผัสความคมชัดสูงขนาด 10.1 หรือ 12 นิ้ว มาพร้อมระบบเชื่อมต่อการสื่อสาร SYNC® 4A พร้อมรองรับการสั่งงานด้วยเสียงเพื่อการสื่อสาร ควบคุมอุปกรณ์เพื่อความบันเทิง และเข้าถึงข้อมูลต่างๆ รวมถึงการติดตั้งโมเด็มมาจากโรงงานเพื่อให้เชื่อมต่อกับแอปพลิเคชันฟอร์ดพาส (FordPass™) ยกระดับประสบการณ์การเป็นเจ้าของรถด้วยความสามารถในการสตาร์ทรถจากระยะไกล การตรวจเช็คสถานะต่างๆ ของรถ รวมไปถึงการล็อค และปลดล็อคผ่านโทรศัพท์มือถือหน้าจอทัชสกรีนแนวตั้งยังเชื่อมต่อกับกล้อง 360 องศา โดยมีหน้าจอแยกส่วนเพื่อให้จอดรถได้สะดวกยิ่งขึ้นในพื้นที่แคบ หรือช่วยเหลือผู้ขับขี่ในการเดินทางบนสภาพเส้นทางที่มีความสมบุกสมบัน

    บริการต่างๆ ประกอบด้วยแอปพลิเคชัน Ford Pass ช่วยให้ลูกค้านัดเข้ารับบริการผ่านช่องทางออนไลน์ได้ เช่น บริการด่วนและบริการรถเคลื่อนที่ นอกจากนี้ ลูกค้ายังสตาร์ทรถผ่านทางแอปฯ ได้ เหมาะกับการใช้งานทั้งในวันที่ร้อนและหนาวจัดบริการให้ยืมรถระหว่างเข้ารับบริการ ให้ลูกค้าสามารถยืมใช้งานรถระหว่างที่รถเข้ารับบริการได้บริการรับ-ส่งคืนรถ ลูกค้าไม่จำเป็นต้องออกจากบ้านหรือออฟฟิศ ส่งมอบความสะดวกสบายให้แก่ลูกค้ายิ่งกว่าเคย

    FordFord

    Ford จึงเลือกนำเครื่องยนต์ดีเซล 3.0 ลิตร V6 เทอร์โบ มาปรับจูนให้เหมาะ เพื่อเป็น 1 ใน 3 ตัวเลือกของเครื่องยนต์เทอร์โบดีเซลโดยให้กำลังและแรงบิดในแบบที่ลูกค้าต้องการจากเครื่องยนต์ขนาดใหญ่แข็งแกร่งมากในแง่ของพละกำลังและแรงบิดที่มหาศาล แต่ยังคงไว้ซึ่งความเงียบเมื่ออยู่บนถนน แบบ Power Stroke  258 แรงม้าที่ 3,250 รอบ/นาที แรงบิด 597 นิวตันเมตรที่ 1,750 รอบ/นาที

    พร้อมตัวเลือกเครื่องยนต์ที่เหมาะกับไลฟสไตล์ที่แตกต่างกัน ตั้งแต่เครื่องยนต์ดีเซล 2.0 ลิตร เทอร์โบ อีก 2 แบบ ทั้งดีเซลเทอร์โบคู่ Bi-Turbo รหัส YN2Q 2.0 ลิตร 210 แรงม้า ที่ 3,750 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 500 นิวตันเมตรที่ 1,750-2000 รอบ/นาที และดีเซลเทอร์โบเดี่ยว รหัส P02Q 170 แรงม้าที่ 3,500 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 405 นิวตันเมตรที่ 1,750-2,500 รอบ/นาที ทั้งที่จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติแบบซีเล็กชิฟท์ 10 สปีด เกียร์อัตโนมัติ 10 และ 6 สปีดอันทรงประสิทธิภาพ

    Ford

    พร้อมพาคุณไปสัมผัสทุกการผจญภัย ด้วยตัวเลือกระบบการขับขี่ 4 ล้อ 2 รูปแบบ โหมดการขับขี่ออฟโรดที่หลากหลาย เฟืองท้ายแบบ Locking Rear Differential พร้อมการเปลี่ยนโหมดการขับขี่ขณะรถเคลื่อนที่ด้วยระบบไฟฟ้า (Electronic Shift-On-The-Fly) หรือเรียกว่าระบบขับเคลื่อน 4 ล้อแบบ PART TIME กับระบบขับเคลื่อน 4 ล้อที่มาพร้อมเทคโนโลยีขั้นสูงแบบ Full Time ที่มาพร้อมเกียร์ทรานสเฟอร์แบบ 2 จังหวะ (On-Demand Two-Speed Electromechanical transfer case – EMTC) ควบคุมด้วยไฟฟ้าพร้อมโหมดการขับขี่ที่เลือกใช้งานให้เหมาะกับสภาพถนนได้ และในบางประเทศยังมาพร้อมตัวเลือกระบบการขับเคลื่อนแบบ 2 ล้อด้วย

    Ford

    หน้าจอแสดงผลสำหรับการขับขี่แบบออฟโรด แสดงผลข้อมูลเกี่ยวกับรถและสภาพเส้นทางด้านหน้าจากกล้องหน้าพร้อมกับแนวเส้นกะระยะ ช่วยผู้ขับขี่ฝ่าทุกอุปสรรคได้ง่ายขึ้น เพียงกดปุ่มเพียงปุ่มเดียว ผู้ขับขี่สามารถเลือกดูข้อมูลได้ครบครัน ทั้งระบบส่งกำลังและระบบล็อกเฟืองท้าย มุมการบังคับควบคุมพวงมาลัย และระดับความเอียงของรถ และลุยน้ำได้สูงสุดถึง 800 มิลลิเมตร และมีความสามารถในการลากจูงถึง 3,500 กิโลกรัม วัสดุป้องกันช่วงล่าง ตะขอคู่หน้าและช่องต่อพ่วงอุปกรณ์ออฟโรด Upfitter Switch

    Ford

    เสริมความมั่นใจด้วยเทคโนโลยีช่วยการขับขี่ด้วยเทคโนโลยีช่วยการขับขี่และอุปกรณ์ปกป้องความปลอดภัยที่ได้รับการพัฒนาไปอีกขั้น เพื่อมอบความสบายใจและช่วยให้ผู้ขับขี่มีสมาธิมากขึ้น เริ่มต้นจากถุงลมนิรภัยใหม่ติดตั้งระหว่างผู้ขับและผู้โดยสารด้านหน้า เพิ่มการป้องกันในกรณีที่มีการชนจากด้านข้าง และถุงลมนิรภัยคู่ด้านหน้าป้องกันเข่าและขา มาพร้อมถุงลมนิรภัยสูงสุดถึง 9 ตำแหน่ง รวมถึงถุงลมนิรภัยด้านคนขับและผู้โดยสารตอนหน้า ถุงลมนิรภัยด้านข้างระดับหน้าอกทั้ง 2 ฟาก และม่านถุงลมนิรภัยคู่ด้านข้างครอบคลุมถึงที่นั่ง 3 แถว ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับรุ่นและประเทศที่จำหน่าย

    ระบบช่วยจอดอัจฉริยะ 2.0 ช่วยให้ผู้ขับขี่จอดรถในพื้นที่แคบได้อย่างปลอดภัยเพียงแค่ปลายนิ้วสัมผัส ระบบจะช่วยบังคับพวงมาลัย ปรับเกียร์ เร่งความเร็วและเบรกในการจอดรถแบบขนานหรือเข้าช่องจอดได้อย่างง่ายดาย และระบบจะนำรถออกจากที่จอดรถแบบขนานเมื่อได้รับคำสั่ง

    ระบบควบคุมความเร็วแบบรักษาระยะห่างอัตโนมัติใหม่ มีทั้งหมด  3 แบบ ขึ้นอยู่กับรุ่นและประเทศที่วางจำหน่าย ประกอบด้วย

    – ระบบควบคุมความเร็วแบบรักษาระยะห่างอัตโนมัติพร้อมฟังก์ชัน Stop and Go (Adaptive cruise control with stop and go) ช่วยผู้ขับขี่รักษาความเร็วตามที่ตั้งไว้และรักษาระยะห่างจากรถด้านหน้า พร้อมเบรกให้รถจอดสนิทเมื่อจำเป็น

    – ระบบควบคุมความเร็วแบบรักษาระยะห่างอัตโนมัติพร้อมฟังก์ชัน Stop and Go และควบคุมรถให้อยู่กลางช่องทาง (Adaptive cruise control with stop and go and lane centering) จับเส้นแบ่งช่องทางและช่วยควบคุมให้รถอยู่ตรงกลางช่องทางได้

    – ระบบควบคุมความเร็วแบบรักษาระยะห่างอัจฉริยะ (Intelligent adaptive cruise control) อ่านป้ายจราจรและปรับความเร็วอัตโนมัติตามที่กำหนดได้

    นอกจากนี้ ยังมีเทคโนโลยีช่วยในการขับขี่ที่ได้รับการพัฒนาขึ้นไปอีกขั้นและเทคโนโลยีใหม่ๆ  ประกอบด้วย

    Ford

    – (ใหม่) ช่วยควบคุมรถให้อยู่ในช่องทางผสานระบบตรวจจับขอบถนน (Lane-keeping system with road-edge detection)

    – (ใหม่) ช่วยหักพวงมาลัยเพื่อเลี่ยงการปะทะ (Evasive steer assist) ออกแบบให้ทำงานขณะขับขี่ในเมืองหรือบนทางด่วน โดยใช้เรดาร์และกล้องตรวจจับรถที่ขับด้วยความเร็วต่ำหรือหยุดนิ่งด้านหน้า และส่งแรงช่วยผู้ขับขี่บังคับพวงมาลัยหลบเพื่อลดความเสี่ยงจากการชน

    – (ใหม่) ช่วยหยุดรถอัตโนมัติขณะถอยหลัง (Reverse brake assist) ช่วยให้ถอยหลังเพื่อเข้าซองจอดหรือจอดในพื้นที่แคบๆ ด้วยการเตือนด้วยเสียงและภาพ ระบบสามารถตรวจจับรถ จักรยาน และคนเดินถนนที่ผ่านมาด้านหลังได้ และยังช่วยเบรกให้รถจอดสนิทได้ด้วยหากผู้ขับขี่ไม่ตอบสนองอย่างทันท่วงที

    – (ใหม่)ตรวจจับรถในจุดบอดครอบคลุมส่วนต่อพ่วง (Blind spot information system with trailer coverage) ตรวจจับจุดบอดรอบคันรวมถึงส่วนต่อพ่วง โดยจะแจ้งเตือนผู้ขับขี่เมื่อระบบคาดว่าอาจเกิดอันตราย ระบบนี้รองรับเทรลเลอร์ที่มีความกว้างสูงสุด 2.4 เมตร และยาว 10 เมตร

    – ป้องกันการชนเพื่อป้องกันการชนบริเวณทางแยก (Pre-collision assist with intersection functionality) ช่วยส่งแรงเบรกรถอัตโนมัติเพื่อหลีกเลี่ยงหรือลดผลกระทบจากอุบัติเหตุ ขณะที่ผู้ขับขี่กำลังเลี้ยวรถผ่านช่องทางที่มีรถวิ่งสวน เมื่อระบบประเมินว่าอาจเกิดการชนได้

    Ford

    Ford Everest เจนใหม่พร้อมที่ยลโฉมจริงให้ชาวไทยได้พบกันที่งาน Bangkok Motor Show 2022 และอาจขายจริงช่วงไตรมาส 3 ของปีนี้ ทันงาน Big Motor Sale 2022 โดยสเปคไทยอาจมีทั้งรุ่น Titanium+, Platinum (รุ่นใหม่), Sport และ Trend

     

     

     

    ABOUT THE AUTHOR

    Latest Posts