เริ่มทยอยปรับโฉมกันไปแล้วสำหรับ ISUZU D-MAX ตั้งแต่ไทยจนมาถึง ลาว กัมพูชา ออสเตรเลีย และล่าสุดที่มาเลเซีย ที่หล่อไม่แพ้ใคร
เริ่มที่ กระจังหน้าทรงเขี้ยวกุดสองชั้นพร้อมตราโลโก้ ISUZU แบบ Double Dimensions โดยสีสันกระจังหน้าจะตามแต่ตัวตนของแต่ละรุ่นย่อยทั้งแบบสีเทา/สีดำ,สีเทา/สีดำเงา, สีเทาเข้ม/เงินโครเมียมและสีเทาดำ/ดำโครเมียม ลงตัวกับกันชนหน้าทรงสปอร์ตพร้อมไฟตัดหมอก LED
กระจกมองข้างพร้อมไฟเลี้ยว LED ปรับพับด้วยไฟฟ้าและพับอัตโนมัติหลังล็อกรถ ล้อและยางมีหลากขนาดตั้งแต่ กระทะล้อ 16 นิ้ว พร้อมยาง 20516C ล้ออัลลอยลายใหม่ Aeroscrew ขนาด 17 นิ้วพร้อมยาง 255/65 R17 และขนาด 18 นิ้ว ลาย Robust Radius พร้อมยาง 265/60 R18
ไฟท้าย Dual-Sonic LED มามาดโหดโทนสีเข้ม Black Chrome พร้อมไฟตัดหมอกหลัง เสาอากาศแบบเสาสั้น บันไดข้าง กันชนหลังดีไซน์กลมกลืนกับตัวรถ แต่มีออปชันเฉพาะบ่งบอกตัวตน ตั้งแต่ กระจกมองข้างโครเมียม ส่วนในรุ่น X-TERRAIN มาพร้อมชุดแต่งแบบเดียวกับ ISUZU V-Cross 4×4 สเปกไทย ทั้ง การ์ดเสริมกันชนหน้า คิ้วขอบล้อสีดำ ราวหลังคาดีไซน์กลมกลืนกับตัวรถ และไฟส่องพื้นรถ
ภายในเหมือนสเปกไทยตั้งแต่แผงคอนโซลหน้าเล่นระดับพร้อมการหุ้มหนังสัมผัสสีดำ มาตรวัดเรืองแสงพร้อม Smart MID 4.2 นิ้ว แผงควบคุมระบบปรับอากาศอัตโนมัติแยกอุณหภูมิซ้าย-ขวาพร้อมทิศทางลม 5 ตำแหน่งแบบ Piano Touch พวงมาลัยปรับระดับได้ 4 ทิศทาง Tilt & Telescopic เบาะนั่งคู่หน้าลดความเมื่อยล้าปรับไฟฟ้า 8 ทิศทางในตำแหน่งที่นั่งคนขับ มาด้วยลายเบาะหนังลายใหม่
พร้อมระบบความบันเทิง หน้าจอระบบสัมผัส Infotainment Display ขนาด 7 กับ 9 นิ้ว รองรับระบบ Apple CarPlay และ Android Auto ระบบเสียงรอบทิศทาง Dynamic Surround Sound 8 ลำโพง ที่บังแดดพร้อมกระจกและไฟส่องสว่าง Vanity Mirror & Light สองด้าน ปุ่ม Push Start พร้อมกุญแจแบบ Keyless Entry พร้อมฟังก์ชัน Remote Engine Start สตาร์ทเครื่องยนต์ด้วยกุญแจรีโมทในระยะ 20 เมตร
แต่สเปกมาเลเซียให้เหนือกว่าไทยตรงที่ มีปุ่มดันหลังข้างเบาะคนขับ ที่ชาร์จมือถือไร้สาย กล้องบันทึกภาพด้านหน้าและด้านหลัง กระจกมองหลังตัดแสงอัตโนมัติ สคัพเพลทหรือชายบันไดเรืองแสง ไฟส่องพื้นเ แผงควบคุมเครื่องปรับอากาศปุ่มหมุนแบบ Full Mode Control พร้อมทิศทางลม 5 ตำแหน่งรวมตำแหน่งไล่ฝ้ากระจกหน้าซึ่งสเปกไทยไม่มี
ขุมพลังที่จำหน่ายเหมือนสเปกไทยทั้งดีเซลเทอร์โบแปรผัน 3.0 ลิตร 4JJ3-TCX 190 แรงม้า ที่ 3,600 รอบ/นาที แรงบิดสูง 450 นิวตันเมตร ที่ 1,600-2,600 รอบ/นาที E-VGS TURBO เทอร์โบแปรผันปรับไฟฟ้า และ 1.9 ลิตร RZ4E-TC Gen 2 150 แรงม้า ที่ 3,600 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 350 นิวตันเมตร ที่ 1,800-2,600 รอบ/นาที จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด มาพร้อมโหมดการขับขี่แบบสปอร์ต Rev Tronic และเกียร์ธรรมดา 6 สปีดพร้อม Genius Sport Shift
เลือกได้ทั้งรุ่นขับเคลื่อนสองล้อยกสูงกับขับเคลื่อน 4 ล้อพร้อมระบบ 4WD Terrain Command ทำงานฉับไว ระบบเฟืองท้ายแบบ Electronic Diff-lock ควบคุมด้วยไฟฟ้าและลุยน้ำสูงสุด 800 มิลลิเมตร
ระบบความปลอดภัยเหมือนสเปกไทยด้วยระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ให้สามารถขับรถได้อย่างปลอดภัย advanced driver assist system (ADAS) ผ่านกล้องหน้าคู่ Smart Duo Cam ตรวจจับเส้นถนนและวัตถุด้านหน้าแบบ Real Time พร้อมเรดาร์ 2 จุด และเซนเซอร์ 8 จุดรอบคัน กับฟังก์ชันความปลอดภัยได้แก่ ระบบเตือนการชนด้านหน้าอัตโนมัติ FCW Front Forward Collision Warning หยุดรถอัตโนมัติ AEB (Autonomous Emergency Brake)
ช่วยเบรกฉุกเฉินขณะกำลังเลี้ยว TA (Turn Assist) ควบคุมความเร็วแปรผันอัตโนมัติ ACC (Adaptive Cruise Control) พร้อมฟังก์ชัน Stop and Go เตือนเมื่อออกนอกเลน LDWS (Lane Departure Warning System) ตัดกำลังเครื่องยนต์เมื่อเหยียบคันเร่งผิดพลาด PMM (Pedal Misapplication Mitigation) ควบคุมไฟสูงอัตโนมัติ AHB (Automatic High Beam) เบรกอัตโนมัติหลังการเกิดอุบัติเหตุ ช่วยลดโอกาสการเกิดอุบัติเหตุซ้ำซ้อน MCB (Multi-Collision Brake) ตั้งค่าจำกัดความเร็วสูงสุดด้วยตัวเอง MSL (Manual Speed Limiter)
(แต่ไม่มี ระบบอ่านป้ายจราจร TSR (Traffic Sign Recognition) ช่วยควบคุมรถเมื่อรถออกนอกเลน LDP (Lane Departure Prevention) จำกัดความเร็วอัจฉริยะ ISL (Intelligent Speed Limter) ช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลน LKAS (Lane Keep Assist System) และแจ้งเตือนการเหนื่อยล้าขณะขับขี่ AA (Attention Assist) )
จากเดิมมีทั้ง ระบบเตือนเมื่อมีรถในจุดอับสายตาขณะเปลี่ยนเลน BSM (Blind Spot Monitoring) เตือนเมื่อมีรถในจุดอับสายตาขณะถอยหลัง RCTA (Rear Cross Traffic Alert) เบรก ABS กระจายแรงเบรก EBD ควบคุมการทรงตัว ESC ป้องการลื่นไหล TCS ช่วยออกตัวขณะอยู่บนทางลาดชัน HSA (Hill Start Assist) ลดกำลังเครื่องยนต์เพื่อช่วยเบรก BOS (Brake Override System)
ควบคุมความเร็วขณะลงทางลาดชัน HDC (Hill Descent Control) เปิดไฟฉุกเฉินอัตโนมัติ เมื่อเบรกกระทันหัน ESS (Emergency Stop Signal) สัญญาณการถอยจอดรถ Parking Aid System พร้อมเซนเซอร์กะระยะ 8 จุดรอบคัน ถุงลมนิรภัยคู่หน้าและ 7 จุด รวมใต้เข่าคนขับ และกล้องมองภาพด้านหลังและรอบคัน
ISUZU D-MAX Facelift เปิดตัวทั้งแบบตอนเดียว สี่ประตู ที่มีให้เลือกถึงตั้งแต่รุ่น Single Cab, Standard, Auto Plus, Premium และ X-Terrain นำเข้าจากประเทศไทย โดยมีราคาจำหน่ายเริ่ม 94,949.20 – 150,938.40 RM หรือราว 739,000 – 1,085,000 บาท (ไม่รวมภาษีนำเข้าของไทย)
ที่มา ISUZU Malaysia